โพสต์โดย : Admin เมื่อ 20 พ.ค. 2563 12:37:34 น. เข้าชม 166412 ครั้ง
จากกรณี “ครู ซ” ครู ค.ศ.3 สอนวิทยาศาสตร์โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง จ.นครพนม แชทไลน์หาลูกศิษย์หญิงเชิงชู้สาวกว่า 7 คน ต่อเนื่องมาแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน ทั้งข่มขู่เพื่อนครู อ้างคนสนิทอดีตนายตำรวจใหญ่ อดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง ฮึกเหิมไม่มีใครทำอะไร ย่ามใจอนาจารศิษย์ที่สอน ส่งเว็บไซต์สวิงกิ้งให้ดู ข่มขู่เด็กสาวไม่กล้าไปเรียน บ่นกับเพื่อนว่าอยากฆ่าตัวตาย ผู้ปกครองเค้นทนพฤติกรรมฉาวโฉ่ นำหลักฐานร้องเรียนสื่อ และตร.เตรียมประสานข้อหลักฐาน เพื่อนำเข้าสู่การแจ้งความ ส่วนรถหรู บีเอ็มดับบลิวศิษย์เก่าผู้ปกครองฯ ตั้งข้อสงสัยทุจริตด้วยหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : แม่ช็อก เปิดแชทครูหื่นลูกสาว - เผยภาพหลุดบนเตียง สลดเหยื่ออยากฆ่าตัวตาย!
นางน้อย กล่าวว่า บุตรสาวเล่าให้ฟังว่ามีครูผู้ชายคนหนึ่ง อายุ 34 ปี เป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ม.4-ม.5 โรงเรียนชื่อดังในจังหวัด ส่งแชทไลน์มาหา น.ส.นิด ลูกสาวในยามวิกาลบ่อยครั้ง ซึ่งไม่ใช่ในเวลาเรียน และมีข้อความเชิงชู้สาว ครั้งแรกพบเห็น น.ส.นิด ลูกสาวมีอาการเซื่องซึมผิดปกติ บอกกับตนว่าไม่อยากไปโรงเรียนอีกแล้ว หลังคาดคั้นหนัก น.ส.นิด บุตรสาว จึงยอมเปิดปากเล่าความจริงให้ฟัง พร้อมเปิดแชทไลน์ให้ตนดูถึงกับตกใจ
มารดา น.ส.นิด กล่าวต่อว่า คาดไม่ถึงว่าครูคนนี้จะกล้าทำกับลูกศิษย์ของตนเอง นอกจากนี้ น.ส.นิด ลูกสาว ยังเล่าต่อด้วยว่า ไม่ใช่แค่ตนเท่านั้นที่ถูกครูผู้ชายหื่นรายนี้ ยังมีเพื่อนหญิงที่ตนสนิทอยู่ชั้นและห้องเดียวกันยังถูกครูคนนี้ ส่งข้อความในลักษณะเดียวกันอีกหลายคน ตนจึงเริ่มไม่มั่นใจในความปลอดภัยของลูกสาว จึงไปขอคำปรึกษาจากครูในโรงเรียนเดียวกัน แต่ได้รับคำตอบว่าไม่อยากยุ่งกับครูคนนี้
ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า ครูหื่นมักก้าวร้าวเข้ากับครูคนอื่นไม่ได้ แถมอ้างเป็นลูกน้องของอดีตนายตำรวจใหญ่ อดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง จึงมาขอความช่วยเหลือจากสื่อ ช่วยตีแผ่พฤติกรรมไปถึงนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับครูหื่นรายนี้
นางน้อย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนอ่านแชทไลน์ที่ น.ส.นิด บุตรสาว นำมาให้ดูแล้วพบว่าบางถ้อยคำไม่ควรจะออกมาจากปากของคนที่เป็นครู ซึ่งครูรายนี้จะมีแก๊งเด็กนักเรียนหญิงอยู่กลุ่มหนึ่ง จะคอยสอดส่องดูนักเรียนหญิงที่ครูรายนี้หมายปองไว้ ซึ่งส่วนใหญ่หุ่นดี มีหน้าตาสะสวย จะส่งคนติดตามว่าขณะนี้อยู่ที่ไหน แล้วรายงานความเคลื่อนไหวให้ครูหื่นทราบ
ที่ผ่านมามีนักเรียนหญิงในโรงเรียนชื่อดังแห่งนี้ ตกเป็นเหยื่อกามมาแล้วรายหลาย บางคนเรียนจบออกไปแล้ว หลายคนยังเรียนอยู่ในปัจจุบันก็มี มีเพื่อนของลูกสาวตนอยู่ห้องและชั้นเดียวกันมาหาแล้วร้องไห้ บ่นว่าอยากฆ่าตัวตาย เพราะไม่อยากไปโรงเรียนอีกแล้ว หากไปแล้วจะถูกครูคนนี้ลวนลามเป็นประจำ” นางน้อย ระบุ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สืบหาข้อเท็จจริง พบว่าครูรายนี้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ เป็นลูกชายทหารชั้นประทวนในค่ายแห่งหนึ่ง ชื่อย่อว่า “ครู ซ” แต่งงานและมีครอบครัวแล้วกับครูสาวชาว จ.มหาสารคาม มีบุตร 1 คน แต่เลิกรากันชั่วคราว บุตรสาวอยู่กับผู้เป็นแม่ ครูหื่นคนนี้พบว่ามาบรรจุอยู่โรงเรียนชื่อดังแห่งนี้นาน 10 ปี ตลอดเวลาพูดจาวางมาดเป็นขาใหญ่ในโรงเรียน และเคยเป็นถึงผู้ช่วยผู้อำนวยการมาก่อน จนครูด้วยกันเอือมระอาพฤติกรรมหื่นเชิงชู้สาวกับลูกศิษย์ ขับรถหรู BMW มาสอน ปี พ.ศ.2558 ครูรายนี้ เคยถูกร้องเรียนด้วยวาจาจากกลุ่มครู ว่ามีภาพไม่เหมาะสมระหว่างเดินทางนำลูกศิษย์หญิงไปเข้าค่ายในโรงแรมดัง ต่างจังหวัดและประเทศเบลเยี่ยม ขณะนำนักเรียนหญิงไปนำเสนอผลงาน
ล่าสุดมีนักเรียนคนหนึ่งแอบถ่ายภาพครูคนนี้เข้าไปในห้องพักของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นภาพครูหื่นขึ้นไปนอนบนเตียงกับลูกศิษย์ แล้วไล่เพื่อนหญิงที่ต้องนอนห้องเดียวกันออกไปนอนห้องอื่น
กระทั่งรุ่งเช้า “ครู ซ” ออกจากห้องดังกล่าว ผู้บริหารโรงเรียนคนเดิม (ในขณะนั้น) เรียกไป แต่ได้แค่ว่ากล่าวตักเตือน แทนที่จะเลิกพฤติกรรมกลับเหิมเกริมกระทำกับนักเรียนหญิงรุ่นต่อรุ่นสืบทอดพฤติกรรมฉาวโลกีย์อีก
นักเรียนชั้น ม.ปลายครึ่งโรงเรียนพบเห็น “ครู ซ” ส่งเว็บไซต์ลามกสวิงกิ้งไปให้เพื่อนนักเรียนหญิงหลายคนเปิดดู ครูคนนี้ก็มักจะกระทำกับลูกศิษย์ ที่มาเรียนในวิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นห้องนักเรียนกิจกรรมที่ตนเองดูแลประจำ ทำให้นักเรียนหญิงหวาดผวากันถ้วนหน้า
มีอยู่วันหนึ่งนักเรียนชายคนหนึ่ง ทนเห็นพฤติกรรมของครูหื่นไม่ไหว นำข้อความของครูหื่นลงสื่อออนไลน์เฟซบุ๊ก ทำนองว่ามีครูหื่นอยู่ในโรงเรียน ปรากฏว่าครูรายนี้ กลับแจ้งตำรวจมาจับเด็กชายคนนั้นถึงในโรงเรียน แล้วบังคับให้ลงข้อความขอโทษพร้อมลบเฟซดังกล่าวด้วย การกระทำของครูหื่น จึงกลายเป็นที่เอือมระอาของครูด้วยกัน” ครูคนหนึ่ง ระบุ
ล่าสุดมีหนังสือร้องเรียนของผู้ปกครอง ส่งถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 (นครพนม-มุกดาหาร) เพื่อให้สอบสวนหาข้อเท็จจริง ปรากฏว่าผู้บริหารโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัดในขณะนั้น พยายามดึงเรื่องไว้ไม่กล้าลงโทษทางวินัย หวั่นเกรงโรงเรียนจะเสื่อมเสียชื่อเสียง และไม่ยอมแก้ไขปัญหาที่นักเรียนหญิงถูกกระทำในขณะนี้ กระทั่งมีผู้ปกครองคนนี้นำข้อมูลมาให้สื่อ เพื่อเปิดเผยพฤติกรรมฉาว หวั่นนักเรียนหญิงอีกหลายคนจะตกเป็นเหยื่อในที่สุด