โพสต์โดย : Admin เมื่อ 29 ส.ค. 2562 11:24:50 น. เข้าชม 166417 ครั้ง
รุมตบเพื่อน / เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ข่อยฮักชนบท ได้โพสต์ภาพและคลิปเหตุการณ์เด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ขณะรุมทำร้ายร่างกายเพื่อนในห้องแบบ 3 รุม 1 โดยในคลิปยังมีเสียงพูดว่า “อย่าใช้มีด” ก่อนจะมีเด็กนักเรียนหญิงสวมเสื้อกันหนาวสีดำ เดินไปอยู่ด้านหลังเด็กนักเรียนหญิงอีกคนที่นั่งอยู่หน้าชั้นเรียน
จากนั้นมีนักเรียนหญิงอีก 2 คน ฝ่ายเดียวกับนักเรียนหญิงเสื้อกันหนาวสีดำ มายืนอยู่ข้างๆ เด็กนักเรียนหญิงที่นั่งอยู่เก้าอี้หน้าชั้นเรียนได้ยืนขึ้น จังหวะนั้น 1 ใน 3 เด็กนักเรียนหญิงได้ฉุดแขนนักเรียนหญิงมารุมทำร้ายทั้งเตะ ตบ ถีบ ก่อนจะมีเสียงบอกว่าให้พอ และพูดก่อนจบคลิปว่า “จบไหมทีนี้”
โดยผู้โพสต์ระบุว่า “เด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งของตำบลห้วยแก รุมตบเพื่อนแบบ 3 รุม 1 พร้อมอัดคลิปประจาน ตอนนี้น้องคนเจ็บบอบช้ำหนักทั้งทางร่างกายและจิตใจ ครอบครัวของผู้เสียหายเลยฝากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้น้องค่ะ สุดท้ายแอดฝากผู้ใหญ่ทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยนะคะ”
ผู้สื่อข่าวจึงตรวจสอบและสอบถาม นายพงษ์นเรศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี น้าชายของนักเรียนหญิงที่ถูกรุมทำร้าย เผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ภายในห้องเรียน หลานสาวเรียนอยู่ชั้น ม.2 หลังจากเกิดเหตุหลานสาวได้มาพูดคุยและเล่าให้ฟังว่า เกิดเหตุการณ์เพื่อนในห้องรุมทำร้าย ทั้งยังเป็นเพื่อนบ้านกันด้วยชื่อ “นุ่น”
“นุ่นได้มาหาเรื่องหลานสาว หาว่าแฟนหนุ่มของนุ่นมาชอบหลานสาว สร้างความไม่พอใจ ก่อนที่นุ่น จะพาเพื่อนมารุมทำร้ายตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งหลานยืนยันว่าไม่รู้เรื่องและไม่ได้ชอบหรือพูดคุยกับแฟนหนุ่มของนุ่ม คาดว่านุ่นน่าจะเข้าใจผิด” นายพงษ์นเรศ กล่าว
นายพงษ์นเรศ กล่าวต่อว่า สภาพจิตใจหลานสาวตอนนี้กลายเป็นคนเงียบ ไม่พูดกับใคร คงจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ครอบครัวของนุ่นและเพื่อนอีก 2 คน ได้เข้ามาพูดคุยขอโทษหลานแล้ว แต่นุ่นคนต้นเรื่องคาดว่ายังติดใจอยู่ ในวันที่ 30 ส.ค. แม่ของหลานสาวจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชนบท เพื่อดำเนินคดีเอาเรื่องถึงที่สุด ส่วนโรงเรียนรับทราบแล้ว บอกว่าจะเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยเพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
นายพงษ์นเรศ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในโรงเรียนมีเหตุการณ์นักเรียนตีกันบ่อย แต่ทางโรงเรียนไม่มีมาตรการจริงจังในการแก้ปัญหา พอเหตุการณ์เกิดขึ้นกับหลานสาว ก็ได้พูดคุยกันในครอบครัวทั้งแม่ของหลานและญาติๆ ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อให้ให้ทางโรงเรียนมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก