โพสต์โดย : Admin เมื่อ 16 ม.ค. 2561 15:59:15 น. เข้าชม 166365 ครั้ง
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ศ.นพ.อุดม คชินทร รมช.ศธ. เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับนายพิเชษฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงโครงการอินเตอร์เน็ตประชารัฐ ที่ดีอีได้ดำเนินการปฏิรูปดิจิทัลอินเตอร์เน็ตทั่วประเทศ พร้อมทั้งกำหนดการใช้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าวใน 2 ประเด็น คือ ดิจิทัลเพื่อการค้าขาย และ ดิจิทัลเพื่อสุขภาพ ซึ่งในส่วนของ ศธ.ได้มีการปฏิรูปอินเตอร์เน็ตโรงเรียน 37,000 โรง โดยขณะนี้มีโรงเรียนที่ใช้อินเตอร์เครือข่ายยูนิเน็ต 10,000 โรง ส่วนที่เหลืออีก 27,000 โรง ได้ทำความร่วมมือกับดีอี เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินโครงการดังกล่าวร่วมกัน โดยดีอีจะช่วยขยายการวางสายไฟเบอร์ออฟติก (ใยแก้ว) จากหมู่บ้านมาถึงถึงหน้าประตูโรงเรียนฟรี ส่วนที่เหลือคือจากหน้าประตูโรงเรียนเข้าไปจนถึงการใช้งานในโรงเรียน ศธ.จะเป็นผู้ดำเนินการเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเนื่องจากหากไม่ได้ขอความร่วมมือจากดีอี ศธ.จะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ฉะนั้นการที่ดีอีเข้ามาช่วยส่วนหนึ่ง และศธ.ดำเนินการในส่วนที่เหลือเองจะใช้งบฯ ลงทุนเพียง 500-600 ล้านบาทเท่านั้น
รมช.ศธ.กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพบปัญหาโรงเรียนเลือกประเภทอินเตอร์เน็ตไม่เหมาะสมกับโรงเรียน เช่น เลือกใช้ระบบอินเตอร์เน็ตบ้านเพราะราคาถูก ส่งผลให้การใช้งานไม่ตอบสนองต่อความต้องการ หรือเพียงพอต่อการใช้งาน ดังนั้นจะมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่ดูแลเครือข่ายยูนิเน็ตจัดทำคู่มือการเลือกใช้ระบบอินเตอร์เน็ตให้เหมาะสมกับโรงเรียน และมีระบบป้องกันการเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมด้วย เชื่อมั่นว่าโครงการปฏิรูปอินเตอร์เน็ตโรงเรียนจะทำให้เด็กได้เรียนรู้เนื้อหาสาระรูปแบบใหม่รวมทั้งเข้าถึงบทเรียนออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่มีครูไม่ครบชั้นเรียน ก็สามารถเรียนกับครูเก่งๆ ผ่านคลิปวีดีโอ หรือการไลฟ์สดได้ ทั้งนี้เมื่อมีโรงเรียนมีระบบอินเตอร์เน็ตที่ดีไว้ใช้งานแล้ว ศธ.จะสร้างทัศนคติของครูในการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเตอรเน็ตใหม่ด้วย ไม่ใช่ได้รับการจัดสรรไปแล้ว กลับไม่ใช้งานให้เกิดประโยชน์ หวงคอมพิวเตอร์ และต้องเปิดโอกาสให้ชุมชนได้เข้ามาใช้งานอินเตอร์เน็ตในโรงเรียนช่วงวันหยุดได้ด้วย
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_709757