จากกรณีที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม. 5 ถูกกลุ่มแม่ค้า 3 คน รุมทำร้ายคาชุดนักเรียนโดยลงมือทั้งตบตีและกระทืบ ที่ตลาดแห่งหนึ่ง ในจ.นนทบุรี หลังเกิดเหตุ น.ส.เอ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.พินิจ ศรสงคราม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางใหญ่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ม.ค. เวลา 17.00 น.

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 10 ม.ค. ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น.ส.กิดากานต์ (สงวนนามสกุล) และ น.ส.เอ อายุ 17 ปี บุตรสาว พร้อมด้วย น.ส.วรนัท (สงวนนามสกุล) น้าสาว เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พินิจ ศรสงคราม สารสัตรสอบสวน สภ.บางใหญ่ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมจากกรณีที่ น.ส.เอ อายุ 17 ปี ลูกสาว ถูกกลุ่มแม่ค้าที่ขายของในตลาด บีบี มาเก็ต พาร์ค ทำร้ายร่างกาย ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดของตลาดจับภาพขณะที่ น.ส.เอ ถูกรุมทำร้ายร่างกาย

น.ส.กิดากานต์ มารดาของ น.ส.เอ กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดมาให้ปากคำเพิ่มเติมในรายละเอียดของวันที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุ น.ส.เอ ลูกสาวเล่าให้ตนฟังว่า ขณะกำลังเดินดูสินค้าอยู่ก็มีหญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 40 ปีเศษเดินมาด้านหลังแล้วพูดว่า “ถ้าเดินแบบนี้ไปเดินในห้างไหม” หลังจากนั้นก็เกิดการโต้เถียงกัน ซึ่งทาง น.ส.เอ ลูกสาวคิว่าเรื่องจะจบแล้ว กระทั่งมาถูกรุมทำร้ายตามคลิปภาพที่ปรากฎ

ด้านน.ส.เอ อายุ 17 ปีนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขณะที่กำลังเดินดูสินค้าภายในตลาดพร้อมเพื่อนชายอยู่ก็มีหญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 40 ปี ที่เดินอยู่ข้างหลังพูดว่า “ถ้าเดินแบบนี้ไปเดินในห้างไหม” ตนจึงหันไปพูดตอบโต้ ท่ามกลางผู้คนจำนวนมากที่กำลังเดินซื้อของในตลาด ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป ระหว่างที่ตนและเพื่อนชายกำลังเดินกลับไปที่รถ ปรากฎว่าผู้หญิงที่มีเรื่องกับตนได้ตรงเข้ามากระชากผมและยังมีผู้หญิงอีก 2 คนอายุประมาณ 30-35 ปีเข้ามาช่วยกันรุมทำร้ายตน จนล้มลงไปกับพื้นพร้อมกับเตะซ้ำ ส่วนชายวัยรุ่นที่มีรอยสักที่แขน 2 คนคอยยืนคุมเชิง ไม่ให้เพื่อนชายที่มาด้วยนั้นเข้ามาช่วยเหลือโดยพูดว่าเรื่องของผู้หญิงมึงอย่ายุ่ง ก่อนที่พลเมืองดีเข้ามาห้าม นอกจากนี้คู่กรณียังพูดใส่ตนอีกว่า อย่างมากก็เสียค่าปรับ 500 กูก็จะตบมึงอีก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บที่หางคิ้วขวาเป็นรอยเล็บ มีแผลที่หัวเข่าและหลังมีอาการเจ็บปวด รวมถึงโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 7 พลัส หน้าจอแตกร้าวขณะที่ถูกรุมทำร้าย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

พ.ต.ท.พินิจ ศรสงคราม สารวัตรเวรสอบสวน กล่าวว่า วันเกิดเหตุทางผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความ จึงได้ทำการสอบปากคำเบื้องต้น ก่อนจะส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย ส่วนคู่กรณี ได้เดินทางมาพบตนพร้อมทั้งยอมรับ แต่ตนเห็นว่าคู่กรณี มาเพียง 2 คน ขาดไป 1 คน ตนจึงได้นัดผู้เสียหายและคู่กรณีทั้ง 3 คน มาให้ปากคำอีกครั้งในวันที่ 16 ม.ค.ที่จะถึง ถ้าคู่กรณีไม่มาหรือมาไม่ครบ ทางเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับต่อไป ส่วนข้อหา เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส่วนจะบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจจากแพทย์