โพสต์โดย : Admin เมื่อ 10 มี.ค. 2564 04:32:44 น. เข้าชม 166404 ครั้ง
เกิดเหตุสลดคดีหึงโหด หนุ่มนักเรียนวัย 18 ปี ทะเลาะกับแฟนสาววัย 19 ปี หลังคิดว่าแฟนสาวเริ่มตีตัวออกห่าง ก่อนทำร้ายบีบคอแฟนสาวจนเสียชีวิต เจ้าตัวรับสารภาพ ลากศพแฟนสาวขึ้นรถกระบะ ก่อนนำไปทิ้งป่าเผาอำพราง ซึ่งก่อนหน้านี้ครอบครัวน้องปอได้ประกาศตามหาและแจ้งความคนหายไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนพบกลายเป็นศพ
ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราในป่าลึก พบร่างผู้เสียชีวิตสภาพถูกเผานั่งยาง 3 เส้น เหลือเพียงเถ้าถ่านกองกระดูกไหม้เกรียมจนจำเค้าเดิมไม่ได้ โดยจุดนี้นายแม้ว แฟนหนุ่มผู้ตายวัย 18 ปี นำตำรวจมาชี้จุดที่นำร่างมาเผา
จากการตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตถูกเผาไหม้ คือ น.ส.จุฬารัตน์ กองแก้ว หรือ "น้องปอ" อายุ 19 ปี โดยญาติแจ้งความหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.64 ที่ผ่านมาญาติออกตามหาทุกวันแต่ก็ไม่พบ จนมาทราบว่าถูกฆาตกรรมเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายสภาพถูกไฟไหม้บางส่วนจึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้นำเถ้ากระดูกที่เหลือกลับไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่ โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลกก่อนนำส่งให้ญาตินำกลับไปทำพิธีตามศาสนา
คดีนี้ตำรวจชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ตามคำให้การของแฟนหนุ่ม ผู้ต้องหา เพื่อเก็บหลักฐาน โดยเจ้าตัวรู้สึกผิดเข้าไปสารภาพกับญาติ ก่อนเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ สภ.แก่งโสภา
พร้อมรับสารภาพว่าฆ่าและนำศพน้องปอไปเผาทิ้ง เนื่องจากวันเกิดเหตุตนและน้องปอทะเลาะกัน และทำร้ายน้องปอ ด้วยการบีบคอ จนแน่นิ่งไป จากนั้นนำร่างน้องปอขึ้นรถกระบะของปู่ โดยบอกกับปู่ ว่าน้องปอไม่สบาย และก็ไปขนยางรถยนต์ ใส่ท้ายกระบะไปด้วย เมื่อถึงจุดที่เผา ผู้ต้องหาได้อุ้มเอาศพน้องปอลงจากนั้นก็เอายางรถยนต์ ที่บรรทุกมาสุมไปร่างแล้วจุดไฟเผา ซึ่งจุดนี้ตำรวจได้เก็บเอาซากกระดูก เพื่อไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว และยืนยันว่าเป็นศพของน้องปอ
ด้านญาติผู้ตาย วันนี้ได้จัดเตรียมงานศพที่บ้านยาย โดยนางสาวฉวี กุนนะ แม่ของน้องปอ เรียกร้องความเป็นธรรมหลังจากที่ข่าวออกไปว่า สาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้มาจากเรื่องหึงหวง ที่ฝ่ายหญิงตีตัวออกห่างฝ่ายชายและฝ่ายหญิงได้ออกไปหางานที่ตัวเมืองพิษณุโลก แม่น้องปอบอกว่าไม่เป็นความจริง สาหตุที่น้องปอ ไปสมัครงานที่ตัวเมือง เนื่องมาจากต้องการหาเงินเลี้ยงหลาน 2คน ที่พ่อแม่แยกทางกัน ประกอบพ่อและแม่มีอายุมากแล้ว การออกไปทำงานจึงเป็นหนทางเดียวที่จะมีเงินเพียงพอในการเลี้ยงดูครอบครัว อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ่ายชาย คิดมาก จึงนัดไปพูดคุยกันเพื่อเคลียร์ใจ
พร้อมยอมรับว่าน้องปอ ได้หมั้นหมายกับ นายแม้ว ผู้ก่อเหตุ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และเพิ่งเลิกรากันเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยน้องปอเรียนจบ ม.6 แล้ว ส่วนฝ่ายชาย ยังเรียนอยู่
ก่อนที่น้องปอหายตัวไป แม่เล่าว่า วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ตอนเที่ยงคืนน้องปอ บอกแม่ว่าจะไปนอนที่รีสอร์ทแถวบ้านเนินรีสอร์ทกับเพื่อน แต่รีสอร์ทเต็มจึงบอกว่าจะไปนอนที่ห้องเพื่อนที่ตัวเมืองพิษณุโลก ก่อนเพื่อนน้องปอแจ้งว่า น้องปอไม่ได้มานอน
วันที่ 28 ก.พ. แม่จึงไปตามหาน้องปอ ที่บ้านแม้ว แฟนหนุ่ม แต่ก็ไม่เจอทั้งคู่ แต่เจอปู่ของฝ่ายชาย ได้บอกว่า แม้วพาน้องปอไปหาหมอเพราะไม่สบาย ซึ่งตนก็รอยู่ที่บ้านแม้ว ถึง 2 ชั่วโมง แต่ก็ไม่เจอ จึงให้เบอร์โทรติดต่อไว้กับปู่
จนช่วงบ่าย 3 วันเดียวกัน ปู่ฝ่ายชายโทรมาบอกว่า แม้วบอกว่าได้ไปส่งน้องปอที่ทำงานแล้ว แต่ขณะนั้นทางครอบครัวก็ยังไม่พบน้องปอ และก็ยังตามอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศตามหาน้องปอ ในเพจเฟซบุ๊ก รวมถึงเข้าแจ้งความคนหายกับตำรวจสภ.แก่งโสภา ไว้
จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ แม่น้องปอบอกว่า ตนทราบข่าวว่าลูกสาวหายตัวไปและกลายเป็นศพ เมื่อตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งว่าน้องปอเสียชีวิตแล้ว โดยคนฆ่าคือนายแม้ว แฟนหนุ่มวัย 18 ปี
ส่วนสาเหตุการฆ่าเผานั่งยางน้องปอ แฟนหนุ่ม รับสารภาพว่า เกิดจากบันดาลโทสะ ทะเลาะกัน เพราะน้องปอ ขอเลิก เนื่องจากตนติดการพนันชอบเล่นชนไก่ และมีหนี้สินเยอะ ขณะที่น้องปอเอง ต้องหางานทำ เพราะมีภาระในครอบครัว โดยตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นและทำลายซ่อนเร้นศพ พร้อมนำตัวผู้ต้องหานำตัวส่งศาลจังหวัดพิษณุโลก เบื้องต้นศาลไม่ให้ประกันตัว
ขณะที่ญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิตทราบข่าวได้เดินทางมาติดตามคดีที่ สภ.แก่งโสภา เนื่องจากไม่คาดคิดว่าผู้ต้องหาจะใจคอโหดเหี้ยมลงมือทำร้ายแฟนตัวเองจนเสียชีวิต