โพสต์โดย : Admin เมื่อ 16 พ.ค. 2563 14:40:45 น. เข้าชม 166482 ครั้ง
จากกรณีกลุ่มครู 5 คนและศิษย์เก่ารุ่นพี่ 2 คน ใน จ.มุกดาหาร ก่อเหตุข่มขืนนักเรียนหญิงชั้น ม.2 อายุ 14 ปี และม.4 อีก 1 คน นานนับปี พร้อมถ่ายคลิปเก็บไว้ข่มขู่หากไม่ยอมจะให้ซ้ำชั้น ซึ่งยายรู้เรื่องพาหลานแจ้งความ ก่อนได้รับการประกันตัว แต่ก็ถูกไล่ออกจากราชการไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เปิดเผยภายหลังประชุม กมว. ว่า ที่ประชุมหารือกรณีครูและผู้อำนวยการสถานศึกษา ทำอนาจารล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยมีมติตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู จำนวน 6 ราย และผู้อำนวยการโรงเรียน 1 ราย แบ่งเป็นกรณีครู 5 รายในจังหวัดมุกดาหาร ทำอนาจารเด็กนักเรียนชั้นม.2 และม.4
ซึ่งจากข้อมูลเชื่อได้ว่าประพฤติที่ผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ ดังนั้น กมว.จึงมีมติตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทั้ง 5 ราย เป็นเวลา 60 วัน เพื่อดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ส่วนกรณีผู้บริหารสถานศึกษาในฐานะผู้บังคับบัญชาจะมีความผิดด้วยหรือไม่ ทราบว่าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ต้นสังกัดให้ความสำคัญกรณีที่รับรู้แต่ไม่ดำเนินการแก้ไข ก็คงต้องมีส่วนรับผิดชอบ ส่วนจะรับผิดชอบระดับใดนั้นขึ้นอยู่กับ สพท.
ที่ส่วนครูที่ออกมาให้กำลังใจผู้ที่ประพฤติผิดนั้น ไม่เข้าข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณ แต่ที่ประชุมเห็นว่า ผู้ประกอบวิชาชีพครูควรแสดงออกถึงกาลเทศะที่เหมาะสม และคำนึงถึงความเป็นครู เพราะฉะนั้นกมว.จะมีบันทึกขอให้ระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นถึงครูรายดังกล่าว เพื่อขอให้เข้าใจว่าการแสดงความเห็นต่อสังคม ต้องคำนึงถึงความเป็นครู และกาลเทศะที่เหมาะสม
“การประชุมครั้งนี้ใช้เวลาพอสมควรเพราะอภิปรายในแง่กฎหมาย และความเป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนจะขอให้เขตพื้นที่ฯ กำชับให้กำกับดูแลไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น เราไม่พูดเรื่องการรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ แต่มองว่าผู้อำนวยการโรงเรียนบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้บังคับบัญชาสถานศึกษาหรือไม่” นายเอกชัย กล่าว
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ส่วนครูอีก 1 ราย เป็นกรณีถูกกล่าวโทษว่ามีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับนักเรียนหญิงชั้น ม.5 โดยพูดคุยเชิงชู้สาวผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นกรณีเกิดขึ้นใน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงด้วยการล้วงมือเข้าไปในเสื้อเพื่อจับหน้าอก
ทั้ง 2 กรณีถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และพักใช้ใบอนุญาต 60 วันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้หากผลสอบพบว่ามีความผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหา ก็จะถูกเพิกถอนใบอนุญาต และขึ้นแบล็กลิสต์ไม่ให้กลับมาเป็นครูได้อีก
ด้าน น.ส.วัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวถึงกรณี จ.มุกดาหาร ว่า การสอบสวนเรื่องนี้ต้องสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนด้วยว่ารับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ หากรับทราบแล้วไม่ดำเนินการ คงเป็นประเด็นที่ต้องตั้งกรรมการสอบสวนต่อไป หากไม่รับทราบ คงเป็นลักษณะการตักเตือนการทำหน้าที่ผู้บริหาร
ส่วนครูที่ออกมาแสดงความเห็น คุรุสภาจะมีหนังสือทำความเข้าใจ ถือเป็นการส่งสัญญาณไปยังครูและผู้บริหารทั่วประเทศให้ระมัดระวัง ในการแสดงความคิดเห็น นึกถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับลูกศิษย์
โดยที่ประชุมเน้นถึงคำว่ากาลเทศะ เพราะไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมาแสดงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ กรณีผู้อำนวยการโรงเรียน การกำกับดูแลครู ถือเป็นภารกิจหนึ่งในจรรยาบรรณวิชาชีพ คุรุสภาคงต้องหารือกับหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อหามาตรการให้ผู้อำนวยการโรงเรียนกวดขัน ดูแลครูและนักเรียนให้มากขึ้นกว่าสมัยก่อน เพราะบริบทสังคม และสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ฉะนั้นบางเรื่องอาจมีความล่อแหลมมากกว่าเดิม ดังนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนในฐานะผู้บังคับบัญชา ควรจะต้องมีการบริหารจัดการที่ชัดเจนมากกว่าเดิม
ภาพบางส่วนจาก อมรินทร์ทีวี