เครื่องมือค้นหา
หน้าแรก » ข่าวการศึกษา » ดราม่าหนักมาก แพทย์โพสต์วิธีเลี้ยงลูก พ่อแม่โง่เขลาถ้าปล่อยให้ลูกเล่นเกมส์ !!

ดราม่าหนักมาก แพทย์โพสต์วิธีเลี้ยงลูก พ่อแม่โง่เขลาถ้าปล่อยให้ลูกเล่นเกมส์ !!

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 19 ก.พ. 2560 10:43:03 น. เข้าชม 166376 ครั้ง

 รับทำเว็บโรงเรียน 5900 ใช้งานได้เลย GED  |   IELTS  |   สอบ IELTS  |   สอบ TOEIC  |   CU-BEST  |   CU-TEP  |  
ดราม่าหนักมาก แพทย์โพสต์วิธีเลี้ยงลูก พ่อแม่โง่เขลาถ้าปล่อยให้ลูกเล่นเกมส์ !!
แจกฟรีโปรแกรมจัดตารางเรียน แจกฟรีโปรแกรมเช็คชื่อ บันทึกความดี

ดูในรายการ : ข่าวการศึกษา ทั้งหมด

กดติดตาม Facebook และ YouTube ห้องพักครูเพื่อเป็นกำลังใจ
ดราม่าหนักมาก แพทย์โพสต์วิธีเลี้ยงลูก พ่อแม่โง่เขลาถ้าปล่อยให้ลูกเล่นเกมส์ !!
ดราม่าหนักมาก แพทย์โพสต์วิธีเลี้ยงลูก พ่อแม่โง่เขลาถ้าปล่อยให้ลูกเล่นเกมส์ !!

ดราม่าหนักมาก แพทย์โพสต์วิธีเลี้ยงลูก พ่อแม่โง่เขลาถ้าปล่อยให้ลูกเล่นเกมส์ !!

กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลอยู่ ณ ตอนนี้ เมื่อมีแพทย์นายหนึ่งได้โพสต์บทความอธิบายถึงวิธีการเลี้ยงลูกของตัวเอง เมื่อมีแพทย์นายหนึ่งได้โพสต์บทความอธิบายถึงวิธีการเลี้ยงลูกของตัวเอง : ผมต้องขอบคุณวันนั้น ที่ป๊าผมไม่ “โง่เขลา” เหมือนพ่อแม่ทั่วไป ที่ยอมให้มีเกมส์ในบ้าน ถ้าไม่มีวันนั้น ไม่มี “นายแพทย์อิทธิฤทธิ์” ในวันนี้แน่นอน

...............................................

โดยบทความนั้นเขียนเอาไว้ว่า การเล่นเกมนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดี และเขาจะไม่ยอมให้ลูกเล่นเกมเหมือนกับพ่อแม่คนอื่นๆ โดยเด็ดขาด!!

ขอคัดลอกมาบางส่วนนะครับ

...........................

ตอน ป.5 ลูกน้องป๊าเอาเกมส์นินเท็นโด้มาให้เล่น ใหม่เอี่ยมแกะกล่อง หวังให้หัวหน้าเลื่อนขั้นเงินเดือน 2 ขั้นตอนปลายปี หลังจากนั้นพ่อลูก(ผมกับป๊า)ติดกันงอมแงมได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ป๊าก็เอาเกมส์ไปคืนผมใจหายวาบ ยังอยากเล่นสุดๆ เลยเกิดความตั้งใจแรงกล้าว่า จะเก็บเงินเพื่อซื้อเองหลังจากได้ที่เรียน ม.1

ผมเก็บเงินได้เยอะมาก 6 พันกว่าบาท และเมื่อทราบว่ามีที่เรียน ม.1 ผมก็ขอเบิกเงินเพื่อไปซื้อ แต่ได้รับการปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยภายในเวลา 2 วินาที โกรธนะครับ แต่ทำอะไรไม่ได้ และผมต้องขอบคุณวันนั้น ที่ป๊าผมไม่ “โง่เขลา” เหมือนพ่อแม่ทั่วไป ที่ยอมให้มีเกมส์ในบ้าน ถ้าไม่มีวันนั้น ไม่มี “นายแพทย์อิทธิฤทธิ์” ในวันนี้แน่นอน เพราะตอนเป็นนักศึกษาแพทย์ ผมมีช่วงติดเกมส์อยู่พักนึง ทำให้รู้ว่า สมองของผม “ติดเกมส์” ง่ายมาก

............................

มีคนถามมาเยอะว่า ถ้าไม่ให้ลูกเล่นเกมส์ เดี๋ยวลูกเข้ากับเพื่อนไม่ได้ หรือเดี๋ยวลูกจะหนีไปเล่นที่อื่น แล้วจะทำยังไง?

โอ..คนเขลาเอ๋ย ลูกถูกฝึกอย่างไร ก็จะเติบโตเป็นอย่างนั้น

ผมยืนยันว่า ลูกๆผมไม่เคยมีความคิดแบบนี้เลย ผมถามเด็กๆหลายรอบแล้ว

ที่สำคัญ พ่อแม่ที่ไม่หนักแน่นพวกนั้น จริงๆผมขอเรียกว่าพ่อแม่ "หน่อมแน้ม" จะกลัวในสิ่งที่ไม่ควรกลัว เมื่อกลัว ทำให้แก้ปัญหาผิดๆ

ผมเลือกเป็นพ่อแม่ที่หนักแน่น ไม่หน่อมแน้ม ไม่โง่เขลา เพราะผมรักลูกจริงๆ

เมื่อลูกยังอยู่ในความปกครองของผม เค้าจะต้องอยู่ภายใต้กติกาที่พ่อแม่วางไว้ แต่ถ้าเค้าโตแล้วอยากทำอะไร นั่นเป็นสิ่งที่เค้าต้องรับผิดชอบตัวเอง และผมคงยุ่งไม่ได้แล้ว

ลองเข้าไปอ่านเนื้อหาบทความกันแบบเต็มๆ ที่โพสต์ต้นฉบับได้เลยจ้า…

จากโพสต์ดังกล่าวก็มีประเด็นขึ้นมา เพราะคุณหมอมีการใช่คำพูดที่ดูถูกดูแคลนพ่อแม่คนอื่นที่ยอมให้ลูกเล่นเกมว่าเป็นคน ‘โง่เขลา’ ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่เห็นด้วย จึงเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันมากมาย

คุณ Theetawit Setthachai (ช่า บทขต./เพจบันทึกของตุ๊ด) ให้ความเห็นว่า “ปกติเล่นเกมส์เยอะค่ะ ติดเกมส์ โตมาก็เป็นคนสดใสร่าเริงนะคะ แถมยังเปิดกว้างทุกความเห็น ไม่ด่าคนอื่นว่าเขลา และไม่ยกตนว่าเป็นผู้มีปัญญา อ่านตรรกะประมาณว่าพวกที่คิดไม่เหมือนกูคือโง่นี่งงมาก เป็นจิตแพทย์จริงเหรอคะ?”

คุณ Sukavin Sanitraksa ให้ความเห็นว่า “คุณมองภาพลบเกี่ยวกับเกมส์มากไปรึป่าว เราสามารถเล่นเกมส์ในขณะที่อย่างอื่นเราก็ทำได้ไปพร้อมๆกัน เกมส์ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาสำคัญคือคุณมีวินัยในการแบ่งเวลารึป่าวตรงนี้สิน่าคิด เอ้อว์”

คุณ Natsuda Cha ให้ความเห็นว่า “มีเพื่อนติดเกมค่ะ ตอนนี้เปน softwear engineering อยู่ singapore ฉลาดมากไม่โง่ อิอิ”

คุณ Punniiz Hopecm ให้ความเห็นว่า “คนที่ติดเกมส์ แบบงอมแงม แบบไม่เอาอะไร เล่นจนเสียงานเสียการ เล่นจนแยกแยะตรรกะอะไรจริง ไม่จริงไม่จริง ไม่ได้ เรามองแบบชาวบ้านทั่วไปนะ เราคิดว่าเป็นคนแยกแยะไม่ได้อ่ะ คือถูกชักจูงได้ง่าย สนุกนิด มันส์หน่อย เร้าใจ แค่นี้ก็ไปไหนไม่ได้ แบบนั้นอันตราย แต่อย่าเหมารวมกับคนที่เค้าแยกแยะได้ มั้ยคะ? เราเคยรู้จักเด็กที่เล่นเกมส์แฟมมิคอม แล้วในเกมส์นั้นมันเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ เด็กมันอยากเล่นก็พยายามไปเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น พอโตมาหน่อยก็เรียนจนสามารถสอบชิงทุนไปเรียนญี่ปุ่นได้ ทุกวันนี้ทำงานที่ญี่ปุ่น บริษัทใหญ่โต ไม่เห็นเค้าเสียคน หรือ เขลาตรงไหน? ยกตัวอย่างอีกคนเป็นเพื่อนของเราเอง ติดเกมส์ออนไลน์ เล่นทุกวัน เล่นทั้งวัน จนพ่อแม่เค้าสังเกตุว่าลูกรักทางนี้ พ่อแม่เค้าสนับสนุนค่ะ ทุกวันนี้เข้าไปอยู่ในทีมพัฒนาเกมส์ออนไลน์ระดับโลก /// เห็นคุณหมอเตือนคนนั้นคนนี้ แต่คุณหมออย่าลืมเตือนตัวเองนะคะ ว่าโลกเรา มันมีหลายมุมมอง มีหลายด้าน และที่สำคัญ กฏของบ้านแต่ละบ้านไม่เหมือนกันค่ะ โอเค คุณหมอพอใจแล้ว คิดว่านี่คือดีแล้ว สำหรับครอบครัวคุณ แต่บ้านอื่นเค้าไม่ได้คิดแบบนั้น มันก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นโง่กว่า จริงไหม?”

นอกจากนี้เพจชื่อดังอย่าง Drama-addict เองก็ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน… ขอคัดลอกใจความสั้นมาให้อ่าน 

คิดว่าการที่จ่าเล่นเกมในตอนเด็ก มันส่งผลต่อแรงบันดาลใจ ความสนใจ อะไรต่อมิอะไรในปัจจุบันเยอะมากจริงๆ

อันนี้ต้องยกเครดิตให้พ่อแม่จ่าที่เขา "เลี้ยงลูกเป็น" คือไม่ได้ใช้มายาคติส่วนตัวมาปิดกั้นว่า ลูกห้ามยุ่งกับไอ้นั่นไอ้นี่ เพราะพ่อแม่เชื่อว่านั่นคือสิ่งไม่ดี

แต่เขาเลือกที่จะให้ลูกลองสัมผัสไอ้สิ่งนั้นดู แล้วคอยดูอยู่ใกล้ๆ ว่าออกนอกลู่นอกทางมั้ย หมกมุ่นในสิ่งนั้นเกินไปหรือเปล่า  กำลังเล่นในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับวัยอยู่ไหม อะไรงี้ ซึ่งการทำแบบนี้มันดีตรงที่ ตัวลูกเองก็จะค่อยๆได้เรียนรู้ไป ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีอะไรคือสิ่งที่ไม่ดีด้วยตัวของตัวเองโดยที่ไม่ได้อยู่ในกรอบที่พ่อแม่ขีดเส้นให้ จนแยกแยะด้วยตัวเองไม่ได้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
 

นอกจากจะมีกระแสต่อต้านแล้ว ก็ยังมีพ่อแม่อีกหลายคนที่เห็นด้วยกับโพสต์ของคุณหมอ…

คุณ Non Ting Tong ให้ความเห็นว่า “ผมคนนึงที่ผ่านการติดเกมส์มาแล้วครับ ผลเสียอย่างที่หมอว่าจริงๆ การเรียนผมแย่ ไม่มีทักษะทางสังคม อารมณ์หงุดหงิด โลกส่วนตัวสูง ผมจะพยายามไม่ให้ลูกเหมือนผมครับ ขอบคุณมากครับหมอ”

คุณ Thanyalak Pinsanor ให้ความเห็นว่า “พยายามที่สุดเหมือนกันค่ะที่จะไม่ให้ลูกติดเกมติดจอ เราเลยไม่ตามแฟชั่น ไม่ซื้อสมาร์ทโฟนแพงๆมาใช้ ไม่ซื้อแทบเล็ต ไม่เคยเล่นเกมให้ลูกเห็น แต่จะชวนกันเล่นดินเล่นทราย อ่านหนังสือ ตอนนี้โตกันขึ้นมาหน่อย ชวนกันไปทำเล้าไก่ ชวนไปพรวนดินปลูกผักกัน สนุกและได้ประโยชน์ด้วยค่ะ”

คุณ Patchanok Iaw ให้ความเห็นว่า “เหมือนกันเลยค่ะ. ถ้าวันนั้นป๊ายอมให้เล่นเกมส์. ชีวิตและจุดที่ยืนตรงนี้คงขยับเปลี่ยนไปไกลไม่มากก็น้อย ‘ยังมีของเล่นอื่นๆ ที่ลูกเล่นได้อย่างสนุกอีกมากมาย’ เรื่องนี้ยืนยันด้วยเช่นกันค่ะ”

แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวของเรามีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง ก็ลองเสนอกันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ

ที่มา : Dad Mom and KidsTheetawit SetthachaiDrama-addict , Catdumb 


☰กดไลค์หรือแชร์ เรื่องนี้ให้เพื่อนรู้ >>>

เว็บไซต์ห้องพักครูดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
กดติดตาม YouTube ห้องพักครูเพื่อเป็นกำลังใจ
แจกฟรีโปรแกรม ปพ.5 ล่าสุด แจกฟรีโปรแกรมเช็คชื่อ บันทึกความดี

เนื้อหาแนะนำ ข่าวการศึกษา


คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ? ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !


วิธีการดาวน์โหลด สือการสอน แผนการสอน

จำหน่ายแผนการสอน ป.1-ม.6 ล่าสุด


หมวดหมู่ : ข่าวการศึกษา

รวมหนังสือเตรียมสอบ





ข่าว ล่าสุด

GED  |   chulatutor  |   สอบ IELTS  |   สอบ TOEIC  |   IELTS  |   TOEIC  |  

ติดตามเรา Facebook