จากกรณีที่กลุ่มเพจเฟซบุ๊ค แหม่มโพธิ์ดำ ได้มีการโพสต์รูปภาพของบันทึกข้อความของโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ที่เป็นโรงเรียนชายล้วน โดยให้ครูประจำชั้นหรือครูที่ปรึกษานักเรียนดำเนินการรวบรวมรายชื่อเด็กนักเรียนชายที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ (เป็นความลับ) และให้จัดส่งรายชื่อให้กับฝ่ายบริหารงานทั่วไปของทางโรงเรียนฯ ภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2560 นี้ ลงชื่อ รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานบุคคลนั้น

ล่าสุดวันนี้ (26 พ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นต้นเรื่องนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนายบุญเลิศ พ่วงเพ็ชร ผู้อำนวยการโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ว่า การดำเนินงานสำรวจนักเรียนถือว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเด็กนักเรียนในโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย มีอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 4,000 คน ดังนั้นช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ จึงต้องมีการสำรวจนักเรียนในทุกๆ กลุ่ม เพื่อที่จะได้ทราบถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะนำมาพัฒนาการเรียนการสอนให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น โดยทางโรงเรียนมุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพการเรียนเป็นสำคัญ

ขณะเดียวกันเมื่อเป็นโรงเรียนชาวล้วนประจำจังหวัดที่มีชื่อเสียง ก็ต้องมีการพัฒนาบุคลิกภาพของนักเรียนด้วย จึงได้มีการสำรวจกลุ่มนักเรียนที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศขึ้น เพื่อที่จะได้จัดกิจกรรมพัฒนาบุคลิคภาพของนักเรียนให้ถูกต้องตามระเบียบ เช่น ไม่ไว้ทรงผมยาว ไม่ทาสีเล็บ ไม่ทาลิปสติกสีฉูดฉาดเกินไป และไม่ใส่กางเกงขาสั้นเกินไป เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมนี้ก็เป็นที่ยอมรับของนักเรียนทุกคนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการจำกัดสิทธิการแสดงออกในเรื่องเพศที่สามนั้น ตนไม่เคยไปห้ามแน่นอน เพราะทราบดีว่าสมัยนี้สังคมเปิดกว้างยอมรับในวงกว้างแล้ว ซึ่งช่วงที่โรงเรียนมีการแข่งขันกีฬาสี ก็จะให้ที่เป็นสาวประเภทสองได้แต่งตัวเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เป็นดรัมเมเยอร์ หรือแต่งเป็นแฟนตาซีต่างๆ อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงไม่อยากให้มองแต่เพียงการทำหนังสือสำรวจเท่านั้น ควรมองให้กว้างอย่างทั่วถึงด้วย เพื่อไม่ให้เข้าใจผิดคิดว่าทางโรงเรียนกีดกันเพศที่สาม

ด้านน้องโดนัท (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ตนเองนั้นก็เป็นหนึ่งในนักเรียนที่เป็นสาวประเภทสอง ซึ่งเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ ม.1 และทางโรงเรียนก็ไม่เคยจำกัดสิทธิการแสดงออกแต่อย่างใด แม้แต่การอยู่รวมกลุ่มทุกคนก็มีความอิสระเต็มที่ ส่วนการทำหนังสือสำรวจมานั้นก็คงเป็นเรื่องของการพัฒนาบุคลิกภาพ และการแต่งกายมากกว่า เพราะบางครั้ง นักเรียนบางคนก็แต่งกายออกนอกระเบียบเกิน เช่น ใส่กางเกงขาสั้นไป หรือแต่งหน้า ทาสีเล็บ ฉูดฉาดเกินไป ซึ่งตนก็มองว่าไม่เหมาะกับโรงเรียนชายล้วน และเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดด้วย ดังนั้นถ้าทางโรงเรียนไม่มีการกิจกรรมพัฒนาบุคลิกภาพในส่วนนี้ ก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของโรงเรียนเสียหายได้

ด้านน้องยุ่น (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเองนั้นก็เป็นสาวประเภทสอง ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงเรียนก็ให้การสนับสนุนการแสดงออกอย่างเต็มที่ มีความสนิทสนมกับอาจารย์จนสามารถเรียกว่า อาจารย์พ่อ อาจารย์แม่ได้เลย แสดงให้เห็นว่าที่โรงเรียนแห่งนี้ไม่มีการกีดกันเพศที่สามแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะเป็นเพราะว่ามีนักเรียนบางคนที่เพิ่งเข้ามาเรียนใหม่ ยังไม่เข้าใจระเบียบของโรงเรียน หรือยังไม่แสดงออกชัดเจน กลัวว่าทางโรงเรียนจะนำเรื่องนี้ไปบอกผู้ปกครอง ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นเพราะทางโรงเรียนเก็บเป็นความลับทั้งหมด จึงขอให้สาวประเภทสองทั่วประเทศอย่ากังวล เพราะตนและเพื่อนๆ เรียนอยู่ที่นี่มีความสุขดี และสามารถแสดงออกได้อย่างเปิดเผย