โพสต์โดย : Admin เมื่อ 6 ก.ค. 2562 11:00:10 น. เข้าชม 166406 ครั้ง
สั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ผอ.หนุ่มโรงเรียนดัง อ.จักราช โคราช หลังทำครูสาวสอนภาษาชาวฟิลิปปินส์ขวัญกระเจิง แจ้งความถูก ผอ.จับมือนานร่วม10นาที ทั้งยังจุมพิตที่มือ ผอ.ยันไม่ได้คิดเกินเลย แต่คิดว่าเป็นธรรมเมียมที่ปฏิบัติกับชาวต่างชาติ
วันที่ 5 ก.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติ บุญเชิด ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา เขต 1 จ.นครราชสีมา สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีกลุ่มเด็กนักเรียนเคลื่อนไหวผ่านโลกโซเชียล ร้องเรียนถึงพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.จักราช จ.นครราชสีมา ลวนลามครูสาว อายุ 22 ปี ชาวฟิลิปปินส์ ครูสอนภาษาต่างชาติโรงเรียนเดียวกัน
ทั้งนี้ เหตุเกิดขณะ ผอ.ขับรถยนต์กลับจากร้านอาหาร มาส่งครูสาวที่บ้านพักภายในโรงเรียน แต่ ผอ.ฉวยโอกาสโดยการจับมือเป็นเวลานานกว่า 10 นาที และจุมพิตที่มือ ทำให้ครูสาวตกใจกลัว รีบเปิดประตูหนีลงจากรถ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ต่อมาครูสาวชาวฟิลิปปินส์ เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.จักราช เพื่อเรียกร้องขอความยุติธรรมหลังเกิดเหตุครูสาวผู้เสียหาย ต้องยื่นใบลาออกจากโรงเรียน เพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับ ผอ.จอมจุมพิต อีก ต้องไปหาที่ทำงานใหม่
ล่าสุด พ.ต.อ.ทรงยศ เปี่ยมปฏิภาณ ผู้กำกับการ สภ.จักราช ให้ข้อมูลว่า คู่กรณี 2 ฝ่าย ทั้ง ผอ. พร้อมครูสาว และล่ามแปลภาษา ได้มาพบพนักงานสอบสวนและเจรจาทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ส่วน ผอ.ให้ข้อมูลว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด มีการจับมือครูสาวจริง แต่เข้าใจว่าเป็นธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติกับชาวต่างชาติ และพูดคุยกันไม่เข้าใจ โดยที่ฝ่ายครูสาวผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีแต่อย่างใด แต่ขอรับเงินเดือนที่ตกค้าง หลังจากลาออกจากโรงเรียน และตำรวจได้ส่งหลักฐานบันทึกประจำวันให้กับฝ่ายสืบสวนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเรียบร้อยแล้ว
ส่วนคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง นำโดย นายโกเมศ หอยมุกข์ ผอ.โรงเรียนโชคชัยสามัคคี พร้อมฝ่ายนิติกร อยู่ระหว่างลงพื้นที่สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในโรงเรียน และประสานขอล่ามแปลภาษา เตรียมสอบปากคำครูสาวฟิลิปปินส์ เพื่อดำเนินการทางวินัยตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน นักเรียนชาย ชั้น ม.6 (สงวนชื่อ) บอกว่า รู้สึกเห็นใจครูสาวชาวต่างชาติ ที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ นักเรียนหลายคนรับไม่ได้กับพฤติกรรมของ ผอ.คนนี้ อยากให้ต้นสังกัดเร่งสืบสวนข้อเท็จจริง และอยากให้มีบทลงโทษสั่งย้าย ผอ.โดยเร็ว เพราะสร้างความเสื่อมเสียแก่โรงเรียนและวงการครู แถมยังกระทำการไม่เหมาะสมกับครูสาวชาวต่างชาติอีกด้วย.