โพสต์โดย : Admin เมื่อ 22 ก.พ. 2560 12:33:19 น. เข้าชม 166418 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังโรงเรียนบ้านสำโรง ม.10 ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเข้าพบนายประทักษิณ เครือผือ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำโรง นายประทักษิณ ได้เผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิด โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อตอนเที่ยงเด็กอนุบาลทานข้าวก่อนเลยว่าง จากนั้นก็มาเล่นบริเวณอาคารเด็กมัธยม ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันก็เล่นไปทั่วตามประสาเด็ก จากนั้นไปหยิบกระดาษของครูพร้อมหลอดกาแฟมาเล่น ซึ่งกระดาษเป็นงานที่นักเรียนรุ่นพี่ทำส่งครู พอครูกลับเข้ามาเห็นเลยถามไปว่าใครเป็นคนเล่น พี่ ม.3 กับพี่ ป.6 บอกว่าเป็นน้องอนุบาล จากนั้นจึงให้พี่ ป.6 ไปตามน้องอนุบาลมา และถามนักเรียนอนุบาล ซึ่งก็ยอมรับว่าตนเองเล่น ครูก็เลยสอนว่าทำอย่างนี้ไม่ถูก และมีครูอีกคนมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น และนำเด็กไปห้อง ม.3 ซึ่งครูคนดังกล่าวสอนอยู่แล้วก็บอกกับเด็กอนุบาลที่เป็นคลิปว่า หนูทำอย่างไร ซึ่งก็พูดธรรมดาแบบสอนเด็ก ไม่มีการดุด่าและทำร้ายแต่อย่างใด
“จากนั้นก็สอนทั้งเด็กโตและน้องอนุบาล การทำอย่างนี้มันเป็นสิ่งไม่ดี หากโตขึ้นไปทำอย่างนี้ตำรวจจะจับนะ ถ้าตำรวจจับจะต้องใส่กุญแจมือ และให้พี่ ม.3 สาธิตให้ดูโดยการนำผ้าเทปมาพันที่มือน้อง เพื่อให้รู้ว่าถ้าโดนใส่กุญแจมือจะเป็นอย่างนี้ และหากโดนจับจะต้องเอาไปติดคุกและจะไม่เห็นหนทางนะ ก็ให้รุ่นพี่นำกระดาษทิชชูมาปิดตาและเอากระดาษกาวหย่นติดไว้ จากนั้นก็บอกว่าต่อไปอย่าทำอีกนะ ทั้งรุ่นพี่ด้วย เป็นการสอนกันเรื่องก็จบ จากนั้นก็ให้รุ่นพี่พาไปส่งที่ห้องอนุบาล และบอกคุณครูประจำชั้นด้วยว่าน้องเขาทำผิดแบบนี้นะ พอพาไปส่งถึงห้องรุ่นพี่ก็ลืมแกะผ้าเทปออก ครูชั้นอนุบาลเห็นก็บอกว่าหนูทำไมทำอย่างนี้ทำรุนแรงเกินไปหรือเปล่า ก็เลยถ่ายรูปไว้”
นายประทักษิณ กล่าวว่า ในกรณีนี้ได้คุยกับผู้ปกครองแล้วคนหนึ่ง ซึ่งเข้ามารับเด็กและเห็นลูกตัวเองโดนมัดมือ พร้อมสอบถามครูประชั้นถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ครูก็ได้เล่าให้ฟังจนเป็นที่เข้าใจ ไม่ติดใจเอาเรื่องเอาความแต่อย่างใด แต่ผู้ปกครองที่ไม่เห็นตอนเช้าได้เข้ามาและบอกว่าครูทำไมทำรุนแรงกับเด็ก ถึงขั้นมัดมือมัดตาเด็ก คุณครูก็ชี้แจงให้ฟังที่แรกก็ไม่เอาความ จากนั้นก็กลับไปทำงาน แต่พอผู้เป็นแม่ของเด็กหญิงที่ปรากฏในคลิปเห็นรูปลูกสาว รับไม่ได้มันรุนแรงกับลูกตนเกินไป ซึ่งรูปที่ปรากฏออกไปถ่ายตอนที่เด็กนอนลงคล้ายบาดเจ็บ จริงแล้วไม่มีการทำร้ายแต่อย่างใด แต่เด็กก็ตกใจบ้างไม่ถึงขั้นเสียขวัญไป
ผอ.โรงเรียนบ้านสำโรง เล่าต่อว่า ตามที่ตนได้สอบถามมาทั้งหมด เรื่องที่เกิดขึ้น ตนถือว่าเป็นการสอนเด็กธรรมดา เพียงแต่ว่าผู้ที่เอารูปมาลงแล้วคอมเม้นท์ไปต่างๆนานา โดยที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง จากนั้นก็ไปขยายความเกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งต่อไปตนก็ต้องรายงานข้อเท็จจริงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร โดยให้เสร็จในวันนี้เพื่อที่จะได้รายงานเขตพื้นที่การศึกษาและทางอำเภอต่อไป เพราะเรื่องนี้ได้ปรากฏในโลกโซเชียลเยอะมากก็เลยเป็นห่วง แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรเลย ด้านผู้ปกครองก็ได้พูดคุยเข้าใจทั้งหมด คนที่นำไปโพสต์ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอได้ชี้แจงก็มีความเข้าใจและขอโทษพร้อมลบโพสต์ออกแล้ว ผู้ที่นำรูปไปโพสต์ก็เป็นแม่ของเด็ก ซึ่งทำงานต่างจังหวัด แต่ก็ได้มีการพูดคุยให้เข้าใจแล้วว่าไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น
“มันเป็นแสดงบทบาทสมมุติของครูกับนักเรียนที่สอนเด็ก ซึ่งผู้ปกครองเด็กก็ได้พูดคุยกันแล้วไม่มีการเอาเรื่องแต่อย่างใด และจะนัดคุยกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้(23 กพ.60) เพื่อให้เรื่องจบ ยืนยันเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตนก็อยากจะขอโทษผู้ปกครองและผู้ที่ดูคลิปดังกล่าว เจตนาของโรงเรียนที่จะสอนเด็กให้เป็นคนดีมีเต็มเปี่ยม แต่ว่าบางทีภาพที่ออกไปไม่ได้บรรยายขยายความก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ ก็อยากจะขอโทษผู้ปกครองและทุกคนทั่วประเทศที่ได้ดูภาพ ให้เข้าใจในเจตนาของครูที่ต้องการสอนเด็ก และขอโทษทุกภาคส่วนที่เห็นภาพนี้แล้ว ทำให้เกิดความไม่สบายอกสบายใจ ขอยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิด”ผอ.โรงเรียนบ้านสำโรง กล่าว
ด้าน น.ส.อรุณรัตน์ (สงวนนามสกุล) แม่ของน้องอนุบาลที่เป็นคลิปข่าว เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเบื้องต้นได้คุยกันบ้างแล้วกับทางโรงเรียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่ได้มีการเอาความแต่อย่างใด ซึ่งจะนัดพูดคุยกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.60) ที่โรงเรียนบ้านสำโรง เพื่อหาข้อยุติ ซึ่งผู้เป็นแม่พูดทั้งน้ำตาว่าเห็นภาพลูกตนเองในลักษณะดังกล่าวมันไม่สามารถรับได้
ขอบคุณที่มา : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_228555