โพสต์โดย : Admin เมื่อ 26 ธ.ค. 2559 11:16:51 น. เข้าชม 166465 ครั้ง
26 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมอำเภอเมืองเลย ตัวแทนครูผู้เสีย จังหวัดเลย 200 คนเดินทาง รับฟังแจ้งร้องเรียนปลอมลายเซน ประกันชีวิต ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเลย ยอดความเสียหาย 37 ล้าน ที่อำเภอเมืองเลยจนล้นห้องประชุม โดยมี นายประเสริฐ ทัศนาวิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงาน คปภ. ภาค 4 อุดรธานี เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมเป็นไปด้วยด้วยความโกลาหล เนื่องจากไม่สามารถๆได้คำตอบ ที่ชัดเจนจากหน่ายงานใด
จากกรณี ปลายเดือนพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา มีครูที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเลยกว่า 30 คน และเพิ่มจำนวนขึ้นมาเป็นจำนวนมาก เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดี หลังได้รับเอกสารแจ้งกรมธรรม์การทำประกันชีวิตกับ บริษัทกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยระบุผู้รับผลประโยชน์คือสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเลย จำกัด ซึ่งผู้เสียหายทั้งหมดยืนยันว่า ไม่ได้ลงลายมือชื่อในการทำสัญญาประกันชีวิตดังกล่าวแต่อย่างใด
หลังจากได้รับเอกสารแจ้งเลขที่กรมธรรม์การทำประกันชีวิตจาก บริษัทกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ก็รู้สึกตกใจมาก เพราะมีลายเซ็นคล้ายของตนปรากฏในสัญญา ทั้งๆ ที่ไม่ได้เซ็นเอง และไม่เคยเห็นสัญญาฉบับนี้ ซึ่งในสัญญาระบุว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเลยจำกัดเป็นผู้จ่ายเบี้ยประกันรายปี งวดละ 2,289.60 บาท จำนวนเงินเอาประกัน 540,000 บาท ระยะเวลาคุ้มครอง และระยะเวลาชำระเบี้ยประกัน 15 ปี เริ่มคุ้มครองวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 โดยระบุผู้รับผลประโยชน์คือสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเลยจำกัด ซึ่งตนก็ได้ทราบว่า เพื่อนครูที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเลยจำกัด อีกหลายคน ทั้งที่กู้เงินและไม่ได้กู้เงิน ได้รับเอกสารเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นครูผู้หญิง และมีอายุราชการต่ำกว่า 15 ปี พวกตนเกรงว่าจะได้รับความเสียหาย จึงได้เข้ามาแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีเรื่องนี้
ล่าสุดวันนี้ หลังมีการประชุม และให้ทางบริษัทกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีชี้แจงในที่ประชุมพร้อมมีครูร่วมประชุมด้วย กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) จังหวัดเลย โดยมีนายประเสริฐ ทัศนาวิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงาน คปภ.ภาค 4 อุดรธานี เปิดรับฟังการประชุม แต่ไม่สามารถสรุปอะไรได้ เนื่องจาก ฝ่ายสหกรณ์อมทรัพท์ครูเลยและตัวแทน บริษัทกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ต่างฝ่ายต่างโยนความรับผิดชอบซึ่งกันและกัน จนทำให้มีการโต้เถียงเกิดขึ้น ในที่ประชุม
น.ส.พิมพ์ลภัส ปานแปง ตัวแทนครูผู้เสียหาย กล่าวว่า เปิดเผยว่า หลังจากได้รับคำชี้แจงจากทุกฝ่าย รู้สึกเสียความรู้สึกมาก เพราะมีเอกสารเพิ่มเติมยืนยันว่า เราเป็นหนี้ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้ยืมแม้แต่บาทเดียว เพื่อนำไปประกอบการทำประกัน โดยทางสหกรณ์อมทรัพย์คือเลย จะกลับไปประชุม เพื่อหาข้อยุตติ นำผู้ที่มีรายชื่อที่มีการอนุมัติยืนยันการเป็นหนี้ 540,000 บาท และหารือที่ไปที่มาของการไปทำประกัน ส่วนประกันก็มีการเพิกถอนตัวแทน ที่มาทำประกันให้กับสหกรณ์เรียบร้อยแล้ว แต่เชิญมาชี้แจงวันนี้ แต่เจ้าหน้าที่หรือตัวแทนทั้ง 8 ท่านยังไม่มาและหลังจากนี้ก็คงต้องมีการประชุมกันต่อ
ด้าน ครูนายอนุพงษ์ ปริบาล ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเลยจำกัด กล่าวว่า หลังจากที่มีการประชุมวันนี้ เป็นเรื่องของการทำประกันรายสามัญนี้ ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเลยไม่ยุ่งเกี่ยว เพราะสหกรณ์นั้นได้ตกลงบันทึกสัญญากับบริษัทกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ทำประกันกลุ่ม 6 โครงการและวันนี้เราเห็นแล้วว่าช่วงขั้นตอนที่ การทำประกันรายสามัญนั้น เป็นเรื่องของบริษัทกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กับตัวแทนซึ่งตามข้อเสนอในที่ประชุมนั้นเห็นว่าบริษัทตัวแทนมีปัญหากันและมีการตัดสัญญาตัวแทน ซึ่งสิ่งเหล้านี้ทำให้เห็นว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเลยนั้น ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวในเรื่องในการทำประกันชีวิตกลุ่มแต่อย่างใด
ด้านนายประเสริฐ ทัศนาวิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงาน คปภ. ภาค 4 อุดรธานี กล่าวว่า จากกรณีนี้ คาดว่าจะเป็นความขัดแย้งภายในของสหกรณ์ ออมทรัพย์ครูเลย และมีการดำเนินการที่ไม่โปร่งใส เพราะการเอาประกันชีวิตกลุ่มครูแล้วโดยหลักการจะต้องออกมาเป็นกรมธรรม์ กลุ่มตามมติที่ประชุมสหกรณ์ แต่พอกรมธรรม์ ออกมาจริงๆ แล้ว เป็นกรมธรรม์ ออกมาเป็นกรมธรรม์สามัญ ซึ่งก็ไม่สอดรับกับการประกวดราคาของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู และสมาชิกหลายคนก็แจ้งว่าไม่ทราบว่า ลายมือชื่อที่เซ็นนั้น ไม่ใช่ลายมือชื่อของตนเอง ทางบริษัทกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ก็ทราบเรื่องมาพอสมควรและมีการแจ้งความร้องทุกข์กับตัวแทน นายหน้าที่ไปดำเนินการในลักษณะที่ไม่ชอบ