โพสต์โดย : Admin เมื่อ 30 พ.ย. 2560 00:36:18 น. เข้าชม 166372 ครั้ง

นร.สาว ม.4 กรี๊ดลั่น! โดนหนุ่มใบ้จูงมือเข้าห้องน้ำสวนสาธารณะ ทำมือเป็นเชิงสัญลักษณ์

นร.สาว ม.4 กรี๊ดลั่น! โดนหนุ่มใบ้จูงมือเข้าห้องน้ำสวนสาธารณะ ทำมือเป็นเชิงสัญลักษณ์

วันที่ 29 พ.ย. ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุจากนักเรียนชายโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ว่าได้ควบคุมตัวหนุ่มใบ้ มีพฤติกรรมที่จะลวนลามและได้ชักชวนเพื่อนนักเรียนสาว โดยได้ขี่รถจยย.ติดตามมาจากที่เกิดเหตุบริเวณห้องน้ำภายในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 95 (เขาแปะช้อย) จนมาควบคุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านขายเฟอร์นิเจอร์ แยก ร.พ.วัฒนแพทย์ ภายในเขตเทศบาลนครตรัง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ รีบเดินทางไปตรวจสอบ

พบนักเรียนชายวัย 16 ปี จำนวน 2 คน กำลังควบคุมตัวหนุ่มใบ้วัยกลางคน ทราบชื่อภายหลังคือ นายชัย (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ชาว อ.เมืองตรัง พร้อมรถจยย.ฮอนด้า ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองตรัง พร้อมทั้งติดต่อนักเรียนสาวผู้เสียหายไปพบ ร.ต.อ.หญิงโสภา มีเจ้ย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง

จากการสอบสวน น.ส.ฟิล์ม (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เล่าด้วยอาการตื่นตกใจว่า หลังจากเลิกเรียนตนได้ขี่รถ จยย.ไปเข้าห้องน้ำ ภายในสวนสาธารณะดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นไม่มีบุคคลอื่น เนื่องจากฝนตกปรอยๆ ขณะเดียวกันได้พบกับ นายชัย ซึ่งมีบ้านอยู่แถวๆ นั้น และกำลังอยู่บริเวณห้องน้ำ โดยได้ทำภาษามือบอกให้รู้ในเชิงว่า เป็นใบ้พูดไม่ได้ และชมตนว่าน่ารัก สวย ก่อนกวักมือเรียกให้เข้าไปในห้องน้ำ พร้อมทำมือในลักษณะช่วยตัวเอง เชิงว่าจะขอมีเพศมีสัมพันธ์ ตนตกใจอย่างมาก

จากนั้น นายชัย จึงได้จับมือและแขนของตน แล้วดึงให้เข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ตนจึงสะบัดมือหลุดและรีบวิ่งมาขับขี่รถออกไป แต่ นายชัย ก็ยังขี่รถจยย.ไล่ติดตามมา ตนจึงโทรศัพท์บอกเพื่อนนักเรียนชายที่อยู่ใกล้ที่สุดให้มาช่วยเหลือ จนสามารถติดตามควบคุมตัวและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากสอบสวน น.ส.ฟิล์ม ไม่ได้ติดใจเอาเรื่อง หรือดำเนินคดีแต่อย่างใด อีกทั้งไม่ได้เข้าข่ายการลวนลาม หรือฉุดกระชาก เพราะเป็นเพียงการจับมือ และชักชวน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ผู้เสียหายกลับบ้านไป พร้อมกับตักเตือน และบอกกล่าวในเรื่องของการให้ระวังตัวเอง หรืออย่าไปไหนเพียงลำพัง ขณะที่ นายชัย ถูกนำตัวส่งกลับบ้าน พร้อมกับรายงานให้ญาติพี่น้องใกล้ชิดทราบถึงเรื่องดังกล่าว ทั้งยังแนะนำให้พาไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการทางจิตและหาทางรักษาต่อไป เพื่อจะได้ไม่ให้มาก่อความเดือดร้อนจนเป็นที่หวาดกลัวต่อสังคม หรือกระทำเหตุการณ์รุนแรงอย่างที่ไม่คาดคิดได้