โพสต์โดย : Admin เมื่อ 9 ก.ค. 2562 13:27:22 น. เข้าชม 166404 ครั้ง
ผอ.ร.ร.วัดสุทธิ / เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 ก.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายชนธัณ อัศวฐานนท์ ประธานกลุ่มสุทธิต่อต้านคอรัปชั่น และนายสหรัฐ ก้องเกียรติศักดิ์ ประธานสภานักเรียนโรงเรียนวัดสุทธิวราราม พร้อมด้วยศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน จำนวนกว่า 10 ราย เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับรัฐมนตรีว่าการ ศธ. โดยมี ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงศ์จินดา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) รับเรื่องแทน
เพื่อขอให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตรวจสอบการทำงานของ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ถึงความไม่โปร่งใสในการบริหารงาน กรณีคูปองเงินอุดหนุนอุปกรณ์การเรียนให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น คนละ 210 บาท และมัธยมศึกษาตอนปลาย 230 บาท แทนเงินสด โดยต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนภายในโรงเรียนเท่านั้น แต่คุณภาพของสินค้าไม่เหมาะสมกับมูลค่าของสินค้าที่จำหน่าย
นายชนธัณ กล่าวว่า นอกจากกระเป๋านักเรียนที่จำหน่ายภายโรงเรียน มีการปรับขึ้นราคากระเป๋านักเรียนจาก 300 เป็น 350 บาท แต่กลับมีคุณภาพต่ำลง รวมทั้งการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งส่อไปทางการใช้เงินงบประมาณอย่างไม่คุ้มค่ากับประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับโรงเรียน เช่นการติดตั้งระบบไม้กั้นรถบริเวณทางเข้าโรงเรียน ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม รวมถึงปัญหางบประมาณการจัดสอนพิเศษเพื่อสอบโอเน็ต รวมถึงการดำเนินงานของสหกรณ์โรงเรียนที่ปัจจุบันราคาสินค้าสูงขึ้น และนำสินค้าหมดอายุ ขึ้นรา เข้ามาขายให้นักเรียน
“พวกเราทราบว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ยังมีข้อกังขาและคลางแคลงใจในกระบวนการตรวจสอบ เพราะในขณะนี้ผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร เรายังไม่ทราบผล และผู้อำนวยการโรงเรียน กลับเรียกนักเรียนและศิษย์เก่าเข้าไปพบ เพื่อเปิดกดดันให้เปิดเผยยานหลักฐาน และกดดันโน้มน้าวให้ยุติการเคลื่อนไหว แต่พวกเราต้องการให้ผู้อำนวยการเปิดเผยหลักฐาน ชี้แจงเรื่องต่างๆ ต่อสาธารณชน แต่ผู้อำนวยการกลับเรียกพบนักเรียนเข้าพบเป็นการส่วนตัว ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าร่วม” นายชนธัณ กล่าว
ว่าที่ ร.ต.ธนุ กล่าวว่า ขณะนี้สพฐ.มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร (สพม.กทม.) เขต 2 ย้าย ผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้มาช่วยราชการที่สพม. กทม.เขต 2 แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนยืนยันว่า สพฐ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ติดตามเรื่องนี้มาตลอด และเร่งรัดให้สพม.กทม. เขต 2 สรุปผลสอบการสืบข้อเท็จจริงโดยเร็ว
“เพื่อให้นักเรียนสบายใจ และได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น สพฐ.ในฐานะหน่วยงานส่วนกลางจะตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นที่ทางสพม.กทม.เขต 2 นั้นพบข้อมูลที่สอดคล้องกับที่นักเรียนเข้ามาให้ข้อมูลวันนี้ ซึ่งสพฐ.ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบ ตอนนี้ผมยังบอกไม่ได้ว่าผู้อำนวยการมีความผิดหรือไม่ แต่หากผู้อำนวยการมีความผิด อยู่ที่ว่าผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง ซึ่งตามระเบียบที่กำหนดไว้นั้น หากพบข้าราชการทุจริตในเรื่องของงบประมาณ ต้องถูกลงโทษในเรื่องของวินัยร้ายแรง มีโทษคือไล่ออก” ว่าที่ ร.ต.ธนุ กล่าว
ภาพบางส่วนจาก ปฏิบัติการณ์หมาเฝ้าบ้าน