โพสต์โดย : Admin เมื่อ 26 พ.ย. 2560 01:54:39 น. เข้าชม 166566 ครั้ง
อดีตประธานอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 กล่าวต่อว่า ความไม่พึงพอใจต่อคำสั่ง คสช.ดังกล่าว ที่ทำให้ครูมีผู้บังคับบัญชาเพิ่มขึ้นทั้ง ศธจ. ศึกษาธิการภาค(ศธภ.) และคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.) และความขัดแย้งกัน ระหว่าง ผอ.สพป.และผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)กับ ศธจ.โดยเฉพาะประเด็นอำนาจสั่งบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครู ตอนนี้ขยายวงกว้างออกไปทั่วประเทศ มีการแสดงออกหลายช่องทางทั้งทางลับและทางแจ้ง
“กรณี ผอ.สพป.นครราชสีมาเขต7 เป็นเพียงหนังตัวอย่าง และเป็นลักษณะเฉพาะส่วนบุคคลของ ผอ.เขตพื้นที่ฯ ท่านนี้ ซึ่งจริงๆ ก็เคยเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้มาแล้วเป็นที่รับทราบกันดีในวงการประถมศึกษาจังหวัดนครราชสีมา เช่น การไม่ปฏิบัติตามมติ กศจ.กรณีการขึ้นเงินเดือนข้าราชการครูในเขตพื้นที่ฯ การทำภาพโปสเตอร์ต่อต้านไม่เอากศจ. เป็นต้น ความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอยู่ที่ดุลยพินิจของผู้รับข้อมูล ฝ่ายสนับสนุนก็เห็นด้วย ฝ่ายไม่สนับสนุนก็บอกว่าไม่เหมาะสม” นายอดิศร กล่าว
นายอดิศร กล่าวต่อว่า ส่วนตัวจึงคิดว่าจะดูเพียงปลายเหตุไม่ได้ รัฐบาลโดย คสช.จำเป็นที่จะต้องทบทวนคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 ก่อนที่ คสช.จะหมดอำนาจ เพราะไม่เช่นนั้นจะทำได้ยาก และจะก่อปัญหาใหม่ขึ้นมาอีกโดยการแก้ไขคำสั่ง คสช.ที่19/2560 ให้อยู่บนหลักการ ทำให้หน่วยงานเหนือโรงเรียนทั้งหลายมีจำนวนและมีอำนาจน้อยที่สุด ให้โรงเรียนหรือกลุ่มโรงเรียนที่เป็นนิติบุคคลโดยสมบูรณ์ โดยออกแบบให้มีการกำกับดูแลจากภาคประชาชน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น
“อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการจัดการศึกษาต้องอยู่ที่สนามรบคือโรงเรียน จึงจะแก้ปัญหา และตอบโจทย์ประเทศได้” นายอดิศรกล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 - 17:34 น.