โพสต์โดย : Admin เมื่อ 18 เม.ย. 2560 06:28:21 น. เข้าชม 166471 ครั้ง
สอคท.จัดตั้งสภาครูแห่งประเทศไทย คัดผู้แทนครูอำเภอละ 1 คน หวังเป็นกระบอกเสียงปฏิรูปการศึกษา "องค์กร" เชื่อคำสั่ง คสช.ฉบับ 17/2560 เอื้อเลขาฯ คุรุสภา เลขาฯ สกสค. จากอำนาจ "รมว.ศธ." อยู่ยาว เตรียมยื่นหนังสือถึง "รมว.ศธ." ชี้แจงรายละเอียด
ที่ศูนย์การประชุมรัชนีแจ่มจรัส สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย สภาเครือข่ายองค์กรครูแห่งประเทศไทย (สอคท.) จัดการประชุมเสวนาทางวิชาการ "เรื่อง สกสค. : สภาครูหรือสภานาย ใครได้ใครเสีย" โดยนายองค์กร อมรสิรินันท์ ประธาน สอคท. กล่าวว่า จากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 7/2559 เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา นับเป็นเวลา 2 ปีแล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 17/2560 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคําสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 7/2558 โดยมีเนื้อหาสาระในเรื่องการให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) สามารถดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งเลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาฯ สกสค.) ได้ โดยให้อยู่ในวาระถึง 4 ปี รวมถึงให้ยกเลิกข้อ 8 ของคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 7/2558 คือเมื่อ คสช.สิ้นสุดลงตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแล้ว ให้ดําเนินการแต่งตั้งกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา และเมื่อได้ดําเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ให้คําสั่งนี้เป็นอันยกเลิกนั้น แสดงถึงว่าเลขาฯ คุรุสภา เลขาฯ สกสค. และอื่นๆ ที่มาจากอำนาจของ รมว.ศธ.สามารถอยู่ยาวต่อไปได้โดยไม่ต้องดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่
นายองค์กรกล่าวว่า ทั้งนี้ ในคณะกรรมการคุรุสภาชุดปัจจุบันก็ไม่มีผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการอยู่เลย ถือว่ามีกรรมการไม่ครบทุกภาคส่วน อีกทั้งในส่วนของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) ก็ไม่เป็นไปตามกฎหมายสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2556 ซึ่งตนมองว่าเมื่อกรรมการไม่ชอบด้วยกฎหมาย สิ่งที่ดำเนินการก็ย่อมไม่ถูกต้องและไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน ดังนั้นจึงจะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีกับคณะกรรมการคุรุสภาและคณะอื่นๆ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการที่ก่อให้เกิดความเสียหายที่ผ่านมาด้วย อย่างไรก็ตาม ตนจะนำข้อสรุปจากการเสวนาครั้งนี้ทำเป็นหนังสือยื่นชี้แจงรายละเอียดถึง รมว.ศธ.ในวันที่ 18 เมษายนนี้ด้วย
"นอกจากนี้ สอคท.จะดำเนินการจัดตั้งสภาครูที่แท้จริง ภายใต้ชื่อสภาครูแห่งประเทศไทย โดยจะดำเนินการเปิดรับสมัครผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพครูอำเภอละ 1 คน จากนั้นก็จะมีคณะกรรมการบริหารตามลำดับ ซึ่งสภาแห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้แก่ครูและเด็กในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา โดยเน้นที่วิชาชีพครูและทำให้การปฏิรูปลงไปถึงห้องเรียนตัวเด็ก" ประธาน สอคท.กล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยโพสต์ วันที่ 18 เมษายน 2560
ขอบคุณ เว็บไซต์ครูบ้านนอกดอทคอม