โพสต์โดย : Admin เมื่อ 20 ก.พ. 2560 10:53:54 น. เข้าชม 166436 ครั้ง
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือร่วมกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ถึงความคืบหน้าการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะ และหลักเกณฑ์การบริหารงานบุคคลอื่น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ย้ำว่าจะไม่เน้นการทำผลงานทางวิชาการ หรืองานวิจัย ยกเว้นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษ ที่ต้องทำวิจัย แต่ต้องเป็นงานวิจัยที่สะท้อนถึงผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติงานจริง ทั้งนี้ นพ.ธีระเกียรติ มอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ไปวางแนวทางดูแลครูที่บรรจุใหม่ให้มีความมั่นคง และมีความก้าวหน้าในวิชาชีพ สามารถมีวิทยฐานะแรกได้เร็วขึ้น จากเดิมที่ครูจะสามารถขอมีและเลื่อนวิทยฐานะแรกได้ภายใน 7 ปี โดยขอให้ร่นเวลาให้เร็วขึ้น โดยให้ครูสามารถมีวิทยฐานะชำนาญการได้ภายในเวลาไม่เกิน 5-7 ปี
นายชัยพฤกษ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ.หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อจัดทำหลักเกณฑ์รายละเอียดมาตรฐานวิชาชีพ ซึ่งเน้น 2 เรื่องหลัก คือ 1.การพัฒนาตัวเอง อาทิ การฝึกอบรมการศึกษาดูงานวิชาการเพิ่มประสิทธิภาพการสอนในด้านต่างๆ และ 2.คุณภาพในการปฏิบัติการสอน ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก ชั่วโมงการสอน และประสิทธิภาพการสอนของครู รวมถึง ให้วางแนวทางดูแลบุคลากรสายสนับสนุนการสอน อาทิ ครูแนะแนว ครูบรรณารักษ์ เป็นต้น ด้วย
“เท่าที่ดูหลักเกณฑ์ใหม่ มีความคืบหน้าไปกว่า 30% ซึ่ง นพ.ธีระเกียรติให้เร่งดำเนินการ เพื่อให้สามารถประกาศใช้ได้โดยเร็ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม เชื่อว่าเกณฑ์ใหม่นี้จะทำให้ครูอยู่ในห้องเรียน และอยู่กับเด็กมากขึ้น รวมถึง สามารถพัฒนาความรู้ความสามารถได้ตรงกับความต้องการ นำไปใช้ในการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะได้” นายชัยพฤกษ์กล่าว
ขอบคุณ เว็บไซต์ครูบ้านนอกดอทคอม