โพสต์โดย : Admin เมื่อ 20 ต.ค. 2566 01:45:46 น. เข้าชม 188662 ครั้ง
ผู้ปกครองพา ลูกสาว ม.5 ขึ้นโรงพัก แจ้งความครูพละหื่น วิดีโอคอลช่วยตัวเองให้ดู คาใจฝ่ายปกครองสั่งลบรูป-ห้ามบอกผู้ปกครอง เชื่อมีนักเรียนอีกหลายคนโดน
ผู้ปกครองรายหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าลูกสาวของตนซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ถูกครูผู้ชายซึ่งเป็นครูสอนวิชาพละ กระทำอนาจาร โดยการโทรวิดีโอคอล มาหาลูกพร้อมกับช่วยตัวเองโชว์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ลูกสาวไม่กล้าบอกผู้ปกครอง เนื่องจากไปแจ้งกับฝ่ายปกครองของโรงเรียน และครูฝ่ายปกครองให้เด็กนักเรียนลบรูปและคลิปที่มี รวมไปถึงสั่งห้ามบอกผู้ปกครอง
แต่เรื่องมาแดงขึ้น เพราะผู้ปกครองไปเปิดโทรศัพท์ลูกดู และพบว่าลูกมีการเซฟรูปภาพ ที่แคปหน้าจอตอนที่ครูพละหื่นคนดังกล่าววิดีโอคอลมา สอบถามจนทราบว่าครูคนนี้ทำแบบนี้หลายครั้งแต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่เนื่องจากกลัวมีผลกับการเรียนและตั้งใจจะบอกตอนที่เรียนจบ ม. 6
พอผู้ปกครองทราบเรื่องจึงพาเข้าแจ้งความ และเดินทางไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด โดยมีรอง ผอ.เป็นคนรับเรื่องและยืนยันว่าจะตั้งกรรมการสอบเรื่องดังกล่าว
โดยแม่ของน้องนักเรียนชั้น ม. 5 บอกว่ารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ที่ตนเองไว้ใจในการส่งลูกไปเรียน จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ สิ่งที่คาใจคือทำไมฝ่ายปกครองจึงไม่โทรบอกผู้ปกครองตั้งแต่ที่ลูกไปแจ้งเรื่องให้รู้ และยังบอกให้ลูกตนลบรูปลบวิดีโอออก กำชับไม่ต้องบอกผู้ปกครอง แบบนี้จะยังไว้ใจครูโรงเรียนได้หรือไม่ ซึ่งการตั้งกรรมการสอบและย้ายครูที่ก่อเหตุไปอยู่ที่อื่น หากยังคงเป็นข้าราชการครูอยู่ ก็มีโอกาสทำแบบนี้กับเด็กนักเรียนคนอื่นอีก เพราะตอนนี้ที่รู้มีเพียงลูกสาวตน และเพื่อนอีก 1 คน ที่โดนในลักษณะเดียวกัน เป็นไปได้ควรลาออกจากข้าราชการครู
ขณะที่นายณัฐพร ลุงของนักเรียนชั้น ม. 5 บอกว่า หากพ่อแม่ของน้องไม่ไปเปิดโทรศัพท์เจอ ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องจะบานปลายไปถึงไหน ตอนนี้แม้จะมีเพียง 2 คน ที่เข้าแจ้งความ แต่ตนเองเชื่อว่า น่าจะมีเด็กนักเรียนคนอื่นอีกที่เคยเจอแบบนี้ หลานของตนยังไม่ได้วางแผนจะย้ายโรงเรียน แต่เพื่อนของหลาน ผู้ปกครองยืนยันที่จะย้ายโรงเรียนแล้ว แต่ในมุมมองของตน คิดว่าเปิดเทอมมาไม่ควรเจอครูพละคนนี้อยู่ในโรงเรียนอีก และอยากให้หน่วยงานต้นสังกัดเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะเป็นอันตรายกับเด็กคนอื่นๆ
ทั้งนี้เมื่อสอบถามไปยัง นักเรียนชั้น ม.5 ผู้เสียหาย บอกว่า เหตุการณ์เกิดตั้งแต่มีนาคม ตอนนั้นตกใจ ไม่ได้มีการแคปรูปภาพไว้ พอเหตุการณ์เกิดอีกครั้งในเดือนต่อมา ตอนนั้นยังตั้งสติไม่ได้ จนกระทั่งเดือนมิถุนายน ครูพละคนดังกล่าวยังคงวิดีโอคอลมาเช่นเคย ครั้งนี้ตั้งสติได้จึงแคปรูปภาพไว้ แต่ได้ไปแจ้งกับครูฝ่ายปกครองตั้งแต่แรก ครูให้ลบรูปภาพและถามว่าผู้ปกครองทราบเรื่องแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ต้องบอกผู้ปกครอง แล้วฝ่ายปกครองจะเป็นคนจัดการเรื่องดังกล่าวเอง
ตนจึงวางใจ ประกอบกับความกลัวในเรื่องของผลการเรียนที่จะได้รับผลกระทบ จึงไม่ได้บอกผู้ปกครองแต่มีการเตือนเพื่อนๆ ด้วยกันให้ระมัดระวัง เนื่องจากเคยมีอยู่วันหนึ่งครูได้โทรตามให้ไปเอาเอกสารที่ห้อง ตนพาเพื่อนไปด้วย เลยไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่ถ้าหากเปิดเทอมไปตนยังเจอครูคนนี้อีก ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเพื่อนอีกคนทำเรื่องย้ายโรงเรียนไปแล้ว