โพสต์โดย : Admin เมื่อ 17 ก.พ. 2561 10:47:44 น. เข้าชม 166476 ครั้ง
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 2/2561 โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และมี ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ เข้าร่วม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ห้องประชุมจันทรเกษม อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ มีสาระสำคัญสรุป ดังนี้
● หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้ง รอง ผอ.สพท.
ที่ประชุมเห็นชอบให้ประกาศใช้บังคับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา” สังกัด สพฐ. ตามแนวทางเดียวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง “ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา” ซึ่งจะมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน 1 ปี โดยมอบให้ สพฐ. สำรวจอัตราผู้ดำรงตำแหน่งรอง ผอ.สพท. (เงื่อนไข) ว่าผู้ใดมีความประสงค์ขอย้ายไปดำรงตำแหน่งรอง ผอ.สพท. (โครงสร้าง) ก่อน หลังจากนั้นจึงจะประกาศตำแหน่งว่างและเปิดให้มีการคัดเลือก
● แต่งตั้งอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายฯ
ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้ง นายสาโรช บุตรเนียร เป็นอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แทนนายเฉลียว อยู่สีมารักษ์
● การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ที่ประชุมเห็นชอบเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ดำเนินการตาม “กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2550” โดยใช้บัญชีเงินเดือนชั่วคราวของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แนบท้ายหลักเกณฑ์และวิธีการปรับเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เข้าสู่บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แนบท้ายพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2558 ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.7/ว 8 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 และกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวข้องไปพลางก่อน โดยคาดว่าการเลื่อนเงินเดือนแบบช่วงชั้นจะสามารถใช้ได้ในปีงบประมาณ พ.ศ.2562
● (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ สำหรับศูนย์ กศน.อำเภอ
ที่ประชุมเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ สำหรับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ สังกัดสำนักงาน กศน. โดยมีสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
- หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ ให้ใช้คัดเลือกเฉพาะตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่พิเศษ สำหรับศูนย์ กศน. อำเภอ สังกัดสำนักงาน กศน. เท่านั้น
- ให้ อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก
- ให้สำนักงาน กศน. ตั้งคณะกรรมการกำหนดองค์ประกอบในการพิจารณาสถานศึกษาที่จะกำหนดให้เป็นสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษ โดยให้คำนึงถึงพื้นที่ที่มีการจัดการเรียนรู้อยู่ในพื้นที่ที่เป็นเกาะหรือบนภูเขาสูง หรือหุบเขา หรือเชิงเขา ที่ไม่สามารถเดินทางด้วยพาหนะใดๆ ได้สะดวกตลอดปี หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ หรือเหตุอื่น โดยอาจนำประกาศของกระทรวงการคลัง หรือกระทรวงมหาดไทย หรือกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา โดยพิจารณากำหนดสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษ เป็นรายปี และให้ประกาศให้ทราบก่อนการดำเนินการคัดเลือกในแต่ละครั้ง ไม่น้อยกว่า 30 วัน
- ให้ประกาศตำแหน่งว่างปัจจุบันและสถานศึกษาที่จะบรรจุและแต่งตั้งให้ผู้สมัครทราบก่อนดำเนินการคัดเลือก
- ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาในวันสมัครและวันบรรจุและแต่งตั้ง และให้เลือกสมัครได้เพียงสถานศึกษาใดสถานศึกษาหนึ่งเท่นั้น ถ้าสมัครหลายแห่งจะถูกตัดสิทธิ์ทั้งหมด
- การประเมินมีทั้งหมด 4 ด้าน ๆ ละ 50 คะแนน รวม 200 คะแนน คือ 1) ประวัติและประสบการณ์ 2) ประเมินผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาและผลงานที่ภาคภูมิใจ 3) แนวคิดในการพัฒนาสถานศึกษาที่สมัครคัดเลือก และ 4) สัมภาษณ์
- ผู้ได้รับการคัดเลือก จะต้องได้คะแนนแต่ละด้านไม่ต่ำกว่าร้อยละหกสิบ โดยเรียงลำดับจากผู้ที่ได้คะแนนรวมจากมากไปหาน้อย
- ผู้ได้รับการคัดเลือก ต้องผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง และต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่น้อยกว่า 4 ปี จึงจะขอย้ายออกนอกสถานศึกษานั้นได้ - ไม่มีการขึ้นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก
● ข้อมูลบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ที่ยังไม่ครบอายุการขึ้นบัญชี
ที่ประชุมรับทราบรายงานข้อมูลบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ที่ยังไม่ครบอายุการขึ้นบัญชีของส่วนราชการต่าง ๆ ได้แก่
- สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีผู้ขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้และยังไม่ครบอายุการขึ้นบัญชี จำนวน 5,161 คน (ครบอายุบัญชีวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561) และจะเรียกบรรจุเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้อีก 737 คน ทำให้มีผู้ขึ้นบัญชีคงเหลือ 4,424 คน
- สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีผู้ขึ้นบัญชีสอบแข่งขันได้และยังไม่ครบอายุการขึ้นบัญชี จำนวน 13,848 คน (ครบอายุบัญชีวันที่ 27 เมษายน 2561) และเมื่อได้รับจัดสรรคืนอัตราจากคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) แล้ว จะต้องแบ่งสัดส่วนสำหรับการคัดเลือกกรณีพิเศษอีกจำนวน 25% จึงคาดว่าจะมีตำแหน่งว่างที่จะใช้บรรจุได้อีกประมาณ 9,000 อัตรา
- สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) ไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบให้มีการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับระยะเวลาการขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. และให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)สำรวจบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของแต่ละจังหวัดว่า มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในสาขาวิชาที่สถานศึกษาต้องการหรือไม่ หากมีก็สามารถเรียกบรรจุได้ แต่หากไม่มี ก็ให้มีการขอใช้บัญชีจาก กศจ.อื่น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนดก่อนที่จะครบอายุการขึ้นบัญชี
ขอบคุณข้อมูล กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงาน ก.ค.ศ.
นวรัตน์ รามสูต: เรียบเรียง
อิทธิพล รุ่งก่อน: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานรัฐมนตรี: รายงาน
16/2/2561
ที่มา : กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ