โพสต์โดย : Admin เมื่อ 5 มี.ค. 2562 06:38:51 น. เข้าชม 166503 ครั้ง
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินการจัดการศึกษาเอกชน ซึ่งมีผู้แทนโรงเรียนเอกชน ผู้แทนคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วมเมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการสอบบรรจุครูผู้ช่วย การบรรจุทดแทนอัตราเกษียณอายุราชการ และการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนของรัฐ ที่ส่งกระทบต่อโรงเรียนเอกชน
โดยปัจจุบัน สพฐ.เปิดให้ครูขอย้าย 2 กรณี คือ กรณีปกติ ซึ่งปี 2562 พิจารณาเป็น 2 รอบ รอบแรกวันที่ 15 ก.พ. – 15 มี.ค. และรอบสองวันที่ 15 ก.ย. – 15 ต.ค. และการขอย้ายกรณีพิเศษ ที่สามารถดำเนินการได้ตลอดทั้งปี ซึ่งทำให้กระทบกับโรงเรียนเอกชน เพราะครูโรงเรียนเอกชนบางคนสอบผ่านและได้ขึ้นบัญชีไว้
เมื่อมีการเรียกบรรจุต้องลาออกจากโรงเรียนเอกชน ทำให้โรงเรียนเอกชนได้รับผลกระทบไม่มีครูสอนนักเรียน ซึ่งทางโรงเรียนเอกชน
ขอให้ สพฐ. เรียกบรรจุข้าราชการครูทุกกรณี ปีละ 2 ครั้ง โดยให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 – 30 เม.ย. และวันที่ 10 – 31 ต.ค.ของทุกปี ไม่ใช่เรียกกันตลอดทั้งปี
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้โรงเรียนเอกชนยังขอให้ สพฐ.พิจารณาจัดทำปฏิทินการบรรจุข้าราชการครูให้สอดคล้องกับการเรียกบรรจุข้าราชการครูทุกกรณีปีละ 2 ครั้ง ตามระยะเวลาดังกล่าว และให้ กศจ.พิจารณาให้ความเห็นชอบการเรียกบรรจุครูให้เป็นไปตามปฏิทินที่ สพฐ.กำหนดด้วย
“ที่ผ่านมาเมื่อ สพฐ.มีการสอบบรรจุครู จะทำให้ครูโรงเรียนเอกชนส่วนหนึ่งไปสอบ เมื่อสอบผ่านขึ้นบัญชีไว้ และเมื่อสพฐ.เรียกบรรจุ ครูเอกชนเหล่านี้จะลาออกจากโรงเรียน แม้จะเป็นช่วงกลางเทอมก็ตาม ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือนักเรียน และปัญหานี้สะสมมานานกว่า 30 ปีแล้ว
ดังนั้นผมจึงมอบให้ นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ไปหารือกับผู้บริหาร สพฐ.เพื่อกำหนดปฏิทินการสอบบรรจุครูผู้ช่วย การบรรจุทดแทนอัตราเกษียณอายุราชการ และการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้กระทบกับโรงเรียนเอกชนน้อยที่สุด” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว