โพสต์โดย : Admin เมื่อ 1 ธ.ค. 2560 08:21:34 น. เข้าชม 166412 ครั้ง
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เรื่องการแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) พ.ศ. 2560 ลงนามโดยนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการศธ. เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนว่า เป็นการแบ่งกลุ่มงานภายในเขตพื้นที่ฯ ใหม่ เพื่อให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น โดยเพิ่มในส่วนของกลุ่มบริหารงานบุคล และกลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อให้การทำงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้การทำงานภายในเขตพื้นที่ฯ มีความชัดเจนและครอบคลุม
นายบุญรักษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และสพท.ซึ่งเป็นผลมาจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ในข้อที่ 13 ที่มอบอำนาจการบรรจุแต่งตั้งตามมาตรา 53 (3)และ(4) แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้กับศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.) จากเดิมที่เป็นอำนาจของผอ.สพท. นั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ เรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกับการแบ่งส่วนงานภายในของสพท.
รายงานข่าวแจ้งว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการเพิ่มกลุ่มงานดังกล่าว มีผลต่อระดับ(ซี) แต่น่าสังเกตว่าอำนาจหน้าที่ทั้ง 12 ด้านตามประกาศศธ.ดังกล่าว ไม่มีอำนาจในการบริหารงานบุคคล แม้กระทั่งกลุ่มบริหารงานบุคคล ก็เป็นแค่งานเสมียนให้กับศธจ. ดังนี้ วางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่ง, ส่งเสริม สนับสนุนการมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ, วิเคราะห์และจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการสรรหา บรรจุและแต่งตั้ง ย้าย โอน และการลาออกจากราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา, ศึกษา วิเคราะห์ และดำเนินการเกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติงานการเลื่อนเงินเดือน การมอบหมายหน้าที่ให้ปฏิบัติของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา, จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับบำเหน็จความชอบและทะเบียนประวัติ, จัดทำข้อมูลระบบจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำ, ปฏิบัติการบริการและอำนวยความสะดวกในเรื่องการออกหนังสือรับรองต่าง ๆ การออกบัตรประจำตัว และการขออนุญาตต่าง ๆ, ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อมูลเพื่อดำเนินงานวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์ และการดำเนินคดีของรัฐ และปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย