เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 ก.พ.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักร.ต.ท.จรูญ วิมล ถ.กาญจนบุรี-อู่ทอง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งภรรยาของร.ต.ท.จรูญ ก็ได้เดินออกมาทักนักข่าวอย่างเป็นกันเอง โดยภรรยากล่าวว่า ในช่วงนี้ของดให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพราะนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ขอไว้ส่วนในวันนี้ตนกับร.ต.ท.จรูญ พร้อมลูกสาว จะได้เดินทางไปยังอำเภอบ่อพลอย เพื่อไปคุมคนงานตัดไร่อ้อย ต่อมาร.ต.ท.จรูญ วิมล ได้เดินออกมาทักทายผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส กล่าวสั้นๆว่า “ตนเองอยากจะพูดคุยทักทายกับผู้สื่อข่าวนะ แต่ทางทนายษิทธาได้ขอไว้ ว่าอย่างเพิ่งให้ตนพูดอะไรในช่วงนี้ เพราะเดี๋ยวจะมีผลต่อรูปคดี”
ต่อมาเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังบ้านพักของนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังสี บริเวณหมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยครูปรีชาได้ออกมาทักทายผู้สื่อข่าว ด้วยการแต่งกายกางเกงขาสั้น และสวมหมวก นายปรีชา เปิดเผยว่า ในส่วนของกุ้งที่เจ้าหน้าที่กองปราบฯ เรียกไปสอบนั้น ตนไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ไม่เคยติดต่อกันตนรู้จักเพียงหน้าตา แต่ไม่รู้จักชื่อ ก็จะเจอกันบางตามแผงขายล็อตเตอรี่ เป็นคนคุ้นหน้ากัน เขาก็จะเรียกตนว่าอาจารย์ ตนก็ไม่รู้ว่าชื่อจริงว่าอะไร ส่วนเขาจะเห็น 726 มั้ยนั้น ตนก็ไม่ทราบว่าคำให้การเขาเป็นอย่างไร
นายปรีชา เปิดเผยต่อว่า ในส่วนเรื่องที่ทนายษิทธาได้พยายามมาหาตนนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไร เจรจาหรือไม่ แต่การเจรจานั้นก็เป็นการบ่งบอกเหมือนการข่มขู่ ทนายษิทธา ได้ให้บุคคลที่ 3 ให้ติดต่อมาที่ตน ทางโทรศัพท์ เขาบอกว่าให้ยอมรับสภาพว่าเป็นคนผิด แบบนี้เรียกว่าการข่มขู่ไหม เรื่องยังไม่ได้สรุปสำนวนคดีเลย เรื่องยังไม่ได้ไปถึงศาลเลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ยังต้องทำงานต่อไป ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นคลิปเสียง ตนจะได้ปรึกษาทางทนายต่อไป ส่วนมีการเด้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มอีก 2 นาย ตนก็อยากกล่าวขอโทษพวกเขา ที่ตนได้ทำล็อตเตอรี่หาย แล้วเขาได้มาทำงานแต่โดนเด้ง ตนจะไม่ยุ่งกับทางกระบวนการสอบสวน ตนก็ยังยืนยันว่าตนพูดความจริง ตนซื้อล็อตเตอรี่จริงๆทำหายจริงๆ ส่วนแม่ค้าล็อตเตอรี่ทั้ง 3 คน ตนก็ยังไม่ได้คุยอะไรเลย พวกเขาน่าจะขายล็อตเตอรี่อยู่ที่ตลาด พวกเราของจริง ก็ไม่จำเป็นต้องคุยอะไรกัน
“ส่วนเรื่องสำคัญอีกเรื่องคือทางทนายษิทธา ได้แจ้งความต่อเจ๊ บ้าบิ่น ที่สภ.เมืองกาญจนบุรี ข้อหาขายล็อตเตอรี่ให้ตนเกินราคา ซึ่งทางเจ๊ บ้าบิ่นเขาก็เป็นคนดี เขาเป็นชาวบ้านธรรมดา หาเช้ากินค่ำ เขาเห็นอย่างไร เขาก็พูดอย่างนั้น การกระทำของทนายษิทธาแบบนี้ ตนอนากฝ่กถามผ่านสื่อว่า เขาทำถูกต้องแล้วหรอ แบบนี้เรียกว่าการข่มขู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องตนกับลุงจรูญ แต่ทนายษิทธาเป็นคนไปแจ้งความ แบบนี้เรียกว่าเป็นการข่มขู่ ตนอยากถามว่านายษิทธาเป็นคนอย่างไร” นายปรีชากล่าว
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ใต้ต้นโพธิ์ ภายในวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ตำบลบ้านใต้ จังหวัดกาญจนบุรี ก็ได้พบกับนางปณัญชยา สุขผล หรือเจ๊ เกียว กำลังขายล็อตเตอรี่ โดยที่มีกลุ่มลูกค้าเข้ามาซื้อล็อตเตอรี่บนแผงเจ๊ เกียว มากมาย พร้อมกันนี้หลังจากซื้อเสร็จกลุ่มลูกค้า ยังได้มีการขอถ่ายรูปเซบฟี่ เพื่อเป็นการยืนยันการซื้อล็อตเตอรี่กันอย่างคับคั่ง
นางปณัญชา เปิดเผยว่า ทางกองปราบได้เรียกตนไปสอบปากคำตั้งแต่ 2-3 วันแล้วนะ ตนได้ให้ปากคำเข่นเดิมเหมือนที่เคยให้ปากคำไป ส่วนเรื่องคลิป ตนมีแต่ความจริงเท่านั้น ตนก็ได้คุยกับทั้งเจ๊บ้าบิ่น และเจ๊ พัช ทั้ง 2 คนอยู่เป็นประจำ แต่คุยกับเรื่องล็อตเตอรี่ ไม่ได้คุยเรื่องเกี่ยวกับคดีเลย ซึ่งทั้ง 2 คน ร่วมทั้งตนก็ไม่ได้เครียดอะไร
นางปณัญชา เปิดเผยต่อว่า ส่วนเรื่องที่ทนายษิทธา แจ้งความว่าเจ๊ บ้าบิ่นและเจ๊ พัช ขายล็อตเตอรี่เกินราคานั้น ทั้ง 2 คนก็ได้ไปจ่ายค่าปรับเรียบร้อยแล้ว จ่ายก่อนที่ภาค 7 จะสรุปผลอีก ซึ่งที่ทนายษิทธาไปแจ้งความนั้น ทั้ง 2 คนก็ขายล็อตเตอรี่เกินราคาให้กับครูปรีชา ไม่ได้ขายให้ลุงจรูญ แล้วก็เป็นเลข 533726 ที่ถูกรางวัล 30 ล้าน ตนยื่นยันว่าตนพูดความจริง ส่วนเรื่องทนายส่วนตัวตน ก็แค่เล่าความจริงให้ฟัง
“ส่วนเรื่องการมีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีนั้น ตนไม่ขอยุ่งในเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องปกติในความคิดของตน คดีใหญ่ๆ บางครั้งยังมีการเด้ง 5 เสือเลย ส่วนเรื่องที่ว่าตนได้เขาดอกไม้ไปให้พ.ต.ท.ชูสิทย์ เจริญนาค รองผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี นั้น ตนและกลุ่มแม่ค้าแค่เอาดอกไม้ไปให้ในช่วงปีใหม่เท่านั้น” เจ๊ เกียวกล่าว