โพสต์โดย : Admin เมื่อ 5 มิ.ย. 2561 20:25:20 น. เข้าชม 166404 ครั้ง
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) รศ.นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ ประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศึกษาแนวทางการจัดทำพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ที่ต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปรับแก้เพื่อเสนอ กอปศ.พิจารณาอีกครั้ง คาดว่า 15 มิ.ย.นี้จะนำเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นทางเว็บไซต์ของ กอปศ. และเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ สกศ.สำหรับสาระสำคัญในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. …อาทิ จัดระบบการศึกษาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ให้คนไทยเรียนตามความถนัดและสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต เปิดทางเลือกในการจัดการศึกษาและการเข้ารับการศึกษา การให้อิสระโรงเรียนเพื่อให้จัดการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รองรับการปฏิรูปหลักสูตรการเรียนการสอน จัดระบบสนับสนุนโรงเรียนเพื่อให้ครูมีเวลาอยู่ในห้องเรียนมากขึ้น
รศ.นพ.จิรุตม์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการผลิตและพัฒนาครูเพื่อให้ได้ครูที่มีความรู้ความสามารถ และฐานสมรรถนะเพื่อรองรับการพัฒนาการศึกษาในอนาคต ยกระดับวิชาชีพครู และการให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้บริหารเพื่อให้ได้ผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม มีการประเมินการเข้าสู่ตำแหน่งและการพัฒนาให้มีสมรรถนะที่ต้องการ ซึ่งกฎหมายเดิมมีน้อยทั้งที่ผู้บริหารเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการศึกษา ส่วนการปฏิรูปโครงสร้างนั้นไม่ได้ระบุไว้เพราะ กอปศ.ให้ความสำคัญกับผู้เรียนและระบบการศึกษาของประเทศเป็นหลัก แต่หากมีความจำเป็นต้องปรับโครงสร้างก็ยังมีเครื่องมือที่เป็นแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งสามารถกำหนดให้ไปดำเนินการได้
ด้านนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการ สกศ. กล่าวว่า กอปศ.ตั้งใจให้ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เสร็จทันในรัฐบาลนี้ จึงวางกรอบว่าภายในวันที่ 15-30 มิ.ย.จะเปิดรับฟังความคิดเห็น จากนั้นจะปรับปรุงร่างเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาช้าสุดไม่เกิน 17 ก.ค. จากนั้นจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาก่อนส่งกลับมาที่ ครม.อีกครั้ง และคาดว่าจะส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายใน 24 ก.ย. เพื่อเข้าสู่การพิจารณาตามขั้นตอน 3 วาระ โดยคาดหวังว่าภายในเดือน ธ.ค.นี้ จะได้ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ เป็นของขวัญปีใหม่ 2562 ให้กับคนไทย โดยระหว่างนี้จะเร่งจัดทำกฎหมายลูกให้แล้วเสร็จ พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และจัดทำโครงการที่ดำเนินการสำเร็จเป็นรูปธรรม เพื่อเสนอต่อ ครม.ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบต่อไป