โพสต์โดย : Admin เมื่อ 11 ก.พ. 2561 13:55:25 น. เข้าชม 166563 ครั้ง
วันที่ 11 ก.พ. นางน้อย นามสมมติ อายุ 61 ปี ชาวบ้านโนนสูง ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว หลังจากที่หลานสาวอายุ 8 ปี นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนระดับประถมและมัธยมต้นชื่อดังจังหวัดอุดรธานี กรณีถูกเพื่อนชายร่วมห้อง 3 คน รุมกระทำอนาจารและทำร้ายร่างกายด้วยการนำแท่งดินสอ แหย่ ทิ่มแทง อวัยวะเพศจนได้รับบาดเจ็บ และยังมีการกระทำอนาจารคล้ายท่าทางร่วมเพศ ภายในห้องน้ำของโรงเรียน บางครั้งก็กระทำกันภายในห้องเรียน ขณะที่ครูประจำชั้นไม่อยู่
เมื่อเรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้น ก็พยายามถามเรื่องกับคุณครูประจำชั้นและผ.อ.ผู้บริหารโรงเรียนให้เรียกผู้ปกครองของเด็กทั้ง 3 คนมาสอบสวนเพื่อร่วมกันออกมารับผิดชอบในเรื่องเกิดขึ้น แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ แถมยังพยายามที่จะยัดเยียดให้รับเงิน 1 -2 พันบาทเพื่อให้เรื่องจบลง จนได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจไว้แล้วและตรวจร่างกายของเด็กเบื้องต้นมีอาการบาดเจ็บอักเสบอย่างรุนแรงที่อวัยวะเพศ และยังมีหลักฐานเป็นกางเกงชั้นใน 6 ตัวที่ฉีกขาดเพราะถูกรุมถอดและแหย่ด้วยแท่งดินสอ
นางน้อย เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาสังเกตเห็นว่า หลานสาวมีอาการซึมเศร้าผิดปกติ โดยสังเกตเห็นมาหลายเดือนแล้วแต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่ถูกกระทำอนาจารและทำร้ายร่างกาย นึกว่าหลานสาวคิดถึงพ่อกับแม่ที่ต้องแยกกันอยู่ขาดความอบอุ่น จนเมื่อคุณครูสอนพิเศษได้มาบอกถึงเรื่องที่ถูกเพื่อนชายแกล้งจนซึมเศร้า โดยทางครูก็พยายามตักเตือนเด็กชายทั้ง 3 คน มี เพื่อร่วมห้องที่มีพฤติกรรมชอบกลั่นแกล้งหลานสาว
นางน้อย เล่าอีกว่า เริ่มผิดสังเกตว่ากางเกงชั้นในของหลานสาวมีรอยฉีกขาดและเป็นรู จนทราบว่าถูกเพื่อนร่วมห้องจับแขนจับขาและแหย่ด้วยแท่งดินสอเข้าไปที่อวัยวะเพศ และยังมีการกระทำแบบเหมือนท่าร่วมเพศ และเมื่อตรวจดูที่อวัยวะเพศก็พบว่ามีรอยช้ำบวม
จึงได้ตัดสินใจเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมาได้พาหลานไปพบแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี เพื่อตรวจร่างกายก็พบว่าอวัยวะเพศฉีกขาดอักเสบอย่างรุนแรงมีแผลที่เป็นแผลเป็นเกิดขึ้นนานแล้วและแผลใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นและติดเชื้อ เด็กมีอาการหวาดผวาจนต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 วัน
ต่อมา นางนางสมศรี สิงห์สุวรรณ หัวหน้ากลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ และศูนย์พึ่งได้ (OSCC) โรงพยาบาลอุดรธานี และนางไขศรี สิรินำบุญทวี นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ ได้ร่วมกันสอบปากคำพร้อมตรวจสอบผลการตรวจร่างกายของน้องพลอยโดยละเอียดและรับเรื่องไว้ดำเนินการสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม
ต่อมานางน้อย ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วรวิทย์ ซุยลา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับเด็กชายทั้ง 3 คน รวมถึง ครูประจำชั้น และ ผอ.โรงเรียนที่ปล่อยปละละเลยให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมานานถึง 4 เดือนแล้ว
หลังจากที่นางน้อย โวยวายและจะเอาผิดกับทุกคนที่ร่วมกระทำน้องพลอยและปกปิดเรื่องนี้ ก็ถูกฝ่ายครูในโรงเรียนพยายามจะเอาเงินค่าทำขวัญ 1-2 พันบาทให้เพื่อให้เรื่องยุติลง และนอกจากนี้นางน้อยยังระบุอีกว่า
หลังจากเรื่องแดงขึ้น ครูสอนพิเศษที่นำเรื่องมาแจ้งก็ถูกฝ่ายครูประจำชั้นของหลานสาวตำหนิด้วยถ้อยคำรุนแรง ว่าทำเกินหน้าที่ไปแจ้งผู้ปกครองโดยไม่ปรึกษาครูประจำชั้น จนครูสอนพิเศษเครียด ต้องเข้านอนพักรักษาอาการโรคประจำตัวกำเริบและความดันโลหิตสูง ที่โรงพยาบาลอุดรธานี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในวันจันทร์ที่ 12 ก.พ.นี้ ทางสำนักงานสังคมสงเคราะห์ฯ ได้นัดให้นางน้อย ผู้เป็นย่า พาเด็กหญิงไปพบเพื่อสอบสวนเรื่องเพิ่มเติมและจะได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และหาโรงเรียนใหม่ เนื่องจากเด็กมีอาการหวาดผวา ไม่กล้าไปโรงเรียนและเจอหน้าเพื่อนชายทั้ง 3 คน อีก