โพสต์โดย : Admin เมื่อ 10 ก.ค. 2563 06:39:19 น. เข้าชม 166422 ครั้ง
จี้สพฐ.ตักเตือนครูโรงเรียนดังในจังหวัดพิจิตรที่ทวีตไล่นักเรียน รับเรื่องทรงผมไม่ได้ให้ไปฆ่าตัวตาย ชี้เป็นการใช้อารมณ์ส่วนบุคคล ซึ่งต้นสังกัดต้องตักเตือน
กรณี นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด เรื่องซักซ้อมความเข้าใจแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม และส่งไปยังหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด ศธ.เพื่อให้ปฏิบัติ และแจ้งไปยังสถานศึกษาให้ยกเลิกการบังคับใช้ระเบียบสถานศึกษาเดิม เกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2518
โดยให้ยึดหลักความเหมาะสม การมีส่วนร่วมของนักเรียน สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น พร้อมต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา หรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียน ก่อนประกาศใช้ ภายหลังเกิดเหตุการณ์ครูลงโทษตัดผมนักเรียนที่ไว้ผมยาวนั้น
ต่อมาทวิตเตอร์ชื่อ นักเรียนเลว @badstudent_ รีทวีตข้อความของครูคนหนึ่ง ในโรงเรียนใน จ.พิจิตร ว่า “ใครรับไม่ได้ ก็ฆ่าตัวตายไป” พร้อมโพสต์ข้อความว่า “ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งตอบกลับประเด็นการเรียกร้องเรื่องทรงผม” #โรงเรียนคุณน่ะทำ #นักเรียนเลว ปรากฎว่ามีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น อาทิ ครูในอุดมคติ : ให้เหตุผลที่ทำให้นักเรียนเข้าใจถึงสิ่งที่ทำ ครูในโลกความเป็นจริง : ไล่ไปตาย, ครูไล่นักเรียนไปตายได้ด้วยเหรอครับ, นี่ครู? หรือขยะสังคมหรอออออ?, งั้นถ้าครูรับไม่ได้ที่เด็กอยากไว้ผมยาว ครูก็ไปตายเองสิคะ เป็นต้น
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดศธ. กล่าวว่า กรณีนี้ทางต้นสังกัดอย่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องเรียกครูคนดังกล่าวมาตักเตือน เพราะตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียน พ.ศ.2548 มี 4 มาตรการ คือ ตัดเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ และจัดกิจกรรมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
แต่สิ่งที่ครูโพสต์โต้ตอบกับนักเรียน ถือว่าไม่เป็นไปตามระเบียบการลงโทษนักเรียน เข้าใจว่าเป็นการใช้อารมณ์ส่วนบุคคล ซึ่งต้นสังกัดคงต้องตักเตือน ดูความเหมาะสม
“ปัญหาที่เกิดขึ้นเรื่องการใช้ระเบียบทรงผม ส่วนตัวคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เพียงแต่ไม่มีการทำความเข้าใจกัน อีกทั้ง ระเบียบทรงผมใหม่เพิ่งประกาศใช้ ซึ่งผมเองในฐานะปลัด ศธ.ก็ส่งหนังสือทำความเข้าใจกับหน่วยงานใน ศธ.ที่มีสถานศึกษาในกำกับ ทั้ง สพฐ., สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.),
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ให้แจ้งไปยังสถานศึกษาในกำกับ ให้จัดทำระเบียบทรงผมใหม่ โดยรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน ผู้ปกครอง ครู เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน เชื่อว่าหากทำเช่นนี้ ก็จะไม่มีปัญหา” นายประเสริฐ กล่าว
ด้าน นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า หากครูโพสต์ข้อความดังกล่าวจริง ถือว่าไม่เหมาะสม โรงเรียนต้นสังกัดต้องเรียกมาตักเตือน โดยสพฐ.เองย้ำมาตลอดเรื่องระเบียบทรงผม ให้เปิดกว้าง โดยรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ออกเป็นมติร่วมกัน
“ทั้งนี้ ผมขอกำชับครูทุกคน ให้ระมัดระวังในการใช้โซเชียลอย่างมีสติ เพราะคนเป็นครู ถูกกำกับด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพ จะทำหรือจะโพสต์ข้อความอะไรต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะหากเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมแล้วจะเกิดผลกระทบในวงกว้าง” นายอำนาจ กล่าว