วันที่ 2 ต.ค. ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านกว่า 100 คน มารวมตัวประท้วงขับไล่ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ห้วยขะยุง ตรวจค้นสิ่งของชาวบ้านที่เข้าร่วมชุมนุมบริเวณสนามหญ้าของโรงเรียน
นายพีรพล ไชยะเดชะ อายุ 64 ปี ข้าราชการบำนาญ เล่าถึงพฤติกรรมของรองผู้อำนวยการที่ถูกชุมชนรวมตัวขับไล่ เพราะไม่เคยร่วมพัฒนาโรงเรียนร่วมกับชุมชน ข่มขู่คณะครูจะไม่รายงานความดีความชอบในการทำงาน ไม่อยู่ทำงานในโรงเรียน เวลาอยู่ก็เปิดดูคลิปหนังโป๊ให้นักเรียนเห็น และใช้อาวุธปืนข่มขู่ครูที่ไปติดตามทวงถามหนี้สิน
จากพฤติกรรมดังกล่าว คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียน จึงทำเรื่องร้องเรียนให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 สอบสวนเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งก็พบรองผู้อำนวยการคนนี้ มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง แต่คณะกรรมการระบุว่า ความผิดไม่ถึงขั้นต้องตั้งกรรมการเอาผิดทางวินัย
จึงใช้วิธีพูดคุยทำความเข้าใจให้ขอย้ายตัวเอง แต่รองผู้อำนวยการโรงเรียน ยืนยันตนไม่มีความผิดขออยู่ที่โรงเรียนต่อไป แต่ชาวบ้านต้องการให้สำนักงานเขตการประถมศึกษาย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว และให้ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
เนื่องจากการสอบสวนของคณะกรรมการชุดที่แล้ว คณะครูในโรงเรียนกว่า 10 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงเกือบทั้งหมด ไม่กล้าให้ข้อเท็จจริง เพราะเกรงกลัวต่ออิทธิพลของรองผู้อำนวยการ พร้อมยังเห็นว่าปฏิบัติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ทำตัวขัดต่อจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพครู จึงควรตั้งคณะกรรมการสอบสวนด้านการประกอบวิชาชีพครูด้วย และการออกมาประท้วงวันนี้ จึงต้องการเรียกร้องให้ย้ายรองผู้อำนวยการคนดังกล่าวไปช่วยราชการที่อื่นชั่วคราว จนกว่าผลการสอบสวนใหม่จะเสร็จสิ้น
ต่อมานายวันชัย บุญทอง รักษาการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ได้เดินทางมาชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่มาประท้วงขับไล่ พร้อมรับว่าจะรีบนำเรื่องแจ้งให้ประธานคณะกรรมการการศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานสั่งการจะเอาอย่างไร
นายวันชัย เปิดเผยว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการมาสืบสวนข้อเท็จจริง และพบมีมูลตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปจริง แต่ไม่สามารถดำเนินการทางวินัยได้ จึงใช้วิธีทางบริหารพูดคุยกับรองผู้อำนวยการแล้ว แต่เจ้าตัวไม่ยินยอมย้ายออกไป จึงต้องขอใช้อำนาจของประธานคณะกรรมการการศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี ลงความเห็นจะมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการ หรือให้ย้ายตามที่ชาวบ้านต้องการหรือไม่ ซึ่งตนจะรีบนำเรื่องเสนอให้ทางจังหวัดทราบภายในวันนี้ ทำให้ชาวบ้านพอใจพากันสลายตัวไปในช่วงเที่ยงวันเดียวกัน