- อาคาร ก. เป็นอาคารชั้นเดียว มี 6 ห้องเรียน ขนาด 5x4 เมตร ลักษณะห้องมีประตูกรงเหล็ก 2 บาน ต่อ 1 ห้อง หน้าต่างเป็นลูกกรง บานเกล็ดชำรุด ถือเป็นอาคารที่ค่อนข้างโปร่งและโล่ง ส่วนห้องเรียน 6 ห้อง ได้แก่ 1. ห้องภาษาอังกฤษ 2. ห้องภาษาอังกฤษ 3. ห้องคณิตศาสตร์ ม.ต้น 4. ห้องคณิตศาสตร์ ม.ปลาย 5. ห้องคณิตศาสตร์ ม.ต้น และ 6. ห้องพักครูวิชาสังคมฯ
ด้านฝั่งซ้ายของอาคาร ก. พบว่ามีบ้านพักครูอยู่ 1 หลัง ห่างกัน 30 เมตร
- อาคาร ข. เป็นอาคารพื้นยกสูงประมาณ 1 เมตร ชั้นเดียว มีห้องเรียน 5 ห้อง ลักษณะเป็นห้องทึบ มีช่องระบายลมด้านบนของทุกห้อง เมื่อนับจากซ้ายของตึกไปขวา ได้แก่ 1. ห้องภาษาไทย 2. ห้องภาษาไทย 3. ห้องวิทยาศาสตร์ 4. ห้องดนตรีและศิลปะ และ 5. ห้องปกครอง จะมีครูอยู่ตลอดทั้งวันถ้าเปิดการสอน - อาคาร ค. เป็นอาคารหลังสีเขียวสูง 2 ชั้น มีบันไดขึ้น-ลง 2 ทาง ลักษณะห้องเป็นห้องทึบ มีหน้าต่างและช่องระบายลม มีห้องแบ่งตามชั้นเรียงจากซ้ายไปขวา ได้แก่ ชั้น 1 ห้องวิชาการ, ห้องพยาบาล, บันได, ห้องโสตทัศนศึกษา, ห้องแนะแนว, ห้องสมุด และบันได ในส่วนชั้น 2 ได้แก่ ห้องธุรการ, ห้อง ผอ., บันได, ห้องคณิตศาสตร์, ห้องชีวะ, ห้องฟิสิกส์, ห้องเคมี และห้องคอมพิวเตอร์
- อาคารทรงเดียวกับอาคาร ก. มี 6 ห้องเรียน ได้แก่ ห้องเกษตร, ห้องสังคมฯ, ห้องประวัติศาสตร์, ห้องเกษตร, ห้องหน้าที่พลเมือง และห้องศิลปะ
ทั้งนี้ นางสาวขวัญ นักเรียนชั้น ม.6 เปิดเผยว่า รู้จักทั้งผู้ก่อเหตุและนักเรียนผู้เสียหาย ซึ่งยืนยันว่าเดินผ่านอาคาร ก. เป็นประจำ มองว่าเป็นไปได้ยากว่าจะก่อเหตุในห้องคณิตศาสตร์ เพราะเป็นห้องโล่ง ไม่เก็บเสียง แต่กรณีที่ระบุว่าเป็นห้องพักครูก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งตนรู้จักครูทั้ง 5 คน ยอมรับว่าเป็นคนดี สอนดี ให้คำปรึกษาดี และไม่เคยเห็นพฤติกรรมลวนลามเด็ก ส่วนศิษย์เก่าอีก 2 คน ก็มาทำกิจกรรมบ่อย สำหรับเด็กที่เสียหาย เป็นเด็กร่าเริงดี มีความสุขตลอด เห็นใช้ชีวิตปกติ แต่น้องอายุ 14 ปี จะมีพฤติกรรมที่เข้าหาคุณครูกว่าเด็กคนอื่น ๆ เช่น มีเอกสารก็จะไปให้ครู ไปปรึกษาคุณครู แต่น้องก็เข้าหาทั้งครูผู้หญิงและครูผู้ชาย ไม่ได้ดูผิดแปลกอะไร ขณะที่เด็กอายุ 16 ปี ส่วนตัวเท่าที่เห็นมักจะอยู่กับน้องอายุ 14 ปี เป็นประจำ แต่ก็ไม่ทราบว่ามีเรื่องเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแค่มองว่า ทำไมเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วเพิ่งมาแจ้งความเอาผิด จากนั้น นางสาวขวัญได้พาทีมข่าวลงพื้นที่บ้านพักครู ที่ตั้งอยู่ถัดจากอาคาร ก. มีบ้านพัก 3 หลัง สูง 2 ชั้น ยกใต้ถุน เรียงจากซ้ายไปขวา เรียกเป็นหลังที่ 1, 2, และ 3 โดยในหลังที่ 1 และ 2 รูปทรงเหมือนกัน มีห้องชั้นล่าง 1 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้อง ชั้น 2 จะมีห้องพักครู 4 ห้อง
หลังที่ 1 พบว่าห้องฝั่งซ้าย ห้องด้านหน้า เป็นห้อง อ.วิพจน์ และห้องติดกันคือห้องของ อ.ยุทธนา ทีมข่าวได้เข้าไปด้านในห้อง อ.ยุทธนา ด้านในมีตู้เสื้อผ้า ทรัพย์สิน เอกสาร โต๊ะรีดผ้า พัดลมตั้งพื้น ไม่มีเตียงนอน ห้องปูด้วยเสื่อน้ำมัน ขนาดห้องราว 3x2 เมตร ห้อง อ.วิพจน์ ถูกล็อกไว้ ไม่สามารถเปิดได้ ขณะที่อีกห้องที่อยู่ด้านหน้าฝั่งขวา เป็นของ อ.ภักดี และอีกห้องยังยืนยันไม่ได้ แต่ทราบข้อมูลจากลูกศิษย์ของโรงเรียนระบุว่า เป็นห้องของ อ.อานุภาพ
พล.ต.ต. อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผู้บังคับการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า เบื้องต้นผลสอบสวนพบว่าจุดก่อเหตุมี 4 จุด คือ 1. ห้องคณิตศาสตร์ ที่อาคาร ก. 2. ห้องพักครูภายในโดมอเนกประสงค์ 3. บ้านพักครูของครูยุทธนา และ 4. ห้องพักว่าง ซึ่งครูวิพจน์ใช้งานอยู่ ซึ่งอยู่ในบ้านหลังที่ 3 ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักครูหลังที่ 3 พบว่า เป็นบ้านยกใต้ถุน ชั้น 1 มี 1 ห้อง และห้องน้ำแบ่งย่อย 2 ห้อง ชั้น 2 มีเพียง 2 ห้อง โดยห้องที่ระบุว่าเป็นห้องก่อเหตุ คือ ห้องขวามือ ในห้องมีแคร่ไม้ไผ่ 1 หลัง ตั้งอยู่ รวมทั้งพัดลมตั้งโต๊ะ ลำโพง และไม่มีทรัพย์สินอื่นอีก อีกจุดคือห้องพักครูภายในโดมอเนกประสงค์ พบว่าเป็นสนามกีฬา ส่วนท้ายของอาคารมีลักษณะเป็นห้อง แบ่งเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง ฝั่งซ้าย-ขวา ส่วนตรงกลางจะมีห้อง 2 ห้อง แต่ละห้องจะมีหน้าต่างกระจกอยู่ 1 บาน มี 1 ห้อง พบถูกใช้เป็นห้องเก็บของ มีของเต็มห้องทั้งหมด และอีก 1 ห้อง มีผ้าม่านสีเหลืองปิดอยู่ เมื่อส่องดูด้านในพบมีเครื่องควบคุมเสียง รวมถือสิ่งของเล็กน้อยอยู่ในห้อง ขนาดห้องราว 2x2 เมตร พบเอกสารส่วนตัวของ อ.วิพจน์ จำนวนมาก ทั้งรูปถ่ายติดเอกสาร ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส และบัตรต่าง ๆ แต่ไม่พบที่นอน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังพบกระดาษคำอธิบายการใช้ถุงยางอนามัยยี่ห้อหนึ่งตกที่เชิงบันได ระบุไม่ได้ว่าเป็นของใคร และจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว