โพสต์โดย : Admin เมื่อ 5 ต.ค. 2561 09:58:02 น. เข้าชม 166422 ครั้ง
จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพของเด็กนักเรียนชั้น ป.3 ถูกครูตีด้วยหวายถึง 45 ที จนก้นเขียวช้ำ ขณะเดียวกันก็มีคนออกมาเปิดเผยว่า ที่เด็กถูกตีเพราะทำข้อสอบไม่เสร็จ แถมขู่อีกว่าห้ามบอกใคร ถ้าบอกจะตีอีก 100 ที ตามที่เสนอข่าวไแล้วนั้น
อ่านข่าว ป.3 ทำข้อสอบไม่ได้ ครูใช้หวายฟาดก้น! 45 ที ขู่เด็กห้ามฟ้อง จับได้โดนอีก 100 ที
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากญาติพี่น้องและเพื่อนของครูดังกล่าวที่ตีนักเรียนจนก้นช้ำ ที่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ว่าครูเครียดอย่างมากที่โลกโซเซียลได้พิพากษาและกดดัน ทางญาติและเพื่อนหวั่นว่าครูจะคิดสั้นเนื่องจากไม่สามารถที่จะชี้แจงหรือบอกข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้สาธารณชนได้รับทราบ จึงขอให้ผู้สื่อข่าว “ข่าวสด” ช่วยลดความกดดันและโทรศัพท์ไปหาครูดังกล่าวด้วย เพื่อช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริง ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะสายเกินไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปหาครูดังกล่าว ก็ได้เปิดเผยว่า ตอนแรกตนได้ไปทำภาระกิจเกี่ยวกับการศึกษาที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และก่อนไปก็ได้แจ้งให้นักเรียนทำการบ้าน ทำรายงานเพื่อส่งครูในวันอังคาร ซึ่งเด็กก็เข้าใจ ต่อมาตนได้เรียกเก็บงานที่สั่งไว้ ปรากฏว่ามีเด็กนักเรียนที่ถูกทำโทษไม่ได้ทำ ตนจึงได้ลงโทษด้วยการปี แบบรั่วๆ เร็วๆ ไม่แรง ไม่ได้ฟาดสุดแรงถึง 45 ที แต่อย่างใด ตีไม่ถึง 20 ทีด้วยซ้ำ หลังทำโทษเด็กก็ไม่ได้ร้องหรือแสดงอาการเจ็บปวดอะไร วันต่อมาเด็กก็มาเรียนวิ่งเล่นตามปกติ หัวเราะร่าเริง กระทั่งผู้ปกครองได้มาหา ผอ.ของโรงเรียน และได้ให้ดูบาดแผลที่เกิดจากการถูกตี ตนก็ได้ชี้แจงอธิบายให้ฟัง ว่าไม่ได้ตีแรงขนาดนั้น แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมก้นของเด็กถึงได้เขียวขนาดนั้น หรือว่าอาจจะเป็นเพราะก้นเด็กเนื้ออ่อน จึงได้มีรอยเขียวช้ำ
“ผมได้อธิบายและก็ได้กล่าวขอโทษพ่อแม่เด็กแล้ว ซึ่งตอนแรกญาติพี่น้องของเด็ก รวมทั้ง ผอ.ก็เข้าใจ แต่พ่อของเด็กยังติดใจ และต่อมาพ่อของเด็กได้นำภาพและข้อความไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก ทาง ผอ.โรงเรียนก็ให้ผมไปทำความเข้าใจและขอขมาพ่อเด็ก ผมก็ได้ซื้อขนมไปให้และไปขอขมาพ่อเด็ก พร้อมทั้งอธิบายและรับปากว่าจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก พ่อเด็กก็เข้าใจและได้ลบโพสต์ทิ้ง จากนั้นก็ได้นำตัวเด็กไปให้แพทย์ที่โรงพยาบาลตรวจอีกครั้งเพื่อความสะบายใจ เพราะเด็กไม่ได้เป็นอะไรมากมาย” ครู กล่าว
ครูคนเดิม กล่าวอีกว่า ต่อมาญาติพี่น้องของเด็ก ได้นำเรื่องที่ตกลงกันแล้ว แต่ไม่รู้ได้นำไปขึ้นในเฟซบุ๊กของตัวเอง นำภาพเขียนเป็นเรื่องราว ทำให้เรื่องเหมือนกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นอีก และแพร่ขยายต่อไป มีคนที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งตนก็ไม่รู้จักเขียนเป็นตุเป็นตะ ว่าตนได้ติดต่อไปขอจ่ายเงินเพื่อให้ลบเฟซบุ๊ก ตนก็งงไปใหญ่ ไม่เคยติดต่อไม่รู้จักแต่ทำไมไปเขียนแบบนั้น ทำให้เกิดความวุ่นวายไปกันใหญ่ มีการระบุว่า ญาติพี่น้องได้นำตัวเด็กไปแจ้งความไว้แล้วด้วย ตนงงอย่างมาก ทั้งที่พ่อแม่เด็ก ผอ.และเด็ก กับตนก็ตกลงกันขอขมาและไม่ติดใจเอาความกันแล้ว
“ผมเครียดอย่างมาก ไม่รู้จะไปตอบโต้อย่างไร อยากจะชี้แจงข้อเท็จจริง กระทั่งมีญาติและเพื่อนของญาติแจ้งมาว่า พอจะรู้จักผู้สื่อข่าวและจะขอให้ผู้สื่อขาวติดต่อผมเพื่อจะได้พูดเล่าเรื่องขอเท็จจริงบ้าง เพื่อเผยแพร่ทางโซเซียล เพราะผมรู้สึกว่าถูกพิพากษาไปแล้ว ผมเป็นครูมานานกว่า 8 ปี รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ผมยืนยันว่าไม่ได้ตีหรือฟาดเด็กแบบสุดแรง ทำโทษตามสมควร และไม่ได้โกรธ หรืออารมณ์ค้างมาจากที่ใด และเรื่องก็จบไปแล้ว แต่ทางญาติพี่น้องของเด็กและพวกโซเซียลไม่จบ นำไปต่อยอดและเขียนโพสต์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา อยากจะขอร้องให้หยุดเถอะครับ”
ถ้าตนตีเด็กอย่างแรง 45 ที ก้นเด็กต้องแตกแล้ว และตนก็ไม่ได้ไปขู่เด็กว่าหากไปฟ้องใครก็จะตีอีก 100 ที ตนไม่ได้ขู่ไม่ได้พูด ตีแบบรั่วๆ เร็วๆ ไม่ถึง 20 คิดว่าไม่แรงด้วย แต่คาดว่าเด็กนั้นอ้วนและเนื้อคงนิ่ม เมื่อโดนของแข็งกระทบหลายครั้งอาจจะเกิดเขียว ซึ่งทางแพทย์ก็ได้ตรวจสอบแล้วไม่พบการแตกแต่อย่างใด หยุดโพสต์พิพากษาตนเสียที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเมื่อเวลา 22.30 น. ผอ.ของโรงเรียนได้เรียกครูคนดังกล่าวไปประชุมเป็นการด่วนกลางดึก เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งเรื่องที่ชาวโซเซียลได้โพสต์กันอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศในขณะนี้