โพสต์โดย : Admin เมื่อ 9 ม.ค. 2560 04:06:32 น. เข้าชม 166405 ครั้ง
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ก้าวตามพ่อ ให้ครูรักเด็ก ให้เด็กรักครู เป็นประตูสู่การสร้างพลเมืองดี มีศีลธรรม ตามคำพ่อสอน” ระหว่างเปิดการประชุมปฏิบัติการการศึกษาเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ ระดับชาติด้วยคำพ่อสอน ครั้งที่ 1 เมื่อเร็วๆนี้ว่า การพัฒนาการศึกษาต้องดำเนินตามปณิธานของพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพระองค์ได้เน้นย้ำสองเรื่องคือ คุณภาพ และคุณธรรม โดยครูต้องสอนเด็กให้มีน้ำใจ ไม่ใช่สอนให้คิดแต่จะแข่งขันกับเพื่อน แต่ต้องแข่งขันกับตนเอง ซึ่งทุกภาคส่วนต่างเห็นชอบและสนับสนุน สอดคล้องกับงานวิจัยด้านการศึกษาที่ส่งเสริมให้เด็กแข่งขันกับตนเอง จะพัฒนาศักยภาพการเรียนได้มากกว่า นอกจากนี้ครูต้องมุ่งปลูกฝังความดีให้กับนักเรียนตั้งแต่ชั้นต้น อบรมบ่มนิสัยให้เป็นพลเมืองดี รู้จักการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ ช่วยเหลือดูแลซึ่งกัน และกัน และต้องลดแยกครูออกจากนักเรียน เช่น โอนย้ายหรือมุ่งแต่การทำวิทยานิพนธ์ ซึ่ง ศธ.จะหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนของประเทศต่อไป
ขอบคุณที่มาจาก ไทยรัฐ วันที่ 9 มกราคม 2559
ศธ.มอบโล่’ร.ร.ดีไม่มีอบายมุข’สร้างพลังบวก’ให้ครูรักเด็กให้เด็กรักครู’สร้างพลเมืองดีมีศีลธรรมตามคำพ่อสอน
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมปฏิบัติการ “การศึกษา เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ ระดับชาติด้วยคำพ่อสอน ครั้งที่ 1” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ก้าวตามพ่อ ให้ครูรักเด็กให้เด็กรักครูฯ เป็นประตูสู่การสร้างพลเมืองดี มีศีลธรรม ตามคำพ่อสอน”และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “โรงเรียนดีไม่มีอบายมุข” แก่โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) ที่ได้รับคัดเลือกประจำปี 2560
รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวว่า การพัฒนาการศึกษา จะดำเนินตามปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพระองค์ท่านได้เน้นย้ำในสองเรื่องคือ คุณภาพ และ คุณธรรม โดยครูต้องสอนเด็กนักเรียนให้มีน้ำใจ ไม่ใช่สอนให้คิดแต่จะแข่งขันกับเพื่อน แต่ต้องแข่งขันกับตนเอง ซึ่งทุกภาคส่วนต่างเห็นชอบและสนับสนุน สอดคล้องกับงานวิจัยด้านการศึกษาที่ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนแข่งขันกับตนเอง จะสามารถพัฒนาศักยภาพในการเรียนได้มากกว่า นอกจากนั้น ครูต้องมุ่งปลูกฝังความดีให้กับนักเรียนตั้งแต่ชั้นต้น อบรมบ่มนิสัยให้เป็นพลเมืองดี นักเรียนต้องรู้จักการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ เพื่อให้มีความสามัคคีช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ความรู้และประสบการณ์ และต้องลดการแยกครูออกจากนักเรียน เช่นการโอนย้ายหรือมุ่งแต่การทำวิทยานิพนธ์มากกว่าการตั้งใจสอนนักเรียน ซึ่ง ศธ. จะหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนของประเทศต่อไป
ทั้งนี้ โรงเรียนดีไม่มีอบายมุข เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) และเครือข่ายครูดีไม่มีอบายมุข รุ่น 1-5 ซึ่งเป็นการต่อยอดพัฒนาจาก “ครูดีไม่มีอบายมุข” เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนในการช่วยเหลือให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนได้ ลด ละ เลิกอบายมุขได้ และยกย่องโรงเรียนให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อโรงเรียนอื่น ซึ่งยังประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาของชาติและเพิ่มศักยภาพในการปฏิรูปการศึกษาในปัจจุบันต่อไป
ขอบคุณที่มาจาก มติชนออนไลน์ 8 ม.ค. 60