ผอ.ชี้แจงแล้ว หลังโดนวิจารณ์ สารวัตรยึดข้าวกล่องจากบ้านของ นร.

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 1 มิ.ย. 2562 07:10:01 น. เข้าชม 166528 ครั้ง

ผอ.ชี้แจงแล้ว หลังโดนวิจารณ์ สารวัตรยึดข้าวกล่องจากบ้านของ นร.

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า มีเรื่องฝากถามไปยังท่านผอ.โรงเรียนทุ่งศุขลาพิทยา กรุงไทยอนุเคราะห์ วันนี้มีนักเรียนมาเล่าให้ผมฟังว่า ซื้ออาหารกลางวันรับประทานไม่ทัน เนื่องจากมีนักเรียนเป็นจำนวนมากและพักเที่ยงพร้อมกัน ทำให้ไม่ได้รับประทานอาหารกลางวันเนื่องจากต้องต่อคิวยาวและนานมาก 

ผมถามว่า แบบนี้ให้นำอาหารไปจากบ้านไปเองน่าจะพอแก้ปัญหาได้ น้องนักเรียนตอบว่า จะมีพี่สารวัตรนักเรียนค้นของที่นำเข้าโรงเรียน จะมีพี่สารวัตรบางคนยึดเอากล่องใส่อาหารกลางวันไปทำให้ไม่มีอาหารกลางวันสำหรับรับประทาน ถามน้องว่าเป็นนโยบายของโรงเรียนหรือเปล่าที่ให้ยึดกล่องอาหาร น้องบอกว่าไม่ใช่นโยบายแต่พี่สารวัตรน่ะจะทำไปโดยพละการ

 

ล่าสุด นายเสนีย์ สำราญสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนทุ่งศุขลาพิทยา กรุงไทยอนุเคราะห์ ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เผยว่าจากกรณีดังกล่าว ตนก็พึ่งจะทราบข่าวจากคณะครู และศิษย์เก่าของโรงเรียน ว่ามีการโพสต์กล่าวหาโรงเรียนในทางลบ เรื่องนี้ตนขอชี้แจงว่า ประเด็นแรก ตนไม่เคยสั่งห้าม ที่จะไม่ให้นักเรียนนำอาหารมากินในโรงเรียนเลย แต่ทางโรงเรียนได้มีมาตรการห้ามไม่ให้นำภาชนะชนิดกล่องโฟม รวมถึงถุงพลาสติก เข้ามาในโรงเรียน เนื่องจากทางโรงเรียนมีการรณรงค์ และประกาศห้ามไว้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากนักเรียนจะนำอาหารมา ก็ขอให้ใส่ในภาชนะถาวร ที่สามารถเก็บกลับบ้านได้

ส่วนในประเด็นที่ว่ามีสารวัตนักเรียนค่อยยึดอาหารของเด็กนักเรียนนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ส่วนที่จะยึดนั้นก็เป็นสิ่งของต้องห้าม อาชิเช่น บุหรี่ เครื่องสำอาง รวมถึงสารเสพติดต่างๆ ส่วนการปล่อยให้นักเรียนกินข้าวนั้น เวลาแต่ระชั้นเรียนจะไม่เท่ากัน มีการเผื่อเวลาให้ประมาณ 20 นาที ส่วนประเด็นที่ว่าที่นั่งของนักเรียนไม่พอนั้น ทางโรงเรียนก็ได้มีโต๊ะเสริมแล้ว คาดว่าน่าจะเพียงพอต่อจำนวนนักเรียน

ทั้งนี้จากโพสต์ดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับทางโรงเรียนเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการสร้างความเข้าใจผิดๆ ให้กับผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป ซึ่งตนเองไม่ถือโทษโกรธ แต่ตนอยากจะให้เข้ามาพูดคุยและขอโทษกับที่โพสต์ลงไป หลังจากนี้ทางโรงเรียนจะมีการประชุมร่วมกันสมาคมศิษย์เก่าของโรงเรียน เพื่อนำหลักฐานดังกล่าวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.