ขอนแก่น ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเอาผิด "ครูด็อกเตอร์" หลอกสวมสิทธิ์โครงการ "คนละครึ่ง" "เราเที่ยวด้วยกัน" (มีคลิป)

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 9 ก.พ. 2564 02:24:10 น. เข้าชม 166394 ครั้ง

ครูด็อกเตอร์หลอกชาวบ้านนำบัตรประชาชนที่ อ.หนองเรือ และ อ.บ้านฝาง ไปลงทะเบียนสวมสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง และ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ล่าสุด ผอ.สพป.เขต5 ขอนแก่น

ความคืบหน้ากรณีครูด็อกเตอร์หลอกชาวบ้านนำบัตรประชาชนที่ อ.หนองเรือ และ อ.บ้านฝาง ไปลงทะเบียนสวมสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง และ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ล่าสุด ผอ.สพป.เขต5 ขอนแก่น สั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงโทษสูงสุดให้ออกจากราชการ ด้านคดีตำรวจเตรียมส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นวันนี้

    ความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านฝาง และ อ.หนองเรือกว่า 200 รายถูกว่าที่ร้อยตรี ด็อกเตอร์ ภูผาภูมิ โมรีย์ ครูชำนาญการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น และครูฝน ครูสอนที่โรวเรียนแห่งหนึ่งในอ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น หลอกนำบัตรประชาชนของชาวบ้านไปลงทะเบียนซิมการ์ดและสวมสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยใช้อุบายให้เงินชาวบ้านจำนวน 200 บาทโดยให้ชาวบ้านนำบัตรประชาชนมารับ กระทั่งมีชาวบ้านเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านฝางให้ดำเนินคดีกับครูทั้ง 2 รายนี้เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนและออกหมายจับ ว่าที่ร้อยตรีภูผาภูมิ พร้อมทั้งตรวจค้นบ้านของครูทั้ง 2 และพ่อแม่ของครูด็อกเตอร์ โดยได้ควบคุมตัวครูด็อกเตอร์มาสอบสวนพร้อมแจ้งข้อหาเอาไปเสีย หรือไว้ ซึ่งบัตรหรือใบรับรอง หรือใบแทนใบรับรองของผู้อื่น เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ, ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ซึ่งเบื้องต้นเจ้าตัวให้การรับว่าทำเพียงคนเดียวและชอบสะสมซิมการ์ดจึงมีซิมการ์ดอยู่ในมือเยอะ แต่ต่อมาได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในภายหลัง ส่วนครูฝนได้ติดต่อเข้ามาให้ปากคำตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.2564ที่ผ่านมา โดยทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำเสร็จพร้อมแจ้งข้อหาร่วมกัน ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ก่อนปล่อยตัวชั่วคราว

นายยงยุทธ พรหมแก้ว ผู้อำนวยการสพป.ขอนแก่น เขต 5

    ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 ก.พ.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น(สพป.ขก.เขต5) โดยได้พบกับ นายยงยุทธ พรหมแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมครูภูผาภูมิ หรือว่าที่ ร.ต.ด็อกเตอร์ ภูผาภูมิ โมรีย์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/127 ม.17 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ26 /2564 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564  ในข้อหาเอาไปเสีย หรือไว้ ซึ่งบัตรหรือใบรับรอง หรือใบแทนใบรับรองของผู้อื่น เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ, ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

    นายยงยุทธ พรหมแก้ว ผู้อำนวยการสพป.ขอนแก่น เขต 5 ในกรณีของครูภูผาภูมินั้น ผู้บังคับบัญชามีความเป็นห่วงชาวบ้าน  กำชับให้มีการดำเนินการสอบสวนเอาผิดทางวินัยร้ายแรง ซึ่งสพป.ขอนแก่น เขต 5 ได้ตั้งคณะกรรมการขันมาตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว โดยคณะกรรมการได้ลงพื้นที่ประสานขอข้อมูลทางคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน เพื่อจะได้รวบรวมข้อมูลมาเป็นผลสรุป ส่งไปยังศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่นลงความเห็นในคำสั่งว่าจะให้ครูภูผาภูมินั้นพักราชการหรือให้ออกจากราชการ  เพราะขณะนี้ทราบเพียงว่า ครูภูผาภูมินั้นถูกจับและถูกคุมขังที่ห้องควบคุมสภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น  เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้ประกันตัว แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นแล้วครูภูผาภูมิได้ประกันตัวออกมา  ในฐานะ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 5 ก็จะมีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ สพป.ขอนแก่น เขต 5 ไปจนกว่าจะมีคำสั่งของศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่นออกมา อย่างไรก็ตามกรณีที่ข้าราชการครูถูกจับและดำเนินคดีตามกฎหมายอาญานั้น ตามกฎหมายเมื่อคดีสิ้นสุดทางอาญาแล้ว ตามมาตรา 30 ครูภูผาภูมิก็ถูกออกจากราชการ เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นการฉ้อโกงและขาดคุณสมบัติตามมาตรา 30 สุดท้ายก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน

    ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 5 กล่าวอีกว่า หลังเรื่องของครูภูผาภูมิถูกเปิดเผยออกมา สพป.ขอนแก่น เขต 5 ก็ทำหนังสือ ถึงครูในพื้นที่รับผิดชอบกว่า 2,000 ราย ว่าอย่าประพฤติหรือกระทำการที่เสื่อมเสียหรือเสียหายหรือประชาชนเดือดร้อน เพราะครูคือบุคคลากรที่ทำหน้าที่ให้การศึกษาให้ความรู้ และช่วยเหลือประชาชน  และใครก็ตามที่ประพฤติชั่ว ไม่ควรที่จะมีชื่อเสียงหรือปฏิบัติราชการได้อีก

    ทางด้าน พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวถึงการควบคุมตัวครูภูผาภูมิ หรือว่าที่ ร.ต.ด็อกเตอร์ภูผาภูมิ โมรีย์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ซึ่งถูกคุมขังที่ห้องควบคุม สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่นว่า ขณะนี้การควบคุมตัวครบ 48 ชม.แล้ว พนักงานสอบสวนต้องคุมตัวส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ในส่วนของคณะทำงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค4 จะลงพื้นที่คู่กับฝ่ายปกครอง พบกับชาวบ้านโนนค้อ  ม.2 ต.โคกงาม อ.บ้านฝางจ.ขอนแก่น เพื่อทำความเข้าใจกับชาวบ้านในกรณีที่เกิดขึ้นและชาวบ้านที่ถูกถ่ายเอาบัตรประชาชนไปและถูกสวมสิทธิ์ ต้องแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากยังมีประชาชนอีกจำนวนมากในหลายหมู่บ้าน ยังไม่กล้าแจ้งความ ในส่วนของความเสียหาย หรือจะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการที่ถูกสวมสิทธิ์ เข้าแจ้งความหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการประสานงานกัน

ขอบคุณที่มา เว็บไซต์ Khonkaenlink.info