โพสต์โดย : Admin เมื่อ 7 ก.พ. 2560 11:43:13 น. เข้าชม 166427 ครั้ง
"ปลัด ศธ." เผยครูชื่นชม กศจ.ช่วยงานบริหารบุคคลได้ดี โดยเฉพาะการโยกย้ายเกลี่ยครู แต่เรื่องบูรณาการงานยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร ชี้ควรเพิ่ม อกศจ.อีก 2 คณะ และแบ่งอำนาจ บทบาทให้ชัดเจน เชื่อหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญต้องปรับโครงสร้าง ศธ. เน้นกระจายอำนาจไปสู่ฐานจังหวัด
โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดการประชุมสัมมนาการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการของ ศธ. โดยนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ. กล่าวถึงแนวทางดำเนินการของศึกษาธิการภาค (ศธภ.)/ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ว่า จากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้มีการตั้งคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เพื่อแก้ไขปัญหาการศึกษา 4 เรื่อง คือ 1.ขาดการบูรณาการงานการศึกษาในพื้นที่ 2.แก้ไขปัญหาช่วงสายการบังคับบัญชาที่กว้าง 3.สร้างเอกภาพในการบริหารจัดการ และ 4.ทำให้มีความคล่องตัวบริหารงานบุคคล ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการมาแล้วกว่า 10 เดือน พบว่าบางเรื่องทำได้ดี โดยเฉพาะการบริหารงานบุคคลที่ช่วยให้ครูสามารถย้ายไปโรงเรียนใดก็ได้ในจังหวัดเดียวกัน และย้ายข้ามเขตพื้นที่การศึกษาได้ ทำงานอย่างมีธรรมาภิบาล จนได้รับเสียงชื่นชมจากครูจำนวนมาก แต่ก็ยังคงมีบางเรื่องที่ต้องทำให้เกิดขึ้นคือ การบริหารโดยใช้จังหวัดเป็นฐาน ที่จะต้องบูรณาการงานของทุกองค์กรหลักใน ศธ. ซึ่งยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทุกคนยังติดภาพของการทำงานที่ขึ้นกับสังกัด การจัดสรรงาน งบประมาณ และคนที่จะไปช่วยยังไม่เป็นรูปธรรมมากนัก
นายชัยพฤกษ์ กล่าวต่อว่า ศธ.ได้มีการหารือถึงเรื่องการตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (อกศจ.) ว่าควรที่จะมีเพิ่มอีก 2 คณะคือ อกศจ.พัฒนาการศึกษาในทุกมิติ และ อกศจ.บริหารราชการ ที่ทำหน้าที่กำกับ ติดตาม และควรที่จะวางอำนาจหน้าที่ของส่วนกลาง ภาค จังหวัด และส่วนราชการของส่วนกลางที่ไปอยู่จังหวัดต่างๆ ให้ชัดเจนและมีความสอดรับกัน รวมถึงต้องแบ่งงานกันให้ชัดว่า งานไหนใครทำ และต้องจัดสรรงบประมาณลงไปด้วย เพื่อให้งานสามารถขับเคลื่อนได้ทันที นอกจากนี้ การมอบอำนาจในการกำกับและการบังคับบัญชาก็ต้องชัดเจนให้มากขึ้น ซึ่ง ศธภ.ต้องเป็นคนดูแล และหน้าที่ของ ศธจ.คือเป็นตัวหลักในการเชื่อมโยงทุกส่วนราชการของ ศธ.ในพื้นที่ให้มีอำนาจบังคับบัญชาบางส่วน แต่ไม่ใช่เข้าไปควบคุม ซึ่งในเดือนมีนาคมนี้จะมีการตั้งศูนย์ขับเคลื่อนการบริหารการศึกษาในภูมิภาคขึ้นที่ ศธ. เพื่อสนับสนุนติดตามการทำงานของ ศธภ.และ ศธจ.
"หลังรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้จะต้องมีการปรับโครงสร้าง ศธ.แน่นอน โดยการกระจายอำนาจและใช้จังหวัดเป็นฐาน ดังนั้นจึงต้องมีการบูรณาการงานของทุกแท่ง ขณะนี้รัฐบาลได้ปรับเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ดูทั้งเรื่องการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และความสามัคคีปรองดอง ซึ่ง ศธ.จะถือโอกาสนี้มาปรับทั้งในเชิงเนื้องาน ที่จะทำและวิธีการทำงานให้ครอบคลุมทั้งเรื่องการศึกษาขั้นพื้นฐาน การอาชีวศึกษา การศึกษาเอกชน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการอุดมศึกษา และกระจายอำนาจ เพื่อให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น" ปลัด ศธ.กล่าว.
ขอบคุณที่มาจาก ไทยโพสต์ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560