โพสต์โดย : Admin เมื่อ 28 ธ.ค. 2563 00:53:06 น. เข้าชม 166484 ครั้ง
นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนดัง ฆ่าตัวตายพิสดาร ใช้ก๊าชหุงต้มรมฆ่าตัวตายสลดในห้องน้ำ ขณะที่ครอบครัวเผยเป็นเด็กเรียนดี ไม่มีปัญหา คาดว่าเครียดเรื่องโควิด-19 ทำให้ตกงานหารายได้พิเศษ
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ร.ต.อ.ประยุทธ พลเยี่ยม รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 160 หมู่ 9 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี จึงพร้อมด้วยแพทย์ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบศพ นายกษิดิส อินทรขันตี อายุ 16 ปี สภาพศพใส่เสื้อยืด แบบมีปก สีน้ำเงิน สวมกางเกงวอร์ม ขายาว สีดำ นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นภายในห้องน้ำ โดยมีถุงพลาสติกสวมที่ศีรษะ มีปลายสายก๊าชหุงต้มสอดอยู่ในถุง อีกด้านเชื่อมต่อกับถังก๊าชหุงต้ม ถังสีเขียว ยี่ห้อ ปตท. ขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม ที่ตั้งอยู่ข้างศพ นอกจากนั้นยังพบ กรรไกร ผ้าเทปสีดำ วางอยู่บนเก้าอี้พลาสติกสีแดง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 ชั่วโมง
สอบถาม นายเกื้อกูล อินทรขันตี อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านซึ่งเป็นลุง นายกษิดิส ผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า พ่อและแม่ของ นายกษิดิส หลานชายได้เลิกราแยกทางกันตั้งแต่ นายกษิดิส ยังเล็กๆ จึงได้นำมาอุปการะส่งเสียเลี้ยงดูให้เรียนหนังสือ จนกระทั่งเรียนอยู่ชั้น ม.5/1 โรงเรียนสูงสุมารผดุงวิทย์ ซึ่งหลานชายเป็นเด็กเรียนเก่งสอบได้ที่ 1 เกรด 4 เกือบทุกวิชา แต่ 2-3วันนี้ นายกษิดิส หลานชายมักชอบบ่นว่า ไม่รู้เกิดมาทำไมเป็นประจำ กระทั่งเวลา 03.00 น. นายเกื้อกูล จะไปเข้าห้องน้ำพบว่าไฟเปิดอยู่ อีกทั้งประตูห้องน้ำใส่กลอนจากข้างใน จึงเคาะประตู และส่งเสียงร้องเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงตัดสินใจปีนขึ้นไปดูที่ช่องระบายลมพบว่า นายกษิดิส นอนแน่นิ่งหมดสติ จึงพังประตูเข้าไปช่วยเหลือแต่ไม่ทันการ เนื่องจากหลานชายเสียชีวิตไปแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบจริงๆ เพราะหลานชายปกติทุกอย่าง จะมีบ้างที่ถูกดุเรื่องการเล่นโทรศัพท์มือถือ ส่วนอีกประเด็นคาดว่าน่าจะมาจากเรื่องช่วงโควิด-19 ระบาดหนักในหมู่บ้าน จึงทำให้หลานชายตกงานไม่สามารถไปรับจ้างหารายได้พิเศษ โดยการเป็นลูกมือช่วยเปิดเครื่องเสียง ติดไฟแสงสี เนื่องจากรัฐบาล และเจ้าภาพสั่งงดไม่ให้มีงานมหรสพต่างๆ จึงไม่แน่ใจว่ามาจากเรื่องใดแน่
ด้าน ร.ต.อ.ประยุทธ พลเยี่ยม รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางตาเถร กล่าวว่า เนื่องจากทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พร้อมได้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน และแพทย์ได้ร่วมชันสูตรแล้ว จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป