โพสต์โดย : Admin เมื่อ 4 พ.ค. 2560 06:53:13 น. เข้าชม 166437 ครั้ง
ออกหมายเรียก “พ.ต.ท.” โยงคดีกาม ด.ญ. รวมตร. 5 นาย-ครูอีก 1 คนด้วย นัดมา รับทราบข้อหา 5 พ.ค. นี้ ต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อน ด้านรองผบ.ตร.เค้นสอบ 5 พ่อเล้าแม่เล้ายังปฏิเสธ ยันไม่รู้จักผู้ว่าฯ-บิ๊กตร. อ้างมีลุงรู้จักกัน-บอกรู้จักรองผู้ว่าฯช่วยเคลียร์คดีได้ ตร.เร่งสอบขยายผลถึงด้วย แม่เหยื่อแฉมีเด็กถูกลวงอีกกว่า 20 คนที่ไม่ออกมาร้องเรียน ด้านสภาวัฒนธรรมแม่ฮ่องสอนจี้ปลัดมท. ย้ายปลัดอำเภอแม่สะเรียง หลังกล่าวหามีการจัดหา เด็กให้บริการขรก.ในงานเลี้ยงต้อนรับ
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่บก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผบช.ภ.5 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ด.ญ.ถูกลวงค้ากามในจ.แม่ฮ่องสอน ก่อนให้การอ้างมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และตำรวจร่วมซื้อบริการ จากนั้นออกหมายจับพ่อเล้าแม่เล้า 5 คนและถูกคุมตัวมาสอบสวน
ต่อมาพล.ต.ต.มนตรี เดินทางไปยังสภ.เมือง แม่ฮ่องสอน เพื่อสอบปากคำตำรวจ สภ.กองก๋อย ที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ ประกอบ ด้วย ส.ต.อ.นิรันดร์ สายจันทร์ ส.ต.ต.พิทักษ์ สมกุล และส.ต.ท.เพชร เตชะโอฬาร ตำรวจสังกัด สภ.กองก๋อย จ.แม่ฮ่องสอน
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รายงานความคืบหน้าคดีกับพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พร้อมเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อพิจารณาอนุมัติหมายจับตำรวจยศ “ส.ต.ท.” ชื่อย่อ “จ.” ตำแหน่งผบ.หมู่ สังกัดบก.ภ.จ.แม่ฮ่องสอน และทำหน้าที่พลขับให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสังกัดบช.ภ.5 และ “พ.ต.ท.” ชื่อย่อ “พ.” ตำแหน่งอยู่ในสังกัดบช.ตชด.
นอกจากนี้ชุดสืบสวนยังได้ยื่นขอศาลออกหมายจับตำรวจอีก 3 นาย ยศ “พ.ต.ท.” ชื่อย่อ “ม.” ตำแหน่งรองผกก.สังกัดบช.ภ.5 ยศ “ร.ต.ท.” ชื่อย่อ “อ.” ตำแหน่งผบ.ร้อยนปพ. และตำรวจยศ “ด.ต.” ชื่อย่อ “บ.” ตำแหน่ง ผบ.หมู่ป.สภ.แห่งหนึ่งในจ.แม่ฮ่องสอน โดยพนักงานสอบสวนยื่นขอออกหมายจับตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 17.20 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์คุมตัว 5 พ่อเล้าแม่เล้าที่โดนออกหมายจับคดีนี้ ประกอบด้วย นายมงคล หรือแป๊ะ เกียรติภักดีพงศ์ อายุ 30 ปี, น.ส.ปัทมพร หรืออึง อิ่นแก้ว อายุ 31 ปี, น.ส.กนกวรรณ หรือม่อม รัตนภักดี อายุ 22 ปี, น.ส.ขวัญหทัย หรือตั๊ก ฤกษ์อุดม อายุ 39 ปี และน.ส.กัลยา หรือจอย วุฒิคุณ อายุ 40 ปี ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ อ.เมืองแม่ฮ่อง สอน มาสอบปากคำเพิ่มเติม
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ในคดีดังกล่าว สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน รับคดีไว้ 36 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ส่วนปคม.มี 1 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 คน ส่วนกรณีจะนำเหยื่อเข้าเครื่องจับเท็จเป็นเพียงวิธีการอย่างหนึ่งทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์คำให้การก่อนหน้านั้น กรณีที่มีกระแสข่าวว่าปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาจากความขัดแย้งของตำรวจ 2 กลุ่มนั้น เรื่องนี้ไม่ทราบ ส่วนกรณีที่พนักงาน สอบสวนขออนุมัติหมายจับตำรวจ 5 นาย และครูอีก 1 คน แต่ศาลไม่อนุมัตินั้น ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ออกเป็นหมายเรียกแทน เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมานาน และกำหนดให้นายตำรวจทั้ง 5 นายมาพบพนักงานสอบสวนในวันศุกร์ที่ 5 พ.ค. เวลา 09.00 น. ที่สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อรับทราบข้อหา และต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยทั้ง 5 นายมียศสูงสุดคือ “พ.ต.ท.” อีกทั้งเร็วๆ นี้เตรียมรวบ รวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะในพื้นที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน มี 33 คดี แต่ดำเนินการได้เพียง 3 รายเท่านั้น นอกจากนี้ดูข้อมูลเบื้องต้นคล้ายมีบุคคลพยายามช่วยเหลือ จึงสั่งการให้ตรวจสอบ
ด้านมารดาเหยื่อกล่าวว่า รู้จักผู้หญิงทั้ง 4 คนที่นำมาสอบปากคำ แต่นายมงคล ตนไม่รู้จัก ส่วนผู้ว่าฯ นั้น ยังยืนยันว่าเคยใช้บริการเด็ก โดยติดต่อผ่านแม่เล้าชื่อฟ้าที่ถูกจับไปก่อนหน้านั้น นอกจากนี้ยังมีเด็กตกเป็นเหยื่อที่ยังไม่ออกมาเรียกร้องกว่า 20 คน ซึ่งก็ไม่ทราบ
ขณะที่น.ส.กัลยา กล่าวว่า ยืนยันไม่รู้จัก รองผกก. ตำรวจหรือผู้ว่าฯ พร้อมยืนยันไม่เคยส่งเด็กไปขายบริการที่บ้านพักรองผบก.ด้วย โดยปฏิเสธไม่เคยติดต่อตำรวจหรือคนมีสี แต่ยอมรับเคยเห็นตำรวจบางนาย เนื่องจากจ.แม่ ฮ่องสอนพื้นที่แคบ ทั้งนี้ตัวเองทำงานสุจริตและไม่เคยพาเด็กไปขายบริการ โดยไม่รู้ว่าเด็ก ไปค้าประเวณี มั่นใจว่าตัวเองบริสุทธิ์และต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ
“ก่อนหน้านั้นฉันกับพวกไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐาน และเดินทางไปแจ้งที่ศูนย์ดำรงธรรม เนื่องจากได้รับความเสียหาย และมีพี่คนหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่ามีตำแหน่งอะไรในศูนย์ดำรงธรรมเป็นผู้เดินเรื่องพาไปแจ้งร้องทุกข์ ไปติดต่อกอ.รมน. ยืนยันอีกครั้งว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องค้าประเวณี” น.ส.กัลยากล่าว
ด้านน.ส.ปัทมพร กล่าวว่า ยืนยันไม่เคยรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี แต่ยอมรับว่ารู้จักกับน.ส.ฟ้าที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และรู้ว่าฟ้ารู้จักกับลูกสาวของผู้ที่ร้องทุกข์ในเรื่องนี้ ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปใครให้ทำอะไรก็ทำไปเรื่อยๆ แต่หลังจากมีเรื่องก็ได้รับการติดต่อจากลุงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนกินเหล้า แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่การงานเรียกแต่ว่าลุง โดยลุงบอกว่าเห็นข้อมูลกล่าวหาว่าตนและพวกเป็นแม่เล้าในพื้นที่ จึงอยากจะช่วยเหลือ ระหว่างที่ลุงพยายามติดต่อตนนั้น อ้างว่าแม่ของเหยื่อก็สวมรอยคุยแทน โดยระบุเป็นตน แต่ยืนยันไม่รู้จักกับลุงเป็นการส่วนตัว เชื่อว่าคงไม่ได้จะช่วยในเรื่องคดี แต่เป็นการสอบถามกันเฉยๆ โดยนัดเจอกับลุงพันที่รีสอร์ตในอ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อนำข้อมูลการสนทนาที่ถูกสวมรอยมาเป็นหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นน.ส.จอยและน.ส.อึง นำข้อมูลการสนทนาของลุงกับแม่เหยื่อมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ทำให้แม่เหยื่อนำข้อมูลการสนทนาในไลน์อันเดียวกันที่สนทนากับลุงแล้วสวมรอยเป็นน.ส.อึงมาแสดงเช่นกัน โดยอ้างว่าในการสนทนาชายที่ชื่อลุงได้กล่าวอ้างว่ารู้จักกับรองผู้ว่าฯคนหนึ่ง มีหน้าที่กำกับดูแลกอ.รมน. และเกี่ยวข้องกับการสอบสวนเรื่องนี้ มีอำนาจเสนอใช้มาตรา 44 จัดการเรื่องนี้ได้ และในการสนทนาคล้ายพยายามจะช่วยเหลือกลุ่มแม่เล้า ทั้งนี้หลังจากมีการนำข้อมูลมาเปิดเผยพล.ต.อ.ศรีวราห์ สั่งการบก.ปคม.ให้ตรวจสอบประเด็นชายที่ชื่อลุงว่าเป็นใคร ที่พยายามเข้ามาช่วยเหลือ กลุ่มผู้ต้องหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่นำตัวแม่เหยื่อ มาเข้าเครื่องจับเท็จ ที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตร. เพื่อยืนยันคำให้การว่าตรงกับที่ให้การกับ เจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้หรือไม่ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 5 รายในวันที่ 4 พ.ค.จะนำตัวไปฝากขังต่อศาล อาญา
วันเดียวกัน นางชุณห์พิมาน เชษฐ์เมทินี ผู้ทรงคุณวุฒิกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่งหนังสือถึงนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่ากรณีการค้าประเวณีที่ จ.แม่ฮ่องสอน ทางกลุ่มสตรี จ.แม่ฮ่องสอน มีความประสงค์ให้กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบบุคคลที่ได้กล่าวหาเกี่ยวกับการจัดเลี้ยงต้อนรับ ผวจ.แม่ฮ่องสอนในวันที่ 1 ต.ค.2559 ที่อาคารบุญชู ตรีทอง โรงเรียนห้องสอนศึกษา ซึ่งเป็นการกล่าวหาโดยปราศจากข้อเท็จจริงจากนายบุญฤทธิ์ นิปปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่สะเรียง จึงขอให้กระทรวงตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีการกล่าวหาคณะผู้จัดงาน เลี้ยงต้อนรับว่ามีส่วนจัดหาเด็กไปให้บริการแก่ข้าราชการ ซึ่งผู้จัดงานยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ นายบุญฤทธิ์เป็นเจ้าหน้าที่ปกครอง แต่ออกมาชี้นำกระบวนการยุติธรรม สามารถกระทำการดังกล่าวได้ด้วยหรือ ขอให้กระทรวง ตรวจสอบว่านายบุญฤทธิ์เป็นผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทยจริงหรือไม่ โดยขอให้มีคำสั่งย้ายนายบุญฤทธิ์ออกจากพื้นที่แม่ฮ่องสอนก่อน เพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบคดีต่างๆ และขอความเป็นธรรมให้กับนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ในทุกกรณี
อีกคดีที่บช.น. พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหยานนท์ รองผบช.น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.พิทักษ์ ปัญญาพร ผกก.สน.บุปผาราม แถลงจับกุมน.ส.ทิพยา หรือน้ำ สำอางศรี อายุ 20 ปี
พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่า น.ส. ทิพยาได้ชักชวนด.ญ.อายุ 14 ปี ผ่านเฟซบุ๊กและไลน์ โดยชักชวนให้มาค้าประเวณี ก่อนให้ด.ญ.ส่งรูปภาพมาให้ลูกค้าดูตัว หากลูกค้าพอใจจะนัดหมายให้นั่งแท็กซี่มาหา และแบ่งเงินกัน โดยด.ญ.ได้ 1,500 บาท ส่วนผู้ต้องหาได้ 500 บาท
จากการสอบสวนน.ส.ทิพยาสารภาพว่า ไม่ได้บังคับเด็ก สาเหตุที่ทำไปเพราะไม่มีเงินและเด็กต้องการหาเงินใช้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เคยเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อย่านวัดดาวดึงษ์ แต่ร้านดังกล่าวปิดตัวลง โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 5 ปีก่อนเคยขายบริการมาและเลิกหลังจาก มีลูก แต่น้องอยากได้เงินจึงชักชวนลูกค้าที่รู้จัก มาใช้บริการ โดยอ้างไม่ทราบว่าเด็กอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น