หมวดจรูญท้าครูปรีชาสาบานหน้าศาลหลักเมือง กาญจน์ หวย30 ล้านเป็นของใครกันแน่ เปิดบ้านแถลงยัน ซื้อจากแม่ค้าในตลาดเรดซิตี้แล้วเอาใส่กระเป๋าเสื้อ กลับบ้าน ไม่ได้ทำหล่น หรือไปเก็บจากที่ไหนทั้งสิ้น ระบุจำหน้าแม่ค้าไม่ได้จริงๆ เพราะดูแต่เลขไม่ได้ดูหน้าคนขาย วอนนายกฯ บิ๊กตู่ และหน่วยงานรัฐส่งเจ้าหน้าที่ที่เป็นกลางมาตรวจสอบ แฉครูปรีชาเจอวันแรกก็ขอให้แบ่งรางวัล แต่ตนไม่ยอม ขณะที่ครูปรีชาระบุหมวดจรูญเป็นคนเสนอให้แบ่งรางวัลคนละครึ่ง แต่ภรรยาไม่ยอมจนต้องล้มเลิก ไม่สนใจคำท้าสาบานศาลหลักเมือง บอกให้ไปสาบานที่ศาลยุติธรรมดีกว่า
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 1 ก.พ. ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ นางลาวัลย์ วิมูล ภรรยา พร้อมด้วยนายศุภกร สุพรรณรังษี ทนายความ ตัวแทนของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อเยาวชน และสังคม เปิดบ้านพักส่วนตัวเลขที่ 299/110 หมู่บ้านศิริชัยวังสารภี หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี แถลงกรณี พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผบช.ภาค 7 พร้อมคณะ สรุปความเห็นกรณีว่า ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533725 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงิน 30 ล้านบาทนั้น เป็นของนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี อยู่บ้านเลขที่ 143/22 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และจะออกหมายเรียกให้ ร.ต.ท.จรูญ ไปรับทราบข้อกล่าวหาในข้อหา “ยักยอกทรัพย์ตกหล่น” และข้อหา “รับของโจร”
ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า หลังจากฟังดูและ ฟังคำแถลงข่าวของผบช.ภาค 7 แล้ว รู้สึกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมสักเท่าไร เพราะที่จริง ตนนั้นเป็นฝ่ายถูก แต่กลับถูกกระทำมาโดยตลอด จึงมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถามว่าอะไรถึงบอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็อย่างเช่นที่ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงออกมาว่าจะสั่งฟ้องตน ทั้งๆที่หลักฐานก็ยังไม่เพียงพอ ซึ่งสื่อมวลชนเองก็น่าจะเห็นเช่นกัน
สำหรับการสั่งฟ้องทั้ง 2 ข้อหา ตนยอมรับไม่ได้ เพราะเป็นคนซื้อและเป็นคนถูกรางวัลเอง จะยอมรับข้อกล่าวหานี้ได้อย่างไร เชื่อว่าหลักฐานที่เขานำมาอ้างนั้นน่าจะเป็นการสร้างหลักฐานขึ้นมาเอง สำหรับหลักฐานที่เขาบอกว่ามีพยานบุคคลที่เห็นตนก้มเก็บเอาลอตเตอรี่ขึ้นมา ซึ่งหลักฐานตรงนี้ก็เช่นกัน ในเมื่อตนซื้อลอตเตอรี่มาเองแล้วจะมีหลักฐานดังกล่าวมาได้อย่างไร เพราะหลังจากที่ซื้อลอตเตอรี่แล้วเสร็จ ก็เก็บเอาไว้ในกระเป๋า ไม่ได้ไปทำตกหล่นกลางทาง ยืนยันซื้อจากแม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่อยู่หลังศาลพระภูมิภายในตลาดเรดซิตี้ แล้วก็ไม่ได้มีแม่ค้าคนไหนมาขายให้อีกเลย และก็ไม่ได้ไปซื้อเจ้าอื่นด้วย
ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า ที่เจ้าหน้าที่บอกมีพยานเห็นตนเก็บลอตเตอรี่ มันเป็นไปไม่ได้ ส่วนที่เจ้าหน้าที่ต้องการหลักฐานของตนไปโต้แย้ง ก็มอบทุกอย่างให้ทนายความไปหมดแล้ว แต่บอกไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง ต่อจากนี้ ขึ้นอยู่กับทนายว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่มั่นใจว่าสามารถนำไปโต้แย้งและลบล้าง ข้อกล่าวหาได้แน่นอน
เมื่อถามว่า มีข้อสงสัยว่าทำไมร.ต.ท.จรูญจำหน้าแม่ค้าไม่ได้ ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า จำไม่ได้จริงๆ รู้แต่ว่าเป็นผู้หญิง ไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าผมสั้นหรือยาว เพราะเวลาซื้อจะดูแต่เลขที่ต้องการ ไม่ได้ดูว่าแม่ค้าหน้าตาสวยงามหรือไม่ขนาดไหน และไม่มีแม่ค้าประจำ ถ้าอยากเสี่ยงโชค เจอที่ไหนก็จะซื้อที่นั่น ที่ผ่านมาก็ไม่ได้จำหน้าแม่ค้าแม้แต่ครั้งเดียว
“จริงๆวันนั้นไม่ได้ตั้งใจไปซื้อสลากเลย แต่ที่ตลาดกับภรรยาเพื่อต้องการซื้อกับข้าว แต่ก็คิดได้ว่าวันถัดไปเป็นวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งเป็นวันลอตเตอรี่ออก ก็เลยคิดจะลองเสี่ยงโชค ตั้งใจว่าจะซื้อเลขท้าย 26 ซึ่งเป็น เลขมงคล ไม่เคยคิดจะได้รางวัลใหญ่ ขอ แค่เพียงถูกเลขท้าย 2 ตัว เมื่อเดินไปเจอเลข 26 บนแผงก็เลยซื้อ แม่ค้ายังบอกว่าเลขนี้กำลังดัง ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าเลขดัง จากนั้นแม่ค้าก็หยิบลอตเตอรี่เลขชุด 5 ใบที่อยู่ในซองพลาสติกมาให้ ก็ถามว่าราคาเท่าไหร่ แม่ค้าบอก 700 บาท ตามที่ติดราคาไว้ จากนั้นผมจ่ายไป 700 บาท เป็นแบงก์ 100 ทั้งหทด จากนั้นก็ไปซื้อกับข้าวแล้วก็กลับบ้านทันที” ร.ต.ท.จรูญ กล่าว และว่าระหว่างนั้นก็ไม่ได้สังเกตหน้าแม่ค้า เพราะมัวมองดูแต่ลอตเตอรี่
ร.ต.ท.จรูญกล่าวอีกว่า จากนั้นมีพนักงานสอบสวนเรียกไปพบกับนายปรีชาครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2560 ที่บก.ภ.จว.กาญจนบุรี ครูปรีชา ได้แต่พูดว่า เราคงทำบุญร่วมกันมา จึงถูกรางวัล และจะแบ่งให้ตนแบบวินๆ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าอะไรแบ่งกันแบบวินๆ แต่ก็ไม่ได้พูดบอกว่าจะแบ่งกันคนละ 15 ล้านบาท เพียงแต่บอกว่าแบ่งกันแบบวินๆ เท่านั้น ซึ่งวันนั้นเราเองก็ไม่ยอมอยู่แล้ว ได้แต่นั่งฟังเขาพูดเฉยๆ เท่านั้น และไม่ได้พูดตอบโต้อะไร แต่คิดอยู่ในใจว่าเราเป็นคนซื้อมาและถูกรางวัล จะมาแบ่งอะไรแบบวินๆ เป็นใครก็ ไม่ยอม
เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงตำรวจบช. ภาค 7 ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า ก็ซึ้งในน้ำใจ เขาคงเห็นว่าเราเป็นแค่ตำรวจเก่าๆ เขาเป็นตำรวจรุ่นใหม่ ตนเจอแบบนี้ตั้งแต่วันแรก จึงไปพึ่งกระทรวงยุติธรรม พึ่งดีเอสไอ อย่างไรก็ตามนายษิทรา เคยบอกว่ามีการกระทำเป็นขบวนการ ซึ่งตนก็เชื่อเช่นนั้น จึงอยากเรียกร้องให้เอาหน่วยงานที่เป็นกลางจริงๆ ลงมาทำคดี ลงมาหาข้อมูลว่าใครกันแน่ที่ผิดหรือถูก ไม่ต้องมาเชื่อตน แต่ให้พิสูจน์ให้ความจริงปรากฏก็พอ
ร.ต.ท.จรูญกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนยอมทำตามเจ้าหน้าที่มาโดยตลอดเช่นการไปตรวจดีเอ็นเอ ผลก็ออกมาแล้ว และหากต้องการให้ไปเข้าเครื่องจับเท็จอีกครั้งหนึ่งตนก็พร้อม ทุกเมื่อ ขอให้บอกว่ามาว่าจะให้ไปทำอะไร ทั้งนี้อยากจะฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่าขอให้ส่งหน่วยงานที่มีอำนาจและมีความยุติธรรมช่วยลงมาดูคดีนี้ด้วย
“เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในฐานะที่เราเป็นคนไทย เป็นพุทธศาสนิกชน นับถือศาสนาพุทธ วันที่ 11 ก.พ. ผมและครอบครัวจะไปแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการไปสาบานต่อหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดกาญจนบุรี ว่าหากโกหก หรือปั้นเรื่องปั้นราวขึ้นมา ก็ขอให้ครอบครัวผมล่มจมไปเลย และอยากท้า ครูปรีชา รวมทั้งแม่ค้าขายลอตเตอรี่ ที่เป็นพยาน หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ เข้าข้างฝ่ายตรงข้าม ไปร่วมสาบานพร้อมกัน หากใครโกหกก็ขอให้ล่มจมเช่นกัน” ร.ต.ท. จรูญกล่าว
วันเดียวกัน นายปรีชา ใคร่ครวญ เปิดใจภายหลังตำรวจชี้ชัดว่าเป็นเจ้าของลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ว่า ที่ผ่านมาโดนกระแสสังคมวิจารณ์อย่างหนัก แต่ที่ ไม่ออกมาตอบโต้เพราะเชื่อว่าทุกคนฟังความข้างเดียวอยู่ ซึ่งความจริงเสพสื่อแล้วต้องพิจารณาด้วยว่าอีกคนที่ถูกวิจารณ์จะรู้สึกอย่างไร แต่ตนพร้อมให้อภัยและอโหสิกรรมทุกคน ตอนนี้แค่ต้องการตามหาลอตเตอรี่ของตัวเอง และอยากให้รอดูความจริงก่อน
เมื่อถามถึงกรณีตำรวจแถลงยืนยันว่าเป็นเจ้าของหวย 30 ล้าน ครูปรีชากล่าวว่า รู้สึกดีใจและสบายใจ โดยผบช.ภ.7 ชี้แจงได้ชัดเจน ในส่วนของร.ต.ท.จรูญ ที่ท้าไปสาบานต่อหน้าศาลหลักเมืองนั้น ขอบคุณที่เชิญไปสาบาน แต่อยากให้ลุงจรูญเก็บคำสาบานไปสาบานตอนขึ้นศาลดีกว่า
เมื่อถามถึงกรณีมีกลุ่มชายฉกรรจ์มารับตัวถึงโรงเรียนหลังตำรวจแถลงผลสรุป ครูปรีชากล่าวว่า ตนทำหนังสือถึงผกก.สภ.เมือง กาญจนบุรี เพื่อให้ส่งตำรวจมาดูแลความปลอดภัยและมารับกลับบ้าน ที่ตำรวจมา รับกลับบ้านเพราะมีคนมารอหน้าห้อง จำนวนมาก ตำรวจทำหน้าที่ตามที่ขอความอนุเคราะห์ไป
“ขอบคุณประชาชนทั้งประเทศในเรื่องหวย 30 ล้าน เพราะถือเป็นคดีตัวอย่าง คดีเล็กๆ ที่ครูคนหนึ่งทำหวยหาย คดีนี้ทำให้ประชาชนมีความรู้เรื่องคดีความ และการต่อสู้คดีตามความเป็นจริง โดยสิ่งที่เกิดขึ้นต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยค้นหาข้อเท็จจริงและค้นหาผู้กระทำความผิด”
เมื่อถามถึงสาเหตุที่ขอแบ่งเงิน 30 ล้านบาท ครูปรีชาชี้แจงว่า เมื่อวันที่ตำรวจเชิญลุงจรูญและครูปรีชาไปพบที่สภ.เมืองกาญจนบุรี ตอนนั้นได้ตกลงกัน เบื้องต้นโดยลุงจรูญ ระบุจำแม่ค้าและรายละเอียด อื่นๆ ไม่ได้ ตำรวจจึงให้ไปตกลงกันเอง 2 คน โดย การตกลงครั้งนั้นก็คุยกันด้วยดี ซึ่งหากลุงจรูญเก็บหวยได้ก็ยินดีตามเงื่อนไขที่เสนอ ก่อนลุงจรูญจะบอกแบ่ง 50/50 แบ่งกันคนละ 15 ล้าน ส่วนตัวคิดว่าตัวเองโชคไม่ดีและลุงจรูญโชคดีที่เก็บได้ หากลุงจรูญยอมรับว่าเก็บได้จริงก็ไม่ต้องมีคดีและไม่ต้องขึ้นศาล โดยเงิน 15 ล้านบาทก็มาก ตอนนั้นลุงจรูญก็โอเค แต่ขอปรึกษาภรรยานอกห้องก่อน จากนั้น 15 นาทีลุงจรูญก็เข้ามาแล้วบอกว่าภรรยาไม่ยอม ทำให้ต้องแจ้งความดำเนินคดี
เมื่อถามถึงเรื่องคดีความมีความพร้อม แค่ไหน ครูปรีชากล่าวว่า สำหรับคดีอาญาและคดีแพ่ง โดยได้ฟ้องคดีแพ่งไปแล้ว ทางทนายมีพยานหลักฐานพร้อม และรอเข้าสู่กระบวน การศาล มั่นใจเพราะเราของจริงของแท้
ด้านนางปณัญชยา สุขผล หรือเจ๊เกียว ผู้ค้าสลากรายใหญ่ของจังหวัดกาญจนบุรี พยานคนสำคัญของฝ่ายครูปรีชา กล่าวว่า ดีใจกับครูปรีชา กรณีนี้ยังพิสูจน์ว่าแม่ค้าลอตเตอรี่ไม่ได้เป็นแก๊ง 18 มงกุฎ หรือเป็นขบวนการต้มตุ๋นตามที่กล่าวอ้าง และสิ่งที่ได้พูดไปทั้งหมดคือความจริง ทั้งนี้ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งมั่นใจว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเชื่อมั่นว่าศาลจะให้ความยุติธรรมในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่สังคมออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ตนรวมทั้งฝ่ายครูปรีชาในด้านลบ ก็ขอให้ผู้ที่เสพสื่อใช้วิจารณญาณในการติดตามข่าวสาร และอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ โดยขอยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง ถึงแม้ตนไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้ละโมบอยากได้ของใคร
ส่วนกรณีที่ ร.ต.ท.จรูญ ท้าให้ไปสาบานนั้น บอกเลยว่าเจ๊เกียวเป็นลูกเมืองกาญจน์ เป็นลูกแม่น้ำแคว และเป็นลูกศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอยู่แล้ว ดังนั้นจะให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้ ไม่ได้กลัว และพร้อมที่จะไปสาบาน โดยเชื่อว่าแม่ค้าลอตเตอรี่ทั้งหมด ก็พร้อมที่จะไปสาบานด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาที่ต้องไปขึ้นศาลก็ต้องสาบานอยู่แล้ว แต่คำสาบานไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครผิดใครถูก ซึ่งศาลเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย
ขณะที่พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก ร.ต.ท.จรูญมาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
ด้านพ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี นำกำลังลงพื้นที่ ตลาดสดเรดซิตี้ เพื่อติดตามหากล้องวงจรปิด ตามที่ทางครูปรีชากล่าวอ้างว่ามี แต่ยังไม่ พบกล้องดังกล่าวแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่พบเพียงแค่ขาเหล็กสำหรับติดกล้องวงจรปิด ที่ติดเอาไว้ที่เสาไฟฟ้าบริเวณใกล้กับศาล พระพรหมเท่านั้น แต่แม่ค้าที่อยู่บริเวณ ดังกล่าวบอกว่า กล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ ถูกเก็บไปแล้วตั้งแต่ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา