ทึ่ง! ด.ญ.ชั้น ป.5 เมืองหมอแคนสร้างชื่อกระหึ่ม คว้ารางวัลวิจัยระดับโลก พ่อเมืองปลื้มชมเปาะ
วันที่ 26 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรานงานว่า เป็นที่ฮือฮาและทึ่งวงการการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ระดับปริญญาโท-เอก ที่นักเรียนระดับประถมศึกษาสามารถสร้างงานบทความโครงงานวิจัยและนำเสนอให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติ อันสร้างชื่อเสียงให้กับชาวขอนแก่นในเวทีระดับโลก เพราะเป็นนักวิจัยที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถแสดงศักยภาพ และนำเสนองานวิชาการได้อย่างน่าชื่นชม จากงานวิจัยทั่วโลกที่ส่งชิง 142 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการ นักศึกษา ป.โท-ป.เอก กว่า 200 คน 21 ประเทศ และยังได้รับความสนใจจากผู้สื่อข่าวหลายๆ ประเทศ
ซึ่งที่ห้องทำงานศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ชั้น 4 ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ได้แสดงความยินดีพร้อมยกย่องชื่นชม ด.ญ.อริสา อิวาย นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนเมทนีดลขอนแก่น ที่คว้ารางวัลนำเสนองานวิจัยดีเด่นผลงานวิชาการด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืน ซึ่งจัดที่มหาวิทยาลัย Yezin Agricultural University มหาวิทยาลัยอันดับ 1 เมืองเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา โดยมีนายสุวัฒน์ชัย แสนราช รองศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น น.ส.จิรดา พูลสวัสดิ์ ปชส.จังหวัดขอนแก่น ดร.อรทัย สันติเมทนีดล ผอ.ร.ร.เมทนีดล และคณะครูร่วมชื่นชมยินดี
ดร.สมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องขอชื่นชมน้องอริสา นั่นก็คือแรงบันดาลใจของน้องๆ เด็กนักเรียนรุ่นใหม่ ซึ่งยังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยที่น้องอริสา บอกว่า แรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ในการที่เห็นพระองค์ท่านนั้นทุ่มเทพระวรกายในการศึกษาเรื่องดินและน้ำ แล้วจึงนำมาใช้ในการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนเมทนีดลแห่งนี้ ที่สำคัญผู้ปกครองเป็นตัวอย่างที่นำมาสู่การที่ลูกหลานของเราเป็นคนดี ในด้านการศึกษา รวมถึงการจัดทีมให้มีสิ่งที่ทำให้เด็กนั้นกล้าแสดงออก สำหรับเยาวชนของคนไทยทั้งประเทศที่เราจะต้องนำเอาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวนั้นคือเรื่องสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวมากที่สุด ที่มีให้เห็นอยู่แล้วก็ในภาคอีสาน นั้นจะได้ได้นำประเด็นนี้ขึ้นมาศึกษา นำองค์ความรู้ที่เรามีอยู่มาศึกษาต่อเนื่องกัน และที่สำคัญกับสิ่งที่เราเห็นวันนี้คุณทำดี เป็นสื่อการสอนโดยใช้ภาษาต่างประเทศ เป็นสิ่งที่เพิ่มขีดความสามารถของเราการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ แล้วโดยเฉพาะในวันข้างหน้านั้นแต่เรื่องการสื่อสารกับประเทศอื่น อีก มันเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
ด้าน ด.ญ.อริสา กล่าวว่า ตนมี 2 แรงบันดาลใจ นั่นคือแรงบันดานใจแรกของตนก็คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านเป็นเป็นบิดาแห่งทรัพย์ด้านการจัดการทรัพยากรดินและน้ำ เพราะเห็นท่านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนหาทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ ดังนั้นตนและเพื่อนๆ จึงสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน ส่วนแรงบันดาลใจที่ 2 ก็คือคุณแม่ ซึ่งท่านเป็นอาจารย์สอนที่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทุกครั้งที่แม่ไปงานประชุมนานาชาติศูนย์วิชาการแล้วก็สอนเพศศึกษาด้วย ในการที่ได้มีโอกาสติดตามคุณแม่ ทำให้มีความรู้ แล้วนำแนวความรู้ที่ได้คิดมาทำงานวิจัย ตนคิดอยู่เสมอว่า ถ้าเราทำดีย่อมได้ดี ถ้าทำด้วยความรักหัวใจรับผิดชอบ มีความตั้งใจ จะทำได้ดีเสมอ
ขณะที่ น.ส.อรทัย กล่าวว่า ด.ญ.อริสา เป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนเมทนีดล และมีแรงบันดาลใจจากตนเองในการริเริ่มเรียนรู้ เสนอการดำเนินงานโครงการจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน โดยการจัดการขยะในโรงเรียน นำมาทำปุ๋ยไส้เดือนดินในโรงเรียนเมทนีดล ถือเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีมากตามปรัชญาโรงเรียนและแนวทางเรียนรู้คิดเป็นด้วยตนเอง (Active Learning) ของโรงเรียนอีกด้วย โดยที่ตนและคณะคุณครูเห็นด้วยและสนับสนุนโครงการลงมือปฏิบัติทั้งโรงเรียนแต่ไม่เพียงเท่านั้น น้องอริสายังแจ้งว่า หนูสนใจอยากเขียนบทความทางวิชาการ
ดร.อรทัย กล่าวอีกว่า ได้นำประเด็นการใช้ประโยชน์ของเสียสิ่งเหลือทิ้งจากการใช้ในโรงเรียน ส่งงานวิจัยร่วมระดับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำ และคุณแม่ของน้องอริสาจึงประสานงานกันเพื่อเป็นเสมือนพี่เลี้ยงและเปิดโอกาสให้ทั้งนี้น้องอริสาและเพื่อนนักเรียนตรวจงานปุ๋ยไส้เดือนดินทุกวันที่สวนของโรงเรียน ทั้งเข้าศึกษาดูงานที่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทั่งผลงานบทความเสร็จสิ้น พร้อมนำเสนอด้วยตนเองที่ประเทศเมียนม่า ทุกคนปลื้มใจและภูมิใจมากที่อริสานักเรียนของเราเป็นนักวิจัยวัยเยาว์และคว้ารางวัลนำเสนอวิจัยได้อีกด้วย ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณผู้จัดงานที่เปิดโลกทัศน์ให้นักเรียนระดับประถม
ทางด้านนางหนูเพียร รักเชื้อ อายุ 45 ปี แม่ครัวประจำโรงเรียนเมทนีดล กล่าวว่า ด.ญ.อริสา เป็นเด็กที่มีความขยันและตั้งใจที่อยากจะนำโครงการปุ๋ยไส้เดือนดินมาช่วยลดปัญหาปริมาณเศษอาหาร จากการประกอบอาหารและเหลือจากการรับประทานอาหารกลางวันของนักเรียนที่มีปริมาณมากในทุกวัน ซึ่งทางแม่ครัวเองก็ได้นำปุ๋ยมาใช้ในการปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อนำใช้ในการประกอบอาหารกลางวันให้เด็กๆ และบุคลากรได้อิ่มอร่อยกับผักที่ปลอดสารพิษถือเป็นโครงการที่ดีอีกโครงการหนึ่งที่ดีมากๆ ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมและงานห้องครัวในโรงเรียนได้อย่างดีเยี่ยม