โพสต์โดย : Admin เมื่อ 1 มิ.ย. 2561 15:48:03 น. เข้าชม 166450 ครั้ง
จากกรณีโลกโซเชี่ยลมีการวิพากษ์วิจารณ์ คลิป นักเรียนนั่งรับประทานอาหารกลางวัน เป็น ขนมจีนคลุกน้ำปลา ในถาดหลุม ลักษณะเป็นเหมือนศูนย์เด็กเล็ก โดยระบุว่าข้อความว่า “ขนมจีนกับน้ำปลา คือ อาหารกลางวันเด็ก ของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ม.17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ฯ (เด็กโตน้ำแกงหมูสับ)” ในคลิปเผยให้เห็นภาพเด็กเล็กใส่เสื้อกั๊ก บางรายก็มีลักษณะเหมือนขนมจีนราดแกงแต่ก็มองไม่ขัดว่าเป็นน้ำแกงอะไร ทำให้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียสกันเป็นจำนวนมาก ว่า เกิดการทุจริตในโครงการอาหารกลางวัน แต่บางรายก็ให้ข้อคิดว่าอาจเป็นเพราะเด็กรับประทานเผ็ดไม่ได้ จึงต้องราดน้ำปลา บางรายรับประทานเผ็ดได้ก็ราดน้ำแกง คลิกชมคลิป
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 มิ.ย. ที่สำนักงานพื้นที่การศึกษาสุราษฎร์ธานีเขตที่ 2 นายจักรรินทร์ อภิสมัย รอง.ผอ.ฝ่ายบริหารงานบุคคล รักษาการผู้อำนวยการ เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว แต่ทราบเรื่องข้อพิพาทแล้วและตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว เนื่องจากวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนหนึ่งรวมตัวประท้วงการปฏิบัติงานโดยมิชอบของนายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ โดยในวันนั้นทาง นายวิสูตร อินทรกำเนิด นายอำเภอท่าชนะได้ส่งปลัดอำเภอเข้ารับเรื่องจากชาวบ้าน และนายจักริน อักษรสม นิติกรชำนาญการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ 2 ได้ลงตรวจสอบในวันเดียวกัน ซึ่งชาวบ้านได้ยื่นข้อร้องเรียนในการปฏิบัติหน้าจำนวน 10 ข้อ แนบรายชื่อผู้ปกครองจำนวน 193 ราย ซึ่งข้อร้องเรียนทั้ง 10 ข้อ
ระบุว่า 1.มีการทุจริตโครงการอาหารกลางวัน 2.ทุจริตการก่อสร้างอาคารที่ผู้รับเหมาเป็นคนใกล้ตัวและอาคารที่สร้างไม่ได้มาตรฐานตามงบประมาณ 3.ทุจริตซ่อมแซมบ้านพักครู 4.ผอ.ซื้อน้ำอัดลมขายในโรงเรียน 5.ทุจริตการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าเนื่องจากไม่ทำตามแบบพัสดุ 6.ทุจริตเงินค่าปาล์มน้ำมันของโรงเรียน 7.ทุจริตก่อสร้างถนนหน้าอาคารเรียน 8.ทุจริตโครงการเลี้ยงปลาดุก 9.ทุจริตเลีเยงไก่พันธุ์ไข่ และ10.ปูกระเบื้องอาคารเรียน
ทั้งนี้ ได้ออกหนังสือคำสั่งให้ นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผอ.โรงเรียน ออกจากพื้นที่ และให้เข้าช่วยราชการประจำสำนักงานเขตฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.61โดยหลังจากนี้ทางสำนักงานพื้นที่การศึกษาสุราษฎร์ธานีเขตที่ 2 จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนทั้ง 10 ข้อ ภายใน 30 วัน ตามระเบียบ และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต่อไป