โพสต์โดย : Admin เมื่อ 23 ก.พ. 2560 07:40:09 น. เข้าชม 166394 ครั้ง
ภาพนักเรียนชั้นอนุบาลที่ถูกครูมัธยมทำโทษด้วยการใช้เทปกาวมัดข้อมือและปิดตา โพสต์ในโซเชียลมีเดีย |
วันนี้ ( 22 ก.พ. ) ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้า กรณีเพจในเฟซบุ๊กนามว่า DR.K. v.3 ได้โพสต์รูปภาพจำนวน 1 รูป พร้อมระบุข้อความว่า “เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ โรงเรียนบ้านสำโรง ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ วันที่ 20/2/2560 พ่อเด็กให้ข้อมูลตามนี้ ครูประจำชั้นเล่าให้ฟังครับว่า โดนครูมัธยมจับลงโทษด้วยการใช้สก๊อตเทปมัดมือและปิดตา โดยครูได้อ้างว่า น้องฉีกกระดาษหมดไป 3 รีม มีเพื่อนลูกสาวอีกคนก็โดนเหมือนกัน แต่ไม่มีภาพ ภาพที่ได้มาคือภาพหลุดคนถ่ายน่าจะเป็นครูประจำชั้นของน้อง”
นอกจากนี้ ยังมีข้อความเพิ่มเติมในโพสต์อีกว่า “ส่วนพ่อเด็กสงสัยว่า เด็กอนุบาล (ลูกสาว) ตัวแค่นี้จะเล่นฉีกกระดาษหมด 3 รีมเลยหรือ และครูมัธยมก็เลยทำโทษด้วยการใช้สก๊อตเทปมัดมือ และใส่กระดาษขาวปิดตาแล้วใช้สก๊อตเทปปิดตาลูกสาว เอาไว้อีกชั้นหนึ่ง แต่เด็กร้องไห้สะอื้นจนตัวสั่นทั้งตัว เพราะกลัวครูจะเอาไปส่งตำรวจ ตามที่ครูขู่เอาไว้ และ ครูได้มัดมือปิดตาเดินจากอาคารมัธยมมาอาคารอนุบาล ซึ่งเด็กก็กลัวไม่รู้ว่าจะโดนอะไรอีก เทปกาวปิดตาก็ไม่เอาออกให้เดินร้องไห้ตัวสั่นเพราะกลัว” ชื่อเฟซบุ๊ก Montri Yomrum พ่อของเด็กที่โดนทำโทษ
ชาวโลกออนไลน์ได้มีการแชร์โพสต์ดังกล่าวกันอย่างแพร่หลาย พร้อมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานากันอย่างกว้างขวาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว นั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังโรงเรียนบ้านสำโรง ม.10 ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเข้าพบ นายประทักษิณ เครือผือ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำโรง
นายประทักษิณ เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิด โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เมื่อตอนเที่ยงเด็กชั้นอนุบาล รับประทานข้าวก่อนเลยว่าง จากนั้นก็มาเล่นบริเวณอาคารเด็กมัธยม ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันก็เล่นไปทั่วตามประสาเด็ก จากนั้นไปหยิบกระดาษของครูพร้อมหลอดกาแฟมาเล่น ซึ่งกระดาษเป็นงานที่นักเรียนรุ่นพี่ทำส่งครู
พอครูกลับเข้ามาเห็นเลยถามไปว่าใครเป็นคนเล่น พี่ ม.3 กับ พี่ ป.6 บอกว่าเป็นน้องอนุบาล จากนั้นจึงให้พี่ ป.6 ไปตามน้องอนุบาลมา และ ถามนักเรียนชั้นอนุบาล ซึ่งยอมรับว่าตนเองเล่น ครูเลยสอนว่า ทำอย่างนี้ไม่ถูก และมีครูอีกคนมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น และนำเด็กไปห้อง ม.3 ซึ่งตัวเองสอนอยู่แล้วก็บอกกับเด็กอนุบาลในภาพว่า หนูทำอย่างไร ซึ่งพูดธรรมดาแบบสอนเด็ก ไม่มีการดุด่าและทำร้ายแต่อย่างใด
จากนั้นสอนทั้งเด็กโตและน้องอนุบาล การทำอย่างนี้มันเป็นสิ่งไม่ดี หากโตขึ้นไปทำอย่างนี้ตำรวจจะจับนะ ถ้าตำรวจจับจะต้องใส่กุญแจมือ และให้พี่ ม.3 สาธิตให้ดูโดยการนำผ้าเทปมาพันที่มือน้อง เพื่อให้รู้ว่าหากโดนใส่กุญแจมือจะเป็นอย่างนี้ และหากโดนจับจะต้องเอาไปติดคุกและจะมองไม่เห็นหนทาง ก็ให้รุ่นพี่นำกระดาษทิชชูมาปิดตาและเอากระดาษกาวติดไว้ จากนั้นบอกว่า ต่อไปอย่าทำอีกนะ ทั้งรุ่นพี่ด้วย เป็นการสอนกันเรื่องก็จบ
จากนั้นให้รุ่นพี่พาไปส่งที่ห้องอนุบาล และบอกคุณครูประจำชั้นด้วยว่าน้องเขาทำผิดแบบนี้นะ พอพาไปส่งถึงห้องรุ่นพี่ลืมแกะผ้าเทปออก ครูชั้นอนุบาลเห็นจึงบอกว่า หนูทำไมทำอย่างนี้ ทำรุนแรงเกินไปหรือเปล่า ก็เลยถ่ายรูปไว้
ในกรณีนี้ได้พูดคุยกับผู้ปกครองแล้วคนหนึ่ง ซึ่งเข้ามารับเด็กและเห็นลูกตัวเองโดนเทปกาวรัดมือ พร้อมสอบถามครูประชั้นถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ครูได้เล่าให้ฟังจนเป็นที่เข้าใจ ไม่ติดใจเอาเรื่องเอาความแต่อย่างใด แต่ผู้ปกครองที่ไม่เห็นตอนเช้าได้เข้ามาและบอกว่าครูทำไมทำรุนแรงกับเด็ก ถึงขั้นรัดมือปิดตาเด็ก คุณครูชี้แจงให้ฟังที่แรกก็ไม่เอาความ จากนั้นกลับไปทำงาน
แต่พอผู้เป็นแม่ของเด็กหญิงที่ปรากฏในภาพเห็นรูปลูกสาว รับไม่ได้มันรุนแรงกับลูกเกินไป ซึ่งรูปที่ปรากฏออกไปถ่ายตอนที่เด็กนอนลงคล้ายบาดเจ็บ จริงแล้วไม่มีการทำร้ายแต่อย่างใด แต่เด็กตกใจบ้าง ไม่ถึงขั้นเสียขวัญไป
นายประทักษิณ เล่าต่อว่า ตามที่ตนได้สอบถามมาทั้งหมด เรื่องที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นการสอนเด็กธรรมดา เพียงแต่ว่า ผู้ที่เอารูปมาลงแล้วแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา โดยที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง จากนั้นไปขยายความให้เกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งต่อไปตนต้องรายงานข้อเท็จจริงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร โดยต้องสอบถามให้เสร็จในวันนี้เพื่อที่จะได้รายงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและทางอำเภอต่อไป เพราะเรื่องนี้ได้ปรากฏในโลกโซเชียลมีเดียเยอะมากเลยเป็นห่วง
อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรเลย ด้านผู้ปกครองก็ได้พูดคุยเข้าใจทั้งหมด คนที่นำไปโพสต์ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอได้ชี้แจงก็มีความเข้าใจและขอโทษพร้อมลบโพตส์ออกแล้ว ผู้ที่นำรูปไปโพสต์ก็เป็นแม่ของเด็ก ซึ่งทำงานต่างจังหวัด แต่ได้มีการพูดคุยให้เข้าใจแล้วว่าไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น มันเป็นแสดงบทบาทสมมุติของครูกับนักเรียนที่สอนเด็ก ซึ่งผู้ปกครองเด็กได้พูดคุยกันแล้วไม่มีการเอาเรื่องแต่อย่างใด และจะนัดคุยกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (23 กพ.) เพื่อให้เรื่องจบ
“ ขอยืนยันเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตนอยากขอโทษผู้ปกครองและผู้ที่ดูภาพดังกล่าว เจตนาของโรงเรียนเพื่อสอนเด็กให้เป็นคนดีเต็มเปี่ยม แต่ว่าบางทีภาพที่ออกไปไม่ได้บรรยายขยายความก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ พร้อมอยากขอโทษผู้ปกครองและทุกคนทั่วประเทศที่ได้ดูภาพ ให้เข้าใจในเจตนาของครูที่ต้องการสอนเด็ก และขอโทษทุกภาคส่วนที่เห็นภาพนี้แล้ว ทำให้เกิดความไม่สบายอกสบายใจ ขอยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิด” นายประทักษิณ กล่าวย้ำ
ด้าน นางสาวอรุณรัตน์ เสงี่ยมทรัพย์ อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ที่ 1 บ.สำโรง ต.ศรีณรงค์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ผู้เป็นแม่ของน้องอนุบาลที่ปรากฏภาพในโซเชียลมีเดีย เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเบื้องต้นได้คุยกับทางโรงเรียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้างแล้ว ยังไม่ได้มีการเอาความแต่อย่างใด ซึ่งจะนัดพูดคุยกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้(23 ก.พ.)ที่โรงเรียนบ้านสำโรง เพื่อหาข้อยุติ ซึ่งผู้เป็นแม่ เห็นภาพลูกตัวเองในลักษณะดังกล่าวมันไม่สามารถรับได้
| ||
ที่มา :http://www.unigang.com/Article/41334