เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 มี.ค. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี คู่กรณีของร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี ข้าราชการเกษียณตำรวจ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และน.ส.พัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช ในข้อหาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม มาตรา 157 ซึ่งใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมง ว่า วันนี้ตำรวจได้ให้ทั้งหมดดูสำนวนการให้ปากคำเดิม แต่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.กมล กล่าวต่อว่า โดยนายปรีชาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าจะนำรายละเอียดหลักฐานต่างๆมามอบให้ภายใน 30 วัน แต่เนื่องจากทาง ปปป.ต้องส่งสำนวนให้คณะกรรมป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อน จึงได้แจ้งให้นายปรีชานำเอกสารที่จะมอบให้ตำรวจทั้งหมดส่งภายในวันที่ 26 มี.ค.นี้ หากหลังจากนั้น นายปรีชาจะไปยื่นเอกสารเพิ่มให้ไปยื่นที่ ป.ป.ช. ส่วนการสอบปากคำนางรัตนาพรและน.ส.พัชริดาก็ได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนเช่นกันว่าจะนำเอกสารมายื่นให้ภายหลัง และขอให้การในชั้นศาล เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ยืนยันในคำให้การเดิมที่ได้เซ็นในสำนวนกองบังคับการปราบปราม และสำนวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค
พล.ต.ต.กมล กล่าวอีกว่า ขณะที่นางรัตนาพรให้การกับพนักงานสอบสวน ปปป. ขอให้บันทึกคำให้การเพิ่มเติม เนื่องจากคำให้การเดิมนั้น นางรัตนาพรอ้างว่ามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนและสับสน อย่างไรก็ตาม หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาแล้วสอบปากคำทั้ง 3 คนพนักงานสอบสวนก็ได้อนุญาตให้ทั้งหมดกลับบ้านได้ เนื่องจากเดินทางมาให้ปากคำด้วยตนเองไม่มีการหลบหนี
ด้าน นายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความของนางรัตนาพรและน.ส.พัชริดา เปิดเผยว่า ตนไม่กังวลใจที่เข้ามาดูแลคดีสนับสนุนให้เจ้าพนักงานประพฤติมิชอบ หลังจากนี้จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำมาหักล้างกับข้อกล่าวหา ส่วนเรื่องความมั่นใจในลูกความหรือไม่นั้น อยู่ที่ข้อเท็จจริง