เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ร.ร.บ้านโพธิ์ลังกา ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ พร้อม ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์ นามศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 และคณะ เดินทางตรวจสภาพของอาคารเรียนและอาคารประกอบของ ร.ร.แห่งนี้ ที่ถูกลมพายุพัดถล่มพังเสียหายยับเยิน โดยหลังคาอาคารเรียนแบบ ศก 02 โดนลมพายุพัดหอบเอาหลังคาไปตกอยู่กลางสนามหน้า ร.ร. ทำให้อุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนโดนน้ำฝนเปียกเสียหายจำนวนมาก ส่วนอาคารอเนกประสงค์แบบ ศก 23 หลังคาโดนลมพัดปลิวหายไป ซึ่งนายบุญประสงค์ นำจิตอาสาและเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับชาวบ้านพากันมาเก็บเศษวัสดุและหลังคาสังกะสีมากองรวมกันไว้ เพื่อซ่อมแซมอาคารเรียนอาคารประกอบรวมทั้งบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายให้สามารถใช้การได้
นายประสงค์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) ระหว่างเวลาประมาณ 14.00–17.00 น. เกิดลมพายุพัดถล่มอย่างรุนแรงในเขต 4 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษ คือ อ.ราษีไศล อ.ศิลาลาด อ.โนนคูณ และอ.กันทรารมย์ มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 78 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหาย 50 หลัง และที่เสียหายมากที่สุดจะอยู่ที่ ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร.ร.บ้านโพธิ์ลังกา อาคารเรียนและสื่อการเรียนการสอน ได้รับความเสียหายประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งนายธวัช สุระบาล ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายธงชัย เจริญพานิชกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ นำเอาถุงยังชีพและสิ่งของต่าง ๆ จากสำนักงานเหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ มามอบให้ผู้ประสบภัยในเขต ต.ยาง 58 ชุด ส่วนอาคารเรียนและบ้านเรือนของชาวบ้าน จะประสานงาน อบต.ยาง กลุ่มจิตอาสา และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเร่งดำเนินการซ่อมแซมให้บ้านเรือนสามารถเข้าไปพักอยู่อาศัยได้เช่นเดิมโดยด่วนต่อไป
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า การที่อาคารเรียนของ ร.ร.แห่งนี้โดนลมพายุพัดพังเสียหายอย่างมากนี้ ตนได้รายงานให้เลขาธิการ กพฐ.ทราบแล้วว่า ในส่วนของ ร.ร.ที่กำลังจะเปิดเทอมในวันที่ 16 พ.ค. 61 ในช่วงแรกจะปรับปรุงพื้นที่ที่มีอยู่ด้านหลังอาคารเรียนที่เสียหายเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดยได้รับความร่วมมือจากทาง อบต.ยาง เจ้าหน้าที่ทหาร นายอำเภอกันทรารมย์ ผู้นำท้องถิ่น และกรรมการสถานศึกษา มาช่วยกันซ่อมแซมอาคารเรียน รวมทั้งจะได้ทำการเสนอของบประมาณจำนวนประมาณ 3 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมอาคารเรียนและอาคารประกอบให้สามารถใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้โดยด่วนต่อไป