โพสต์โดย : Admin เมื่อ 24 ม.ค. 2561 07:40:21 น. เข้าชม 166451 ครั้ง
จากกรณีไลน์หลุด ผอ.รร.แห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ของโรงเรียน พร้อมส่งข้อความหวานซึ้ง ต่างฝ่ายต่างเรียกกันว่า “ที่รัก” และ ผอ.เรียกนักเรียนหญิงว่า “เมีย” ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ม.ค. สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ได้มีการสั่งย้ายผอ.โรงเรียนคนดังกล่าวเร่งด่วน พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง รายงานผลภายใน 7 วัน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ม.ค. นายศุภพงษา จันทรังษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ประธานกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำกรรมการสถานศึกษา 4 คน นักเรียนชาย ม.3 ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของน้องนักเรียนหญิง ม.2 และเพื่อนสนิทในชั้นเรียนอีก 2 คน เบื้องต้นพบว่ามีมูลความจริงที่เข้าข่ายว่า ผอ.คนนี้มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับนักเรียนหญิง ม.2 ลักษณะ ผอ.ให้ความสนใจน้องนักเรียนคนนี้เป็นพิเศษ ชอบพาไปไหนมาไหนแบบ 2 ต่อ 2
นายศุภพงษา กล่าวต่อว่า วันนี้กรรมการฯจะลงพื้นที่สอบปากคำพยานเพิ่มเติม เป็นครูประจำชั้น ครูผู้ควบคุมกิจกรรมออกค่ายลูกเสือ รวมถึงเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ อีก เพื่อหาข้อมูลอย่างละเอียด ขณะเดียวกันหากนักเรียนหญิง ม.2 มาโรงเรียน จะได้สอบปากคำเจ้าตัวในฐานะผู้เสียหายโดยตรง และเปิดโอกาสให้ ผอ.ชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม พบว่าวันนี้ ผอ.คนดังกล่าว ได้ติดต่อครูธุรการของโรงเรียนเพื่อขอลาป่วยเพิ่มอีก 1 วัน และยังไม่ติดต่อมารายงานตัวต่อสำนักงานเขตพื้นที่นครราชสีมาเขต 6 แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านั้นผอ.โรงเรียนฉาวรายนี้ เคยดำรงตำแหน่งเป็น ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.บัวใหญ่ และเมื่อปี 2559 ได้มีคดีอื้อฉาวคบชู้กับเด็กนักเรียนหญิง ชั้น ป.6 ในลักษณะนี้เช่นกัน จนทำให้ภรรยาของผอ.ไม่พอใจต้องขอเลิกร้างกันไป และมีการย้ายผอ.ไปช่วยราชการที่ สพป.นม.เขต6 เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ต่อมามีกระแสข่าวว่าผอ.คนดังกล่าว ก็ได้วิ่งเต้นให้คดีจบโดยได้เสนอเงินสด 2 แสนบาท ให้ครอบครัวของเด็กหญิงเพื่อขอให้จบเรื่องฉาวนี้เสีย
หลังจากนั้น ไม่นานก็ได้มีคำสั่งย้ายให้มาเป็น ผอ.โรงเรียนดังกล่าว เมื่อเดือน ต.ค. 2560 ซึ่งขณะนั้นคณะกรรมการโรงเรียน และชาวบ้านก็ได้ทำหนังสือคัดค้านการย้ายมา เพราะรู้เรื่องราวอื้อฉาวของ ผอ.รายนี้มาแล้ว แต่ด้วยความที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีเด็กนักเรียนเพียง 83 คน และยังหา ผอ.โรงเรียนคนอื่นมาแทน เนื่องจาก ผอ.คนเก่าที่เกษียณไม่ได้ จึงต้องจำยอมรับให้มาเป็น ผอ.ในที่สุด ซึ่งขณะนั้นผอ.ก็เคยพูดกับคณะกรรมการโรงเรียนว่า ตนก็รู้ว่าทุกคนไม่พอใจ แต่ก็จะขอปรับปรุงพฤติกรรมตัวเองใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ด้านครอบครัวของเด็กหญิง ม.2 ก่อนหน้านั้นแม่แท้ๆได้ทำอาชีพก่อสร้าง ซึ่งต้องเช่าห้องอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง และได้คบหากับสามีใหม่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว จึงทำให้เด็กหญิง ม.2 ไม่อยากอยู่บ้านกับพ่อเลี้ยงใหม่ และได้หนีไปอยู่กับครอบครัวของแฟนหนุ่ม ม.3 โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งแม่ของเด็กหญิงรู้เรื่องเข้าจึงได้ตกลงยกลูกสาวให้เป็นลูกบุญธรรมของแม่เด็กชาย ม.3 ตั้งแต่นั้นมาแม่ของเด็กชาย ม.3 ก็รักและเอ็นดูเด็กหญิง ม.2 เหมือนลูกสะใภ้จริงๆ
โดยอนุญาตให้ลูกชายคบกับเด็กหญิง ม.2 อย่างเปิดเผย เพราะอยู่โรงเรียนเดียวกัน กลับบ้านก็มาช่วยที่บ้านทำงานเป็นประจำ จนกระทั่งช่วงปลายปี 2560 เมื่อ ผอ.โรงเรียนคนนี้เข้ามาอยู่ ก็เริ่มมีการติดต่อพูดคุยกับเด็กหญิง ม.2 จนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้นไปหลับนอนในรีสอร์ทด้วยกัน กระทั่งเด็กชาย ม.3 แฟนหนุ่มจับได้จากแชทไลน์ จึงทำให้แม่ฝ่ายเด็กชายได้มีการนำเรื่องมาเปิดเผย เพื่อแฉพฤติกรรมของ ผอ.โรงเรียนฉาวให้สังคมได้รับรู้ จนกลายเป็นข่าวใหญ่ในขณะนี้
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_721239