โพสต์โดย : Admin เมื่อ 25 มิ.ย. 2564 11:07:47 น. เข้าชม 166444 ครั้ง
เป็นหนุ่มที่มาแรงแซงโค้งยอดวิวพุ่งแรงไม่มีแผ่วทะลุกว่าพันล้านวิว สำหรับ ครูเต้ย อภิวัฒน์ ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ เล่าย้อนถึงที่มาของตัวเองที่ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ พร้อมยังเผยถึงได้รับโดนผลกระทบหนักจากวิกฤตโควิด-19 งานคอนเสิร์ตหายเกลี้ยง แถมยังต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนนับแสน
จริงๆเป็นนักร้องก่อน หรือ ว่าเป็นคุณครูก่อน?
"ผมเรียนไปด้วยแล้วก็เล่นดนตรีกลางคืนไปด้วยครับ แล้วก็ทำเพลงกับวงแต่ก็ยังไม่ได้มีงานจ้างในนามศิลปินนักร้องครับ แล้วพอผมได้มาเป็นครูก็ค่อยได้มีงานจ้างในนามที่เราเป็นศิลปินครับ แต่ที่ตอนเป็นนักร้อง คือ ผมเรียนอยู่งานที่จ้างผมคืองานที่เป็นร้านเหล้า เป็นผับเท่านั้นครับ แต่พอมาเป็นครูก็มีงานคอนเสิร์ตเข้ามาแบบจริงจังครับ"
แล้วก่อนหน้านั้นใช้ชื่ออะไร ก่อนที่จะมาเป็นครูเต้ย?
"ใช้ชื่อวงว่า ไนท์ติงเกล ครับเป็นชื่อวง ซึ่งตอนนั้นที่ทำกับวงจะเป็นเพลงสตริง (เพลงไทยสากล) ครับ แต่มาใช้ชื่อ ครูเต้ย อภิวัฒน์ ก็คือหลังจากที่ได้มาเป็นครูแล้ว ผมก็เปลี่ยนมาทำเพลงแนวสตริงอีสานครับ ที่เป็นแนวเพลงของผมทุกวันนี้ แต่ไม่ใช่ลูกทุ่งทีเดียวครับ แต่จะเป็นแนวอีสานครับ ดนตรีทุกอย่างจะเป็นแนวสตริง แต่เนื้อเพลงจะเป็นอีสานทั้งหมดครับ"
แต่ที่มาโด่งดังอีกอย่าง คือ ครูเต้ย ทำคลิป นักเรียนที่ไม่ส่งการบ้าน ไม่ส่งงาน คลิปนี้เลยกลายเป็นไวรัลที่โด่งดังมากๆ ก็เลยกลายเป็นครูหล่อบอกต่อด้วยตามมาเลย?
"เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเลยครับ ตอนนั้นช่วงปิดเทอมแล้วผมก็ตรวจข้อสอบไปแล้วรู้สึกว่าเด็กบางคนคือไม่ได้จริง แล้วบางคนงานก็ไม่ค่อยชอบส่งตั้งใจก็ไม่ตั้งใจเราก็เลยพักในการตรวจข้อสอบแล้วก็หยิบกีตาร์มาลองแต่งเพลงแล้วพอแต่งเสร็จผมก็ปล่อยลงเฟสบุ๊คครับ แล้วเพจยูไลค์ที่เขากำลังดังเลยเขาก็เอาคลิปของเราไปลงก็เลยทำให้คนรู้จักเรา แล้วเขาก็ตามมาดูว่าผลงานเรามีอะไรบ้างก็เห็นว่าเราเคยร้องเพลงมาก่อน คอย cover มาบ้าง พอเราปล่อยเพลงออกมาช่วงนั้นมันก็เลยมีกระแส ซึ่งพอปล่อยเพลงออกมาคนก็เข้าไปดูต่อหนึ่งวันสองถึงสามล้านวิวเลยครับ ซึ่งทุกเพลงผมก็จะแต่งเอง ร้องเอง และเรียบเรียงเองหมดเลยครับ"
วิธีการแต่งเพลง หรือ การทำงานเพลงตรงไหนที่ ครูเต้ย คิดว่ายากที่สุดในการทำเพลง?
"ผมว่าไม่ยากนะครับ เพราะเพลงคือสิ่งที่เราชอบ เราก็เริ่มจากการทำดนตรีก่อน แล้วก็มาลำดับถึงขั้นตอนการทำ Mv"
แล้วเพลงที่นำมาร้องในรายการ เป็นจั่งได๋อีนาง มีที่มาที่ไปยังไง?
"คือเพลงนี้ผมแต่งตอนโควิดรอบแรกเลยครับ น่าจะช่วงประมาณ มีนา เมษา ปี 63 ตอนนั้นผมอยู่บ้านแล้วก็หยิบกีตาร์มาซึ่งการแต่งเพลงของผมอาจจะไม่เหมือนใครเพราะผมจะทำทำนองก่อนถ้าทำนองเพราะ แล้วค่อยแต่งเนื้อ ตอนนั้นอยู่บานผมก็แต่งแล้วด้วยที่ย่าของผมเป็นหมอลำ ผมเลยอยากให้ย่าของผมร้องด้วยเลยแต่งเป็นเพลงนี้ออกมาครับ"
สำหรับตัวครูเต้ย รู้สึกยังไงบ้างที่เพลงของเราที่ออกมารวมกันแล้วยอดวิวคือ ทะลุไปพันกว่าล้านวิว?
"ผมรู้สึกดีใจมากเลยครับที่มีคนชอบเพลงแนวของเรานะครับ คือ อย่างช่วงแรกๆที่ผมทำออกมาจะโดนว่าให้ครับ อย่างคนที่ฟังเพลงลูกทุ่งจริงๆเขาก็จะมาว่าให้ว่าร้องเพลงแบบนี้เหรอมันทำให้เสียวงการลูกทุ่งเพราะเข้าใจว่าเราทำเพลงลุกทุ่งครับ แต่จริงๆแล้วเราทำเพลงสตริงครับ แต่เนื้อเพลงเราเป็นอีสานครับ ซึ่งเพลงทุกเพลงที่ผมทำคือ เป็นลิขสิทธ์ของผมเองทุกอย่างเลยครับ ส่วนเพลงที่ยอดวิวสูงสุดคือเพลง ฉันยังรักเธอ ยอดวิวน่าจะประมาณสามร้อยยี่สิบกว่าล้านวิวครับ เพลงนี้จะมีส่วนผสมที่เป็นอีสานคือมี แคน มีพิณ เป็นเครื่องดนตรีที่เราผสมผสานเข้าไปด้วยครับ"
ตอนนี้สอนอยู่ที่ไหนแล้วก็วิชาอะไรเอ่ย?
"ผมสอนที่โรงเรียนบ้านกุดธาตุ จังหวัดขอนแก่น สอนวิชาดนตรีครับ คือก่อนที่จะมีโควิดผมสอน ป.1 ถึง ม.3 ครับ ซึ่งในโรงเรียนที่เราสอนอยู่เราก็คือครูคนหนึ่งครับ ไม่ได้มีใครมาตามกรี๊ดเราเพราะตอนที่ผมไปบรรจุแรกๆคือ ผมก็ไปเป็นครูธรรมดา ไม่ได้เป็นศิลปินเด็กๆ ก็ชิน"
เกิดโควิดช่วงนี้ ครูเต้ย สอนดนตรีออนไลน์สอนแบบไหน?
"โรงเรียนที่ผมสอนจะเป็นนอกๆ เลยครับ ผลกระทบจากโควิดเลยจะไม่เยอะมากครับ ซึ่งถ้าช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโควิดผมก็จะแจกเป็นซีลงานไปทำที่บ้านก่อนครับ"
ต้องใช้ความเป็นครูเต็มเวลาในการสอน แล้วก็มีงานคอนเสิร์ตที่ต้องบอกเลยว่าเยอะมากๆวันหนึ่งคือ สองถึงสามงานแบบนี้จัดสรรเวลายังไงให้ลงตัว?
"อย่างงานคอนเสิร์ตคือ ผมก็จะรับช่วงเย็นครับ และในช่วงจันทร์ถึงพฤหัสบดี คือผมก็จะรับในโซนที่ไม่ไกลจากที่เราสอนก็จะรับในโซนอีสานเพราะอย่างเราเล่นเสร็จตีหนึ่งตีสอง ก็กลับมาอาบน้ำนอนแล้วก็ตื่นไปสอนที่โรงเรียน แต่ถ้าเป็นศุกร์ เสาร์ ผมก็สามารถที่จะไปภาคเหนือ ภาคใต้ หรือมากรุงเทพฯได้ครับ แต่ถ้าวันปกติก็จะรับแค่ใกล้ๆ ครับ อย่างช่วงที่ก่อนจะเกิดโควิด ผมจะไม่รับงานแค่วันจันทร์ครับเพราะว่าเป็นวันพักครับ วันหนึ่งที่ผมเคยรับสูงสุดคือ น่าจะประมาณ 5 งานครับ แต่พอรับเยอะไปงานก็จะไม่มีคุณภาพด้วยครับเพราะว่ามันเยอะไปแล้วทำให้เราพักผ่อนน้อยมาก แล้วพอรับงานเยอะเราร้องเยอะผลกระทบมันเกิดที่เสียงครับ เพราะเสียงยังไม่ได้พักเลยแล้วมันก็ใช้แบบต่อเนื่องๆ ด้วยแบบเสียงเราแหบเราก็ต้องไปร้องนะครับ เพราะว่าเรารับงานไปแล้ว"
แต่ช่วงนี้คือ ได้พักเสียงยาวเลยเพราะว่าในช่วงโควิดพูดได้ว่า ครูเต้ย คือหนึ่งคนที่สูญเสียรายได้ไปเป็นล้าน แต่หลายคนที่มองว่าเขาโกยมาเยอะแล้วทุกคนต้องทำความเข้าใจแบบนี้เพราะว่าเวลาที่เขาไปโชว์ คือ เขาไปเป็นวงมีทุกอย่างไปเป็นเซ็ต และต้องบอกว่าทุกวันนี้ ครูเต้ย ก็ต้องดูแลคนที่ทำงานด้วยกันที่ก่อนหน้านี้ทำงานมาด้วยกันตอนนี้คือต้องดูแลทุกคนเดือนๆ หนึ่งค่าใช้จ่าย คือ หกหลักเลยไหม?
"แสนกว่าครับ ทุกวันนี้ก็ยังคงต้องดูแลครับ แต่คือ โชคดีของผมอย่างหนึ่งครับ ช่วงโควิดยังพอมีงานพรีเซ็นเตอร์ งานรีวิว แล้วก็ทำเพลงลงในยูทูป เรายังมีรายได้ตรงนี้มาเลี้ยงทีมงาน แต่มันก็ไม่ได้เท่ากับตอนที่เราไปเล่นคอนเสิร์ตเท่านั้นเองครับ"
อีกหนึ่งเรื่องเป็นความตั้งใจของครูเต้ยที่น่ารักมากๆ เลยก็คือ ตอนนี้ตั้งใจที่จะทำบ้านไว้ให้คุณปู่คุณย่า
"ใช่ครับ คือ แรกๆเลยผมช่วยคุณปู่คุณย่ามาอยู่ด้วย ท่านก็บอกว่ามาอยู่ด้วยตลอดคงไม่ได้ถ้ามาๆไปๆพอได้ครับ เพราะว่าท่าคิดถึงไร่นาที่ อุบลราชธานี จริงๆผมเกิดที่นั่นแล้วมาบรรจุที่ ขอนแก่น เลยมาสร้างบ้านไว้ที่ ขอนแก่น ครับเพราะว่าเราทำงานที่นี่ ซึ่งบ้านที่จะทำให้คุณปู่ คุณย่า ก็ที่ ขอนแก่น ครับเพราะอยากให้มาอยู่ใกล้ๆ กัน"
ด้วยอายุขนาดนี้ที่จะสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมาอีกเหตุผลคือ เอาไว้อยู่ช่วงบั้นปลายชีวิต
"อาชีพนักร้องมันไม่ได้มั่นคงและถาวรครับ เพราะที่บ้านหลังนี้ที่ผมสร้างขึ้นมาก็จะมีห้องอัดอยู่ด้วยครับ คือ ถ้าผมไม่มีงานร้องเพลงแล้วผมก็จะอยู่เบื้องหลังรับทำเพลง เรียบเรียง ทำดนตรี ปั้นศิลปินใหม่ๆขึ้นมาครับ บ้านหลังนี้จะมีครบทุกอย่างครับ"
เคยกลัวไหมถ้าวันหนึ่งเราจะไม่ดัง ไม่มีกระแส?
"ที่จริงก็มีในความคิดนะครับ แต่เพราะเราไม่เคยเอาเพลงของเรา หรือว่าคิดเอาเพลงของเราไปเปรียบเทียบกับใคร ต้องแข่งกับใครเพราะว่าแนวเพลงแล้วแต่คนชอบ และเราก็ยังจะทำแนวเพลงของเราออกมาให้ทุกคนได้ฟังในแบบของเราครับ ผมก็ฝากผลงานเพลงด้วยนะครับจะปล่อยผ่านทาง คือถิ่น สตูดิโอ และฝากติดตามเฟสบุ๊ค ครูเต้ย อภิวัฒน์ และฝากหนังเรื่อง ส้มปลาน้อย ของพี่หม่ำ ด้วยนะครับ เรื่องนี้เล่นเป็นพระรองครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ"