วันที่ 13 มิ.ย. นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พา น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ลูกสาว เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ โดยระบุว่าลูกสาวถูกอดีตสามี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของลูกสาว และมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพและถ่ายคลิปขณะลูกสาวอาบน้ำ พร้อมกับมีพฤติกรรมลวนลามหลายครั้ง โดยเรื่องดังกล่าวได้ร้องทุกข์ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ไปตั้งแต่เดือน ก.ย.59 พร้อมเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่เดือน ส.ค.59 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
จนต้องเข้าไปร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และเข้าร้องทุกกับผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายสุวิทย์ คำดี ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัสพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ น.ส.ชุลีพร ภูสมสี ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายไชยา เครือหงส์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายวันชาติ บัวสิงห์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 พ.ต.อ.ประสิทธิ์ จำปาทุม ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ พนักงานสอบสวนเข้ามารับเรื่อง
นางเอ กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อช่วงเดือน ก.ค.59 ลูกชายเห็นคลิปวีดีโอและภาพนิ่งในโทรศัพท์มือถือพ่อเลี้ยง ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ และปัจจุบันได้หย่ากันแล้ว โดยเป็นภาพที่แอบถ่ายพี่สาวขณะอาบน้ำหลายคลิป และล่าสุดลูกชายก็เห็นอดีตพ่อเลี้ยงแอบย่องเอาโทรศัพท์ไปถ่ายพี่สาวขณะอาบน้ำอีก จึงนำเรื่องดังกล่าวมาบอกกับตน
นางเอ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามลูกชายบอกว่า เห็นคลิปและภาพนิ่งที่พ่อเลี้ยงแอบถ่ายพี่สาวขณะอาบน้ำมาหลายครั้งแล้ว แต่ลูกชายก็แอบลบภาพในโทรศัพท์ออก และเก็บเรื่องไว้ไม่บอกแม่และพี่สาว เพราะไม่อยากให้ครอบครัวมีปัญหา จนกระทั่งล่าสุดเห็นพ่อเลี้ยงถ่ายคลิปกับตา และทนกับพฤติกรรมพ่อเลี้ยงไม่ไหวจึงนำเรื่องมากบอกกับแม่ และพี่สาว ทั้งนี้หลังทราบเรื่องลูกสาวได้ไลน์ไปต่อว่าพ่อเลี้ยงว่าแอบถ่ายภาพเอาไปทำไม ซึ่งพ่อเลี้ยงก็ตอบกลับมาว่า “เป็นคนถ่ายเอง ถ่ายเก็บไว้เพื่อเอาไว้ช่วยตนเอง” จากนั้นจึงได้พยายามสอบถามลูกสาวว่าพ่อเลี้ยงมีพฤติกรรมอื่นหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบที่น่าตกใจจากลูกสาวว่า พ่อเลี้ยงมักฉวยโอกาสที่แม่ไม่อยู่บ้านลวนลามต่างๆ นานา หลายครั้งแล้ว ซึ่งทำมาตั้งแต่เรียนอยู่ ม.1 แล้ว จนปัจจุบันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีที่ 1 อายุ 19 ปี แต่ที่ผ่านมาไม่กล้าบอกใคร เพราะไม่มีหลักฐานกลัวไม่มีใครเชื่อ
นางเอ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวตนในฐานะแม่ ซึ่งจะต้องปกป้องลูกสาวอย่างที่แม่ควรทำ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์กับลูกสาวไปมากกว่านี้ จึงได้ตัดสินใจขอหย่ากับสามี ในช่วงเดือน ก.ย.59 หลังคบและอยู่กินกันมากว่า 12 ปี ตั้งแต่ปี 2548 เพราะทนกับพฤติกรรมและรับเรื่องดังกล่าวที่ทำกับลูกสาวไม่ได้ พร้อมกับนำหลักฐานทั้งคลิปวีดีโอที่เก็บไว้ 12 คลิป ภาพนิ่ง และบทสนทนาในไลน์เข้าร้องทุกกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 และเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.กุฉินารายณ์ แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า จึงต้องเข้ามาขอความเป็นธรรมครั้งนี้ และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ด้านนายสุวิทย์ คำดี ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนเข้ามารับเรื่องด้วยตนเอง พร้อมกับผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม และตำรวจพื้นที่เจ้าของคดี ซึ่งเรื่องดังกล่าวทราบว่าทางหน่วยงานต้นสังกัดกำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยจะต้องรายงานเข้ามายังผู้ว่าราชการจังหวัดภายในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ แต่ยืนยันว่าจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย
ด้านพล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งตำรวจสภ.กุฉินารายณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ ก็ได้รวบรวมพยานหลังฐาน พร้อมกับสอบหากคำผู้เสียหาย พยานแล้ว และขณะนี้ยังเหลือการสอบปากคำพยานอีก 1 คน และคาดว่าจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาอนาจารกับผู้อำนวยการโรงเรียนได้ในเร็วๆ นี้ ส่วนตำรวจจะแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มหรือไม่นั้นจะต้องการสอบพยานหลังฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง