โพสต์โดย : Admin เมื่อ 21 ก.ค. 2563 05:44:04 น. เข้าชม 166732 ครั้ง
ผวาด.ช.14 พกมีดไถเงิน จับอกนศ.ฝึกงาน ผู้ปกครอง หนังสือรร.แชร์ว่อนให้ระวัง ครูกุมขมับ
วันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลได้มีการโพสต์และแชร์ อีกทั้งแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ในลักษณะของการต่อว่าและเตือนให้ระวังบุคคลอันตราย ที่อาจจะก่อเหตุกับเด็กและสตรี และบุคคลทั่วไป เนื่องจากบุคคลดังกล่าว มีการพกพาอาวุธมีด ในพื้นที่เขตตำบลวังชมภู อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งหนังสือดังกล่าวมีข้อความระบุว่า
"เรื่องรายงานและเฝ้าระวังผู้ที่มีพฤติกรรมอันตราย" เนื่องด้วย (นายเอ นามสมมุติ) เป็นบุคคลอันตรายเสี่ยงต่อความปลอดภัยของนักเรียนคณะครูและบุคคลทั่วไปซึ่งในวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 บุคคลดังกล่าวได้เข้ามาทำพฤติกรรมที่เป็นอันตรายเสี่ยงต่อความปลอดภัยของนักเรียนและคณะครู คือได้พกพาอาวุธของมีคม ข่มขู่นักเรียน
ส่งผลให้เกิดความตกใจและหนึ่งในคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน ดังกล่าว ได้มีการประชุม และมีมติให้โรงเรียนจัดทำหนังสือแจ้งหน่วยงานและผู้มีอำนาจทางการปกครอง ในเขตตำบลวังชมภู เพื่อขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัยของเด็กชายคนดังกล่าว"
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบครูประจำชั้นที่เคยสอน(เด็กชายเอ) และได้เปิดเผย ถึงพฤติกรรมเด็กคนดังกล่าวว่า เรื่องการเรียนการอ่าน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี จนกระทั่งเด็กชายคนดังกล่าวตอนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ช่วงปลายเทอม ได้เกิดอุบัติเหตุและพักรักษาตัว จากนั้นได้กลับมาเรียนพฤติกรรมก็เริ่มเปลี่ยนไป เรื่องเรียนไม่ค่อยสนใจ เวลาเรียนไม่ค่อยอยู่ห้องจะออกไปก่อกวนเพื่อนตามห้องต่างๆ
และพฤติกรรมที่หนักไปกว่านั้น ช่วงเด็กชายคนดังกล่าวอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้รุนแรงขึ้น โดยมีพฤติกรรม ไปจับก้นและจับหน้าอกผู้ปกครอง ที่เข้าไปส่งบุตรหลานในโรงเรียน อีกทั้งยังมีพฤติกรรมในการพูดส่อเสียดไปทางเรื่องเพศ โดยเฉพาะกับผู้หญิง และเมื่อเด็กชายคนดังกล่าวยิ่งโตขึ้น พฤติกรรมยิ่งรุนแรงยิ่งขึ้น ครั้งสุดท้าย คือจับหน้าอกผู้ปกครองและนักศึกษาฝึกสอน และอีกพฤติกรรมก็คือ การแสดงออกเหมือนไม่มีใครรัก พร้อมทั้งตะโกนเสียงดัง จะกระโดดให้รถชน ซึ่งทำให้ครูที่ได้ยินตกใจ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ผ่านไป และคิดว่าคงเป็นเพียงคำขู่ของเด็กเท่านั้น
บางครั้งจะเที่ยวเดินไปขอเงินกับครูถ้าหากไม่ได้ก็จะมีการบ่นรำพึงรำพันว่าไม่มีใครรัก ซึ่งปัจจุบัน เด็กคนดังกล่าว ได้ย้ายออกจากโรงเรียนไปตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หรือประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันเด็กคนดังกล่าวอายุประมาณ 14 ปี
ส่วนพฤติกรรมที่ส่อไปในความรุนแรงอีกอย่างก็คือ ปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าได้ย้ายออกไปอยู่ที่ไหน ซึ่งเด็กชายคนดังกล่าวก็ยังแวะเวียนเข้ามาที่โรงเรียนอยู่บ่อยครั้งจนต้องกล่าวตักเตือน ซึ่งเด็กๆในโรงเรียนก็จะจับนำตัวออกจากโรงเรียนไป ซึ่งครั้งสุดท้าย ได้ยินว่าที่เด็กคนดังกล่าวเข้ามาในโรงเรียนและมีมีดมาด้วย ซึ่งคนอยู่ในโรงเรียนจึงได้ลงไลน์กลุ่ม และเตือนกันอยู่ภายในโรงเรียนเท่านั้น
ทางโรงเรียนและกรรมการโรงเรียน ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการประชุมและมีมติออกหนังสือเตือนออกไปเนื่องจากเกิดความเป็นห่วงด้านความปลอดภัยของบุตรหลานโดยเฉพาะผู้หญิงซึ่งเกรงว่าเด็กคนดังกล่าวจะไปก่อเหตุขึ้นมากอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากมีการโพสต์หนังสือฉบับดังกล่าวลงไปในโลกโซเชียลปรากฎว่ามีการแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ซึ่งส่วนมากได้กล่าวถึงพฤติกรรมของเด็กคนดังกล่าวเช่นชอบขโมยเงินและสิ่งของ ชอบไปขอเงินกับทุกคนที่พบเห็น หากไม่ให้ก็จะแสดงอาการไม่พอใจ รวมทั้งมีพฤติกรรมในการคุกคามทางเพศไม่ว่าการส่งสายตา การใช้คำพูด รวมทั้งลักษณะท่าทางต่าง ๆ จึงอย่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลหรือนำไปอบรมสั่งสอนก่อนที่เด็กคนดังกล่าวจะมีพฤติกรรมที่รุนแรงไปมากกว่านี้