โพสต์โดย : Admin เมื่อ 24 มี.ค. 2564 01:45:16 น. เข้าชม 166420 ครั้ง
กรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ตะกวดขับรถ” ได้โพสต์คลิปแท็กซี่ชนแล้วหนี อีกทั้งยังทำป้ายทะเบียนหน้า 1 มข 1865 กรุงเทพมหานคร หล่นไว้ในที่เกิดเหตุ โดยสังเกตได้ว่าแท็กซี่คันดังกล่าวมีการขับส่ายไปส่ายมา กระทั่งขับออกเลยขวาซึ่งเป็นเลนสวนทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุทำให้ น.ส.อรพิน เพิ่มชวลิต อายุ 43 ปี คุณครูโรงเรียนขุมทองวิทยา แผนกอนุบาล ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเสียชีวิต
ล่าสุดวันที่ 23 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ บริเวณถนนตรงข้ามกับซอยหทัยราษฎร์ 34 พบเป็นถนน 4 เลน ไม่มีเกาะกลางถนน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายเมธากร ศาลางาม อายุ 28 ปี พนักงานศูนย์วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือช่างก่อสร้าง ซึ่งตั้งอยู่ตรงที่เกิดเหตุ เล่าว่า วันดังกล่าวตนกำลังทำงานอยู่ในออฟฟิศ โดยตนได้ยินเสียงโครมดังมาจากถนน แล้วตามมาด้วยเสียง “โอ๊ย” อย่างเจ็บปวด ตนจึงวิ่งออกมาดูเหตุการณ์ พบว่าแท็กซี่สีเขียวเหลืองได้ชนรถจักรยานยนต์แล้วหลบหนีไป ตนได้วิ่งไปหาคนเจ็บยังคงหายใจแรงและถี่ แต่ไม่พบร่องรอยคราบเลือด ส่วนรถจักรยานยนต์ส่วนหน้าได้พังหลุดออกจากตัวรถ
โดยขณะนั้นพลเมืองดีที่จอดรถลงมาช่วยเหลือได้สอบถามชื่อของคนเจ็บ ซึ่งคนเจ็บยังมีสติพอที่จะตอบโต้ได้ ตนเห็นว่าแดดร้อน จึงได้วิ่งกลับมาที่ออฟฟิศเพื่อหาร่มนำมาบังแดดให้คนเจ็บ ไม่นานนักเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาดูเหตุการณ์ จากนั้น 15 นาที รถกู้ภัยก็ได้เดินทางมาถึง แล้วเคลื่อนย้ายคนเจ็บออกจากพื้นที่ ตนรู้สึกตกใจเมื่อทราบว่าคนเจ็บเสียชีวิต เนื่องจากตอนที่ตนวิ่งไปดูเหตุ ไม่พบเห็นเลือด จึงไม่คาดคิดว่าคนเจ็บจะอาการสาหัส คาดว่าคนขับแท็กซี่น่าจะหลับในหรือไม่ก็เมา อีกทั้งยังไม่มีน้ำใจลงมาดูแลคนเจ็บ
ทั้งนี้ถนนเส้นดังกล่าวมักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นถนน 4 เลน ไม่มีเกาะกลาง อีกทั้งยังขับขี่ด้วยความเร็ว ก่อให้เกิดอุบัติเหตุอยู่เป็นประจำ ตนจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการการจราจรบนถนนเส้นนี้ใหม่ อาจจะทำเกาะกลาง หรือติดสัญญาณไฟให้มากขึ้น เพื่อลดอุบัติเหตุ
ทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิดหน้ารถพลเมืองดี ที่ขับรถผ่านมาขณะเกิดเหตุ เผยให้เห็นว่าแท็กซี่คันก่อเหตุขัยรถส่ายไปมากินเลนทางขวา ก่อนที่จะส่ายกินเลนชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ทับจนรถจักรยานยนต์เละคาถนน
นอกจากนี้ พบว่าแท็กซี่คันดังกล่าวขับกินเลน จนทำให้ผู้ตายตกใจและพยายามจะหักรถหลบจนล้ม จากนั้นแท็กซี่คันดังกล่าวก็ได้ขับทับร่างและรถของผู้ตาย ก่อนจะขับรถแท็กซี่หนีไป ทีมข่าวยังได้คลิปมาจากพลเมืองดี ความยาว 31 วินาที เผยให้เห็นรถแท็กซี่คันดังกล่าวขับออกมาจากที่เกิดเหตุ โดยแผ่นป้ายทะเบียนหน้าหลุดออก
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางเกศนภา ขูรูรักษ์ อายุ 41 ปี น้องสาวสามีผู้ตาย บอกว่า ทางครอบครัวยังคงโศกเศร้ากับเหตุสูญเสียในครั้งนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลา 16.42 น. ของวันที่ 21 มี.ค.64 ที่ผ่านมา โดยผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์และสวมใส่หมวกกันน็อกอย่างถูกต้อง เพื่อจะขับไปยังโรงเรียนขุมทองวิทยา นำเอกสารวิชาการไปเก็บไว้ที่โรงเรียน แต่ขณะนั้นได้มีรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มข 1865 กรุงเทพมหานคร ที่ขับส่ายไปส่ายมา ขับกินเลนเข้ามาแล้วชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายอย่างจัง
ทั้งนี้ตนและพี่ชาย ซึ่งกำลังขับรถอยู่บนถนนเส้นดังกล่าวเพื่อเดินทางกลับบ้าน เริ่มผิดสังเกต เนื่องจากการจราจรเริ่มติดขัด และสังเกตเห็นรถพยาบาลขับสวนไป เมื่อพี่ชายตนขับรถผ่านที่เกิดเหตุและหันไปมอง พบว่ารถจักรยานยนต์และหมวกกันน็อกมีลักษณะเหมือนของผู้ตาย พี่ชายของตนจึงจอดรถที่ฝั่งตรงข้ามแล้ววิ่งไปดูที่เกิดเหตุ
หลังจากนั้นพี่ชายของตนถึงกับทรุด เมื่อตรวจสอบแล้วว่าผู้ตายน่าจะประสบอุบัติเหตุ อีกทั้งสภาพรถจักรยานยนต์ยังพังยับเยิน เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกว่า ผู้ตายประสบอุบัติเหตุ แขนซ้ายหัก ขาหักผิดรูปเกือบขาดทั้งสองข้าง ชีพจรอ่อน เบื้องต้นขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พยายามปั๊มห้วใจยื้อชีวิต ตนและพี่ชายได้รีบเดินทางไปยังโรงพยาบาล ทีมแพทย์บอกว่าปั๊มหัวใจไม่ได้แล้ว เนื่องจากยื้อชีวิตมานานกว่า 30 นาที จนร่างกายบอบช้ำไปทั้งตัว
จากนั้นทางครอบครัวได้ให้เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายร่างของผู้ตายมาชันสูตรที่นิติเวช รพ.ตำรวจ พบว่าผู้ตายคอหัก เชิงกรานแตก เลือดตกใน เสียเลือดมาก เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต ตนได้สอบถามจากชาวบ้าน โดยชาวบ้านคาดว่าคนขับรถแท็กซี่คันก่อเหตุน่าจะมีอาการมึนเมา เนื่องจากขับรถส่ายไปมา
ขณะนี้ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะพี่ชายของตน (สามีผู้ตาย) และพ่อแม่ของผู้ตาย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เก็บป้ายทะเบียนหน้ารถของรถแท็กซี่คันก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าหลุดออกจากการเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยต์ของผู้ตายไว้ ทำให้ครอบครัวและเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่ารถทะเบียนใดคือผู้ก่อเหตุ ทางครอบครัวได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยจะทำการตรวจสอบและเรียกตัวคนขับรถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน 1 มข 1865 มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวผู้ตายรับไม่ได้กับการกระทำของคนขับรถแท็กซี่ เนื่องจากขับกินเลนทำให้เกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังหลบหนี ไม่แสดงตัวออกมารับผิดชอบการกระทำ ตนอยากให้ผู้ก่อเหตุแสดงตัวออกมาเพื่อรับผิดชอบ และขอขมาศพ “ความเป็นคนไม่มีเลย ขอให้คุณแสดงความเป็นคนที่มีมนุษยธรรม”
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางมายัง สน.นิมิตรใหม่ ในเวลาประมาณ 14.30 น. คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว พร้อมเจ้าของรถได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจ โดยเบื้องต้นคนขับรถแท็กซี่อ้างว่าหลับในและตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งในวันนี้ (23 มีนาคม) เพิ่งจะตั้งสติได้แล้วแจ้งให้กับเจ้าของรถทราบ จึงได้พากันเดินทางมายังสถานีตำรวจ
ทั้งนี้ ผู้ขับรถแท็กซี่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับทีมข่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย