โพสต์โดย : Admin เมื่อ 6 ต.ค. 2563 09:52:29 น. เข้าชม 166422 ครั้ง
“สารสาสน์ราชพฤกษ์” สั่งปลด ผอ. โรงเรียน ฐานปฏิบัติหน้าที่หย่อนยาน ด้าน “นักเรียน” ยังลาออกไม่หยุด ล่าสุดมีจำนวนกว่า 40 ราย
วานนี้ (5 ต.ค. 63) นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าตามข้อตกลง ณ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ พร้อมด้วย คณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) โดยมีนายพิสุทธิ์ ยงศ์กมล ผู้แทนผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ นายสุทธิพงศ์ ยงค์กมล, นางสยมพร ทองเนื้อดี, นางวริษนันท์ เดชปานประสงค์ ผู้แทนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ และ ดร.รัตนาภรณ์ มูรี่ ผู้อำนวยการโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ให้การต้อนรับและให้ข้อมูลการติดตามความคืบหน้าตามบันทึกข้อตกลง
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กล่าวว่า จากกรณีที่พบความรุนแรงเรื่องการทำร้ายเด็กเล็กในโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ สช. ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ
ที่ผ่านมาคณะกรรมการฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกวัน โดยส่วนหนึ่ง ตนได้สั่งการให้ไปช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ปกครอง อยู่สถานีตำรวจภูธรชัยพฤกษ์ อีกส่วนหนึ่งได้มาจัดเก็บข้อมูลว่ามีส่วนใดบ้างที่ทางโรงเรียนจะต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายโรงเรียนเอกชน และส่วนที่สำคัญคือการติดตามผลการดำเนินการของโรงเรียน
สำหรับวานนี้ ตนมาเพื่อติดตามว่า โรงเรียนสารสาส์นราชพฤกษ์ ได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง ตามที่ได้บันทึกข้อตกลงไป โดยเฉพาะที่ได้ให้คำสัญญาไว้ว่าจะแก้ปัญหาโดยเร็ว ตนจึงมาติดตามความคืบหน้าในแต่ละเรื่องว่าโรงเรียนได้ดำเนินการไปมากน้อยแค่ไหน คือถ้าส่วนไหนที่ทาง สช. เห็นว่าจะต้องปรับปรุงแก้ไขก็จะแจ้งให้ดำเนินการเลยโดยทันที
เบื้องต้น โรงเรียนได้รายงานว่ามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหาร ในการถอดถอนและแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่ แต่เท่าที่ทราบคือ โรงเรียนยังไม่ได้แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ
ตนจึงสั่งการให้รีบแต่งตั้งรองผู้อำนวยการตามตราสารที่ได้รับอนุญาต ว่าให้แต่งตั้งรองผู้อำนวยการ 3 คน เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างทั่วถึง โดยเป็นอำนาจของผู้รับใบอนุญาตในการแต่งตั้งผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการ
“ฝ่ายบริหารโรงเรียนถอดถอน นางนันทิภา ยงค์กมล ผู้อำนวยการโรงเรียนคนเก่าออก เนื่องจากหย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่ และแต่งตั้งนางรัตนาภรณ์ มูรี่ ผู้อำนวยการคนใหม่ ซึ่งมีดีกรีปริญญาเอก และใบประกอบผู้บริหารสถานศึกษา ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมเป็นต้นไป โดย สช. แนะนำให้โรงเรียนตั้ง รองผู้อำนวยการ อีก 3 คน ให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้” นายอรรถพลกล่าว
นอกจากนั้น เรื่องของความปลอดภัยทางกายภาพของเด็กที่มีผู้ปกครองร้องมาว่าไม่ปลอดภัย และไม่สามารถเฝ้าระวังได้ ตนก็ได้ให้ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ติดตั้งกล้องวงจรปิด และที่มีผู้ปกครองบางส่วนแจ้งให้โรงเรียนปรับปรุงพื้นทางเดินเพราะกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุแล้วเป็นอันตรายกับเด็กได้ วันนี้ตนก็จะมาดูด้วยเหมือนกัน เพราะทางโรงเรียนแจ้งว่าได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
สำหรับเรื่องของใบประกอบวิชาชีพจริงๆ คุรุสภา ไม่ต้องชี้แจงมาทาง สช. ก็ได้ เพราะ สช. ใช้โปรแกรมที่เชื่อมโยงอยู่กับฐานข้อมูลของคุรุสภา ซึ่งจำนวนครูที่เห็นว่าใบประกอบวิชาชีพหมดอายุที่มีอยู่ด้วยกัน 10 คน เมื่อตรวจสอบกับคุรุสภาแล้ว พบว่า ทั้ง 10 ท่านได้ต่อใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว
กล่าวคือ ในส่วนที่ได้รับมอบหมายให้เป็นครูประจำชั้นหรือครูผู้สอน ขณะนี้ยังไม่พบผู้ที่ไม่มีใบอนุญาต คงเหลือที่ต้องดำเนินการตรวจสอบในประเภทวิทยากรบุคคลภายนอก พี่เลี้ยง หรือตำแหน่งใดๆ ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ว่าได้เข้ามาทำหน้าที่ครูบ้างหรือไม่ ซึ่งจะมีผิดกฎหมาย
ในส่วนนี้ก็ต้องขอเวลาสักระยะเนื่องจากประเภทดังกล่าวนี้มีจำนวนมาก เช่น ครูชาวต่างชาติ ที่ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ มีข้อมูลว่ามีมากกว่า 100 คน ตรวจสอบเอกสารว่ามีความถูกต้องครบถ้วน มีใบอนุญาต มีหนังสืออนุญาตจากคุรุสภา มีใบอนุญาตทำงาน (ใบ Work permit) มี Visa Non-B (Non-Immigrant Visa “B” : วีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน) และมีสัญญาจ้างถูกต้องทั้งหมด 76 คน
ที่เหลืออีก 51 คนต้องสอบถามว่าทางโรงเรียนได้จ้างมาหรือไม่ หรือจ่ายเงินเดือนแบบไหน จ้างมาทำหน้าที่อะไร และมี Visa Non-B กี่คน มี Work permit กี่คน ตรงนี้ต้องหาข้อเท็จจริงกันต่อไปโดยต้องขอเวลาในการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ขณะเดียวกันข้อมูลล่าสุดแจ้งว่า มีนักเรียนขอลาออกและขอคืนเงินค่าเล่าเรียนจาก โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เพิ่มจำนวน 6 ราย โดย 2 ราย เป็นเด็กที่อยู่ในห้องเรียนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จากเดิมเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ได้รับแจ้งว่ามีนักเรียนจะลาออกและขอคืนเงิน จำนวน 40 คน