โพสต์โดย : Admin เมื่อ 14 ก.ค. 2560 13:16:10 น. เข้าชม 166449 ครั้ง
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม นายกิติพงค์ พร้อมวงค์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม ที่มีนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือถึงการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่า เรื่องที่ต้องทำเร่งด่วน คือ การเพิ่มจำนวนผู้เรียนสายวิทยาศาสตร์ การขยายห้องเรียนวิทย์ การขยับคนภาคการศึกษาที่ทำงานวิจัยแก่ภาครัฐเข้าสู่ภาคเอกชน การจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการทุนการศึกษาภาครัฐ และการจัดทำศูนย์ข้อมูลหลักบุคลากรรองรับวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาประเทศ
“ในส่วนการขยายฐานบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ได้กำหนดเป้าหมายทำงาน 2 ส่วนคือ การเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายวิทยาศาสตร์และสายสังคมศาสตร์ ปัจจุบันอยู่ที่ 30: 70 เป็น 60:40 ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งนพ.ธีระเกียรติ มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปดำเนินการ ส่วนการเพิ่มเด็กผู้มีความสามารถพิเศษเข้าสู่ระบบ ปัจจุบันสถานศึกษาผลิตผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ อยู่ที่ประมาณ 8,000 คนหรือคิดเป็น 1%ของจำนวนเด็กเข้าเรียนชั้นม.1ในปีนั้นๆ แต่จะเพิ่มเป็น 3% หรือประมาณ 20,000 คนต่อปี ตรงนี้จะใช้วิธีการขยายจำนวนห้องเรียนวิทยาศาสตร์มากขึ้น โดยเพิ่มจากที่มีอยู่ประมาณ 200 กว่าห้องในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็น 1,000 ห้องภายใน 2 ปี ขณะเดียวกัน จะพิจารณาปลดล็อกระบบการให้ทุนในบางกรณีเพื่อจูงใจให้เด็กสนใจด้านนี้มากขึ้น”เลขาธิการสวทน.กล่าวและว่า ที่ประชุมจะสรุปผลการหารือและเสนอให้ที่ประชุมสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาต่อไป
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์ วันที่ 13 กรกฎาคม 2560 - 12:22 น.
อ่านต่อ http://www.kroobannok.com/82434