โพสต์โดย : Admin เมื่อ 18 ส.ค. 2563 06:16:47 น. เข้าชม 166431 ครั้ง
ครูจุ้ย โต้ ประยุทธ์ ปมการศึกษาไทย ยังไม่ถึงขั้นฟินแลนด์ ชี้ พวกเขาคิดเองได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกกดทับ ด้วยค่านิยม 12 ประการ และอำนาจนิยมในโรงเรียน
จากกรณีที่ วานนี้ (17 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในงาน “ยกกำลังสองการศึกษาไทย สู่ความเป็นเลิศ” (Thailand Education Eco-System) และการแสดงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนการศึกษาไทย ช่วงหนึ่ง โดยระบุว่า
เรื่องการศึกษาหลายคนบอกว่าอยากเอาแบบประเทศฟินแลนด์ ไม่ต้องไปโรงเรียน เด็กมีความสุข เราทำอย่างนั้นได้หรือไม่ ไปคิดดู แต่ตนคิดว่ายังไม่ถึงเวลานั้น ลำบาก เพราะหลายอย่างเรายังมีปัญหามากในขณะนี้ ถ้าเราสามารถช่วยแก้ปัญหาช่วงนี้ไปก่อน ปัญหาอื่นยังไม่ใช่ความเป็นความตายของประเทศ ต้องแก้ปัญหาที่มีอยู่ให้ได้ก่อน อย่างอื่นก่อนแก้ไปตามระบบ ระเบียบ ขั้นตอน ตนไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น
ต่อมา กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ อดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้กรณีดังกล่าว ระบุว่า เรียน คุณประยุทธ์ เนื่องจากคุณได้แสดงวิสัยทัศน์เอาไว้ในพิธีเปิดงาน "ยกกำลังสองการศึกษาไทย สู่ความเป็นเลิศ" เกี่ยวกับประเทศฟินแลนด์เอาไว้ว่า
"เรื่องการศึกษาหลายคนบอกว่าอยากเอาแบบประเทศฟินแลนด์ ไม่ต้องไปโรงเรียน เด็กมีความสุข เราทำอย่างนั้นได้หรือไม่ ไปคิดดู แต่ตนคิดว่ายังไม่ถึงเวลานั้น ลำบาก เพราะเรามีปัญหามากในขณะนี้"
ดิฉันเห็นว่าข้อความดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ปัญหาที่มีมากนั้นเป็นเพราะความไร้วิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศ และขาดความเข้าใจในการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ซึ่งขัดกับงานที่คุณกำลังกล่าวเปิดโดยสิ้นเชิง
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าการศึกษาที่ดีไม่จำเป็นต้องเลียนแบบฟินแลนด์
แต่ควรตั้งอยู่บนหลักการดังต่อไปนี้
1. การศึกษาที่ดีและฟรีเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน
2. การจัดการเรียนรู้ต้องเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นภัยคุกคามต่อผู้เรียน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
3. การศึกษาควรนำพามนุษย์ไปสู่การเรียนรู้อันไม่สิ้นสุดตลอดชีวิต มิใช่ความเป็นเลิศเพียงอย่างเดียว
ทว่าในปัจจุบันข้อเท็จจริงที่เป็นประจักษ์อย่างกว้างขวางคือ นักเรียนของเรากำลังเผชิญกับความหวาดกลัวจากการคุกคามโดยรัฐ ผ่านครูและเจ้าหน้าที่ความมั่นคง สภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่อาจส่งเสริการเรียนรู้ได้เลย
นี่เป็นเรื่องที่ต้องแก้ทันที ไม่ใช่อ้างว่าค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีนักเรียนคนไหนรอได้ และไม่มีใครควรต้องรอ
การที่นักเรียน นักศึกษา ออกมาเรียกร้องสิทธิต่างๆ เหล่านี้เพื่อวันนี้และอนาคตของพวกเขา พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีทักษะในศตวรรษที่ 21 อยู่ไม่น้อย พวกเขาคิดวิเคราะห์ได้ สื่อสารได้ สร้างสรรค์เป็น ใช้เทคโนโลยีคล่องแคล่วและเท่าทัน
พวกเขาย้อนสำรวจประวัติศาสตร์เดือนตุลา ไล่เทียบดูว่าระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการข้อใดบ้างที่ขัดหลักรัฐธรรมนูญ เสนอความเห็นของตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างตรงไปตรงมา
ที่ดิฉันกล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นผลงานของคุณประยุทธ์และการบริหารงานของคสช.ทั้งสิ้น ที่กระตุ้นให้พวกเขาสงสัย กระหายรู้ อยากเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมในการตรวจสอบผู้บริหารประเทศ รวมถึงสร้างสังคมที่ดีกว่าให้ตนเอง
ขอให้คุณประยุทธ์จงได้วางใจว่านักเรียนของเรามีทักษะพร้อมรับมือกับยุคอนาคต แม้ว่าจะต้องท่องจำค่านิยม 12 ประการ และต้องอยู่อย่างจำนนในระบบอำนาจนิยมโรงเรียน
แต่พวกเขาก็คิดเองได้
และแม้กระทรวงศึกษาธิการที่ต้องดูแลพวกเขาจะไม่เคยจริงใจในการดูแลความปลอดภัยขั้นพื้นฐานให้พวกเขาเลย อย่างเช่น กรณีละเมิดสิทธิเด็กในโรงเรียนก็มีเพียงไม่กี่กรณีเท่านั้นที่กระทรวงฯ ที่ได้รับแจ้ง แทบจะไม่มีนักเรียนกล้าพึ่งพากระทรวงฯ เพราะกลัวโดนคุกคามต่อเนื่อง และอาจเห็นว่าแจ้งไปคงไม่เกิดอะไรขึ้น
แต่พวกเขาก็เลือกที่จะแสดงสัญลักษณ์ว่าไม่เห็นด้วยอย่างสร้างสรรค์และสันติ
บัดนี้นักเรียนได้ก้าวไปข้างหน้า ไปไกลกว่าความสามารถและศักยภาพของคุณประยุทธ์ หรือแม้กระทั่งกระทรวงศึกษาธิการแล้ว งานอันไม่เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาและอนาคตของนักเรียนประเทศนี้ของพวกคุณต้องสิ้นสุดลงได้แล้ว