มงคลกิตติ์ ส.ส.ที่ถูกยี้! ลั่น ขอคุม ‘กระทรวงศึกษา’ เย้ย วัน อยู่บำรุง อ่านหนังสือเยอะๆ

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 21 พ.ค. 2562 01:26:52 น. เข้าชม 166438 ครั้ง

มงคลกิตติ์ ส.ส.ที่ถูกยี้! ลั่น ขอคุม ‘กระทรวงศึกษา’ เย้ย วัน อยู่บำรุง อ่านหนังสือเยอะๆ

จากกรณีร้อนแรงและสร้างสีสันทางการเมือง ส.ส.ฝีปากกล้าอย่าง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังใช้ถ้อยคำรุนแรงว่า “จะตบปาก” ในประเด็นที่มีนักการเมืองเสนอนโยบายเรื่องการตัดงบประมาณของกองทัพ ทำให้ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ให้ความเห็นว่า “ไม่ให้ราคากับคนเหล่านี้ แค่ชื่อยังไม่รู้จัก” และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในโซเชียลมีเดีย ซึ่งพูดถึงวีรกรรมในอดีตเมื่อครั้งสมัยเรียนเทคนิคและพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โดยเล่าถึงชีวิตนักเลงที่มีเรื่องชกต่อยเป็นประจำ อีกทั้งยังพูดถึงความโหดของตนเองที่ทำให้ไม่มีนักการเมืองคนใดกล้ายุ่ง จนถูกรุ่นพี่-อาจารย์ล่ารายชื่อถอดถอนการเป็น ส.ส.

ล่าสุดรายการโหนกระแสวันที่ 20 พ.ค โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัดออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45 – 14.25 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หรือ “คุณเต้” หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ทุกเรื่อง

เอาชัดๆ พรรคคุณชื่อว่าศรีวิไลย์?
“เป็นภาษาต่างประเทศ พระเป็นคนตั้งให้ พระที่ผมอยู่ด้วยตั้งแต่ 8 ขวบ เขาบอกว่าบ้านเมืองเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์แล้ว แต่มันมาจากภาษาอังกฤษ แต่เราเป็นคนไทย ก็ต้องใช้ภาษาไทยให้ชัดถ้อยชัดคำ”

คุณบอกว่าพระตั้งให้ เป็นพระที่คุณรู้จักตั้งแต่ 8 ขวบ คุณพูดเหมือนคุณก่อตั้งพรรคนี้เอง ไม่มีคนอื่น?
“การริเริ่มการก่อตั้งพรรคนี้คือผมเป็นคนแรก มาร์ค พิตบูลคนที่สอง และคนที่สามมี 600 คนครับ”

คุณมาร์คบอกว่า ณ วันนี้คุณเต้ พอมาเป็นหัวหน้าพรรค เป็นส.ส. ว่าที่ส.ส.ฝั่งรัฐบาล ซึ่งยังไม่รู้ได้เป็นหรือเปล่า เขาบอกคุณทำให้พรรคเขาเสื่อมเสีย?
“ก็แล้วแต่คนมอง ณ สถานการณ์ปัจจุบัน แต่การจะมองว่าตัวผมเองหรือพรรคเองจะเสื่อมเสียไม่เสื่อมเสีย เวลาดูคนอย่ามองแค่ ณ วันนี้ ต้องดูอดีตก่อน ดูระยะกลาง และช่วง 12 ปีที่ผ่านมา ผมทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้าง”

อดีตคุณดี?
“ผมว่าผลงานของผมในการทำประโยชน์กับประเทศไทยแห่งนี้ ผมว่าผมไม่แพ้นักการเมืองคนไหนในประเทศไทย”

ที่คุณมาร์คหรือคนอื่นๆ กล่าวอ้างไม่ได้เป็นแบบนั้น?
“ใครจะกล่าวอ้างว่าผมดีหรือไม่ดี เอาผลงานที่ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมมาวัดกันดีกว่า ในช่วง 12 ปี”

ผมดูวินาทีนี้ที่เจอคุณกับย้อนกลับไปวันเลือกเป็นคนละคนเลย วันนั้นคุณฮาร์ดคอร์ ถ้ามีการข่มขืนจะตัดไข่ วันนี้ทำไมตอบซอฟต์?
“ณ วันนั้นเรานำนโยบาย 10 ข้อชี้แจงให้ประชาชนฟัง ไม่ว่าจะเรื่องน้ำมัน 19 บาท หรือแก้ไขส่วนปรับจราจร ประชาชนไม่ค่อยฟัง เมื่อเขาไม่ค่อยฟัง เวลาจะแถลงข่าวแต่ละครั้งเราต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งพรรคเราไม่ค่อยมีเงิน ก็จำเป็นต้องมีอิริยาบทหนึ่งให้คนมาสนใจ เมื่อคนสนใจมากๆ แล้วเราค่อยเอานโยบายพรรคไปชี้แจงอีกที”

เป็นภาษาชาวบ้าน พรรคคุณในอดีตไม่มีตังค์?
“มีตังค์น้อย”

ต้องสร้างคาแรคเตอร์ของพรรค ?
“ถูกต้องครับ”

โดยเอาคุณชูขึ้นมา?
“เดิมทีพี่มาร์คชู เพราะพี่มาร์คเป็นเน็ตไอดอลในโลกโซเชียลอยู่แล้ว แกฮาร์ดคอร์ รุนแรงอย่แล้ว แต่ ณ วันเลือกตั้งจริงๆ สุดท้ายสู้กันที่นโยบาย จริงๆ ไม่ได้สร้าง แต่ ณ เวลานั้นตัดงบทหารลดกำลังพลมีแอ็กซิเดนท์ มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ผม ยั่วด้วย ผมตอบคำถามตรงๆ ไป”

คุณมีเรื่องกับชาวบ้านที่ตลาดแห่งหนึ่ง?
“อันนั้นหลังจากที่บอกว่าจะตบปากนักการเมืองบางคน”

มันเลยต่อเนื่อง กลายสร้างคาแรคเตอร์ที่เกรี้ยวกราด เพื่อชูพรรคขึ้นมาเหรอ?
“ไม่ได้สร้างครับ เพียงแต่ว่าวันนั้นนักข่าวเขาอัดคลิปไปเฉยๆ เราก็ไม่คิดว่าเป็นกระแสแรงขนาดนี้ ผมก็งงเหมือนกัน ตั้งแต่วันนั้นผมทำอะไรทุกอย่างดูรุนแรงหมดเลย ทั้งที่เป็นรูปส่วนตัวของผม เอาไปปะติดปะต่อกันเอง”

รูปอะไร?
“อย่างเช่นมีคนส่งรูปให้เป็นรูปวาด ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นกระแสขนาดนี้ มีคนส่งมาให้ในเฟซบุ๊ก แล้วผมก็เซฟ ผมเก็บตัวมาเดือนกว่าไม่ได้เคลื่อนไหวในเฟซบุ๊ก ผมก็เอามาลง”

ลักษณะเหมือนคุณเป็นเจ้าพ่อ?
“ไม่ถึงขนาดนั้น”

วันนี้ทำไมซอฟต์ เป็นส.ส.แล้วต้องซอฟต์เหรอ?
“ไว้ไปดูกันตอนอภิปรายดีกว่า”

เข้าไปสภา แน่นอนว่าคุณต้องเจอคุณวัน อยู่บำรุง?
“คือก่อนเลือกตั้งผมเจอแกนนำหลักพรรคเพื่อไทยทุกคนแล้ว ไม่ว่าจะดีเบตนโยบายการเงิน การคลัง นโยบายทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน ผมเจอมาหมดทุกคนแล้ว เพราะฉะนั้นเนี่ยคุณวันไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคเลยไม่ได้เจอผม”

พูดแบบนี้เหมือนท้าทายมั้ย?
“ก็ไม่มีปัญหา เราสู้กันด้วยหลักการ ถ้าจะอภิปราย เสนอแนะนโยบายรัฐบาล ก็มาถกเถียงกันด้วยแง่วิชาการ ข้อมูลข้อเท็จจริงผมก็พร้อมเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นคุณวันครับ”

คุณวันเคยโพสต์ในโซเชียล บอกว่ามีอะไรจะฝากถึงไอ้แว่น ทุกคนมองมาที่คุณ?
“ไม่เป็นไรครับ ใครจะฝากอะไรก็ฝากได้ ฝากนโยบายอะไรก็ได้ที่อยากให้ผมทำ แต่ผมก็อยากฝากคุณวันว่าถ้าอย่างไร ไปตามเงินโกงจำนำข้าวคืนประเทศด้วย ผมอยากได้คืนมากเลย”

เรื่องนี้คุณพยายามจะบอกว่าคุณเริ่มต้นจากการจัดการเรื่องนี้เหรอ?
“ตั้งแต่ปี 2554 ครับ ตั้งแต่เริ่มต้นรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.2555 แล้วก็ยึดทรัพย์ครม. ”

คุณทำเพื่อเมืองไทย?
“ผมเกิดเป็นคนไทย ก็ต้องทำประโยชน์เพื่อผืนแผ่นดินไทยเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญด้วย”

คุณเป็นคนยังไง ครั้งนึงฮาร์ดคอร์ วันนี้ซอฟต์ สร้างภาพหรือเปล่า?
“ไม่ได้สร้างภาพ ปกติผมเป็นคนสอนหนังสือมาสิบกว่าปี สอนทั้งเด็กเก่ง เด็กเก่งสอนอีกแบบนึง เด็กเกเรก็สอนอีกแบบหนึ่งแบบดุดัน สมมติถ้าเราคุยกับคนมีความรู้เราก็ต้องใช้วิชาการในการถกเถียงกัน ถ้าเราคุยกับคนไม่ฟังเหตุผล บางทีอาจใช้คำพูดที่ดุดันบ้าง แต่ถ้าคุยกับคนที่เขาเป็นมาเฟีย เป็นนักเลง ถ้าเราอานักวิชาการ ไปคุยกับมาเฟีย นักเลง คอรัปชั่น เราใช้วิชาการไปสู้เขาไม่ได้หรอก เราก็ต้องใช้ความเป็นมาเฟียกว่าสู้กับเขา”

คุณรู้สึกการ์ตูนไปหรือเปล่า ?
“การ์ตูนต่างๆ ที่เขาเขียนมาให้เด็กดู ก็มาจากความจริงทั้งหมด ในสภาพสังคมของทุกประเทศ ก็เปลี่ยนไปตามอิริยาบทของสถานการณ์”

ผมเคยสัมภาษณ์คุณมาครั้งนึง คุณบอกว่านักเรียนตีกัน บุกขึ้นไปเอามีดแทงกันในรถเมล์ คุณจะทำอย่างนั้นมั้ย?
“ผมบอกว่าอย่างน้อยเขาอายุเกิน 18 ก็ต้องโดนดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านมือง แต่อีกมุมถ้าเป็นเยาวชน ถ้าไม่ถึงกับฆ่าแกงกัน อย่างน้อยก็พาไปปรับทัศนคติในค่ายทหาร ไปฝึกลาดตระเวนตามชายแดนที่เสี่ยงภัย ให้เขาเกิดความรักสามัคคีกัน”

ถามจริงหวังเก้าอี้รัฐมนตรีมั้ย?
“ในมุมของผม ในการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ในการถูกเสนอชื่อในนามพรรคศิวิไลย์เป็นนายกรัฐมนตรี ทุกคนต้องหวังที่จะมีอำนาจบริหารประเทศ แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว”

หวังรัฐมนตรีกระทรวงไหน?
“เบื้องต้นถ้าต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องการคอรัปชั่นตั้งแต่เด็กๆ ก็ต้องเริ่มต้นที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการก่อน เพราะถ้าเป็นรัฐมนตรีว่าการอาวุโสอาจจะต่ำไปหน่อย แต่องค์ความรู้ความสามารถผม ผมคิดว่าผมทำงานได้หลายด้าน และแก้ปัญหาได้ค่อนข้างเร็วและเฉียบขาด เพราะผมดำเนินคดีตรวจสอบการทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินคดีจนโดนไล่ออกไปร้อยคน”

สิ่งที่คุณพูดสวนทางกับสิ่งที่เขามอง คุณบอกว่าคุณทำนี่ทำนั่น แต่ล่าสุดรุ่นพี่ อาจารย์กำลังล่ารายชื่อถอดชื่อคุณจากการเป็นส.ส.?
“ทราบครับ เผอิญมันเป็นคลิปที่ผมเล่าให้แฟนเพจฟัง ตั้งแต่ 9 -10 วันที่แล้ว ก็เหมือนตอนเด็กๆ ผ่านอะไรมาบ้าง ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เราเล่าอดีตเมื่อ 20 กว่าปีก่อน”

ไล่ตีกันเหรอ?
“ก็มีบ้าง ก็เป็นเด็กนักเรียนมาอยู่กทม. หลายพ่อพันแม่ แล้วก็หัดเที่ยวกลางคืนตั้งแต่ 15 ก็ต้องเจอหลายรูปแบบ การรังแกในห้อง ต่างห้องก็เป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น”

แล้วทำไมเขาถึงล่ารายชื่อ?
“ก็อิริยาบทในวันนั้นอาจจะดุดัน เพราะป็นการพูดต่อเนื่องกับกรณีตัดงบทหาร ลดกำลังพล เป็นอารมณ์ต่อเนื่อง สื่อมวลชนก็ชอบเสี้ยมให้สองฝ่ายตีกันขายข่าวเป็นต้น ก็ในเมื่ออยากจะขายข่าวใช่ม้ย ก็จัดให้”

ถ้ามีการล่ารายชื่อ จะส่งผลกระทบถึงตำแหน่งคุณมั้ย?
“ก็ต้องดูว่าจำนวนผู้เซ็นในการล่ารายชื่อต้องมีทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน เอกสารรับรองเวลาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่ผ่านมา ให้กระทรวงมหาดไทยรับรอง อย่างน้อยต้องมี 2 หมื่นรายชื่อต้องเซ็นจริงทั้งหมด”

กลัวมี 2 แสน?
“ก็แล้วแต่ แต่ต้องมีความผิดด้วย เช่นทุจริตต่อหน้าที่เป็นต้น”

โม้ล่ะ ถือว่าผิดมั้ย?
“โม้ใครพิสูจน์ได้ว่าเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ คลิปที่เล่ามันเป็นความรู้สึกส่วนตัว มันเป็นปัจเจกบุคคล”

การล่ารายชื่อ หรือคุณพูดพาดพิงสถาบัน คุณเคยออกมาขอโทษ ถ้าเข้าสภาจะปฏิรูปแก้ไขให้สถาบันคุณดีขึ้น?
“ปกติมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผมก็ได้ช่วยเหลืออะไรหลายอย่างด้วยกัน ระหว่างอธิการบดีกับผม”

พรุ่งนี้คุณต้องไปขมา?
“ผมจะเปิดประชุมรัฐพิธีในวันที่ 24 นี้แล้ว เพราะฉะนั้นแล้วอะไรจะเป็นเรื่องไปรบกวนการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรในการเข้าไปทำงานปกป้องผลประโยชน์งบประมาณแผ่นดิน ปกป้องประโยชน์ประชาชน ผมอยากทุ่มให้ตรงนั้นเต็มที่ อะไรเล็กๆ น้อยๆ ถ้าผมยอมได้ ผมก็ต้องยอม”

ผู้ใหญ่ในรัฐบาลคาดโทษให้คนซอฟต์หรือเปล่า?
“ก็มีผู้ใหญ่บอกมา (หัวเราะ) การไปเป็นแกนนำรัฐเข้าร่วมพลังประชารัฐ มันก็แรงอยู่แล้ว มีฝ่ายตรงข้ามเขาต้องการจัดตั้งรัฐบาลแข่ง เพราะฉะนั้น อย่าลืมว่าแฟกเตอร์11 พรรคสำคัญกับเมืองไทย เปิดสวิตช์เมืองไทยให้เดินต่อไปข้างหน้า มันเป็นการแข่งขันกันตั้งรัฐบาล ในเมื่อผมกับพื่อนมาอยู่ฝ่ายนี้ ผมก็ต้องโดนโจมตี แน่นอนว่าผมถูกโจมตีมากที่สุด แต่ทุกคนก็ถูกโจมตีหมด”

ลูกพรรคคุณคนหนึ่ง ถึงขั้นประกาศลาออกจากพรรค เพราะรับคุณไม่ได้?
“กรณีพี่อุบล ผมต้องชี้แจงว่าตอนเราหาเสียง เราไม่เอาเผด็จการรัฐสภาที่โกงชาติและหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ อีกอันนึงเราไม่เอาสืบทอดอำนาจ ตอนนั้นเรามั่นใจว่าเราต้องได้เกิน 25 ที่นั่งเพื่อเสนอคนของเราไปชิงแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลเป็นแกนหลัก แต่ ณ ปัจจุบันเราได้แค่คะแนนเสียงเดียว มีสองทางเลือก คือเลือกฝั่งที่มีคดีทุจริตกับถูกยึดทรัยพ์จำนวนมาก กับอีกฝั่งนึง คดียังไม่ตัดสินเลย เราก็ต้องเลือกฝั่งที่บริสุทธิ์มากที่สุด จะบอกว่าเผด็จการมั้ย ไม่มีเผด็จการแล้วเพราะเราเลือกตั้งไปแล้ว การบอกว่าสืบทอดอำนาจมันเป็นวาทกรรมทางการเมือง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ฝั่งตัวเอง ทั้งที่ฝั่งตัวเองมีคดีทุจริตจำนวนมาก ยึดทรัพย์ไปแล้ว หนีคดีไปแล้ว และกำลังถูกดำเนินคดีจำนวนมาก”

ไม่ใช่ช่องทางเลาะเลี้ยวที่คุณพูดออกมา?
“ตอนนี้ไม่ได้ตัดสินใจในนามส่วนตัว ตัดสินใจในฐานะสมาชิกรัฐสภา หนึ่งในห้าร้อยเสียง การตัดสินใจก็มองไปข้างหน้าว่าเราไปได้มั้ย แต่ถ้าเรามัวจะรักษาคำพูดส่วนตัวโดยทำให้ปรเทศไปไม่ได้ ผมว่าผมเห็นแก่ตัวมากเลย”

เป็นคนดีเข้าไปอีก?
“ผมยังเชื่อมั่นว่าผมเป็นคนดีเกิน 70 เปอร์เซ็นต์นะคุณหนุ่ม ผมทำไม่ดีแค่ช่วงวัยรุ่นแค่นั้นเอง 30 เปอร์เซ็นต์”

โตมาเป็นคนดีเลย?
“เราแยกแยะแล้วไงว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรกระทบกับส่วนรวม ไม่กระทบกับส่วนรวม”

คุณกำลังจะบอกว่าก่อนหน้าเลือกตั้งคุณสร้างคาแรคเตอร์ให้คนหันมามองพรรคเพราะไม่มีเงินโปรโมตพรรค แต่อาจทำให้คนรุ่นหลังๆ สร้างภาพแบบนี้ขึ้นมา ต้องรุนแรงถึงจะได้เป็นสส.?
“มันไม่จริงครับ มีคนมาพยายามตำหนิผม ถ้าด่าผม ก็เป็นกระแสในโซเชียล ไม่ว่าจะหลวงปู่มหามุนีก็ด่าผมทุกวัน ผมก็โดนด่า ผมก็ไม่เคยโต้ตอบสักครั้งนึง ตอนนี้เขาถูกจับไปแล้วนี่ อยากด่าก็อยากด่า แต่ด่าไปกระทบสิทธิ์คนอื่น เดี๋ยวเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็จัดการ”

เมื่อกี้คุณบอกอยากอยู่กระทรวงศึกษา?
“นั่นหมายความว่าในการแก้ปัญหาเรื่องไม่ให้เด็กเรียนรู้เรื่องการทุจริตตั้งแต่เด็ก และเรื่องการแต่งตั้งโยกบายข้าราชการครู และผู้บริหาร ที่มีส่วนคอรัปชั่นเลือกปฏิบัติ ผมต้องการเข้าไปแก้ปัญหาจุดนั้นให้เสร็จ และเข้าไปแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำโรงเรียนขนาดเล็ก”

คุณต้องการแก้ปัญหาทุจริต โดยเริ่มบ่มเพาะตั้งแต่สมัยนักเรียน จะบอกว่าที่ผ่านมาทุจริตกันทุกรัฐบาล?
“ถูกต้องครับ มากน้อยแค่นั้นเอง เหมือนกับมีคลิปที่ออกมา

- ขอบคุณที่มา :