โพสต์โดย : Admin เมื่อ 19 ม.ค. 2561 11:36:13 น. เข้าชม 166410 ครั้ง
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง จ.นครราชสีมา กว่า 50 คน รวมตัวถือป้ายประท้วงไม่เอาอาจารย์ 2 คนกลับเข้ามาสอนในคณะ ภายหลังจากที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยเซ็นต์คำสั่งย้ายให้เข้ามาสอนในคณะ
โดยการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ กลุ่มนักศึกษาออกแถลงการณ์ว่า เมื่อปี 2547 กลุ่มนักศึกษารวมตัวกันประท้วงกล่าวหามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ถ่ายภาพของลับเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ราชการและถูกเผยแพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัยจนเป็นข่าวฉาวในขณะนั้น อีกทั้งยังปลอมแปลงเอกสารเบิกจ่ายวัสดุฝึกงานนักศึกษาไปใช้ส่วนตัว นักศึกษาจึงรวมตัวชุมนุมประท้วงขับไล่ อธิการบดีในขณะนั้นตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยและเห็นว่าผิดวินัยที่ไม่ร้ายแรง ให้ย้ายไปสอนที่คณะอื่น ส่วนอาจารย์คณะเดียวกันถูกกล่าวหาว่าออกเกรดหรือผลการเรียนนักศึกษาตกทั้งชั้นเรียน ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีคำสั่งย้ายให้ไปสอนที่คณะอื่นเช่นกัน
ต่อมาเมื่อปี 2555 อาจารย์ทั้ง 2 คนยื่นหนังสือถึงขอกลับมาสอนที่คณะเดิม แต่นักศึกษาได้รวมตัวถือป้ายข้อความประท้วงขับไล่ไม่เอาอาจารย์ทั้ง 2 คนอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ในขณะนั้นทางมหาวิทยาลัยฯได้ชี้แจงต่อนักศึกษาแล้วว่า มีการตั้งคณะกรรมการสอบ และลงโทษแล้วจึงมีการประชุมและหาทางออกร่วมกัน โดยผลสรุปว่าไม่อนุมัติคำสั่งย้ายให้กลับมาสอน แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ได้มีคำสั่งให้กลับเข้ามาสอนอีกครั้ง
โดยกลุ่มนักศึกษา เปิดเผยว่า กรณีนี้อาจารย์ขาดจริยธรรมความเป็นครู และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ถ่ายรูปลามกอนาจารของตนเองเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ราชการ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมปลอมแปลงเอกสารเบิกจ่ายวัสดุฝึกงานนักศึกษาไปใช้ส่วนตัว ส่วนอีกคนไม่มีความเป็นธรรมจริยธรรมในความเป็นครูโดยให้เกรดนักศึกษาตกทั้งชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่มนักศึกษาได้ยื่นหนังสือถึงอธิการมหาวิทยาลัยฯ เพื่อขอคัดค้านคำสั่งแล้ว และให้มีการยกเลิกคำสั่งย้ายภายใน 5 วัน
“หากไม่เช่นนั้นจะนำเรื่องนี้ร้องเรียนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต่อไป หลังแกนนำนักศึกษาอ่านแถลงการณ์เสร็จแล้วได้มีการชูป้ายประท้วง และตะโกนขับไล่อาจารย์ทั้งสองคนและสลายตัวไปในที่สุด”
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_713861