แม่โวยลูกสาววัย 9 ขวบ ถูกครูตีก้นช้ำ ลูกผวาบอกกลัวไม่กล้ากลับไปเรียน ต้องย้ายหนี

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 24 พ.ค. 2560 14:47:16 น. เข้าชม 166452 ครั้ง

แม่โวยลูกสาววัย 9 ขวบ ถูกครูตีก้นช้ำ ลูกผวาบอกกลัวไม่กล้ากลับไปเรียน ต้องย้ายหนี

วันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากแม่ของ ด.ญ.วัย 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอ.เมือง จ.ราชบุรี ว่าถูกครูลงโทษด้วยการใช้ไม้เรียวตีก้นจนเขียวช้ำ ซึ่งแม่ของ ด.ญ.วัย 9 ขวบ เล่าว่าก่อนหน้านี้ได้ย้ายลูกสาวมาจากโรงเรียนใน ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาศึกษาภายในโรงเรียนแห่งนี้ ในระดับชั้น ป.3 ซึ่งโรงเรียนได้เริ่มเปิดเทอมเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ปกติก็จะไปส่งลูกสาวไปเรียนประจำทุกวัน ก่อนที่จะกลับมาทำงานรับจ้างภายในตลาดศรีเมืองราชบุรี

ช่วงแรกๆ ก็ไม่พบความผิดปกติ เพราะลูกสาวเป็นคนที่นิ่งๆ เงียบๆ แต่ก็ยอมรับว่าซน และมาเมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) ตนก็แต่งตัวให้ลูกสาวไปโรงเรียนด้วยชุดพละและก็ไปทำงาน ช่วงเย็นก็กลับไปรับมาส่งไว้ที่บ้านของยาย แต่ก็ยังไม่มีอะไรผิดสังเกต พอช่วงค่ำ ลูกสาวบ่นว่าปวดก้น เจ็บก้น ตนก็คิดว่าลูกคงไปซนก้นกระแทกมาหรือเปล่า พอยายตะโกนถามคล้ายๆ กับแซวเล่นๆ กับหลานว่า ไปลื่นล้มมาใช่ไหม ลูกสาวก็ไม่ตอบได้แต่เงียบ พอยายถามว่าหรือโดนครูตี ลูกสาวก็ร้องไห้ออกมา ตนจึงไปดูก้นก็พบรอยเขียวช้ำ ถึงกับน้ำตาไหลออกมาทันที

จากนั้นจึงสอบถามลูกสาวทราบว่าถูกครูทำโทษเพราะลืมอ่านหนังสือ อ่านไม่ทันเพื่อน จึงครูใช้ไม้เรียวพันผ้าเทปตีอย่างแรง ซึ่งลูกสาวบอกว่าไม่อยากจะกลับไปเรียนแล้ว หลังจากนั้นตนจึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับนายจ้าง ก่อนนำเรื่อวราวดังกล่าวไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว และอยากวอนให้เป็นอุทาหรณ์กับผู้ปกครองหลายๆ คน ที่จะนำลูกหลานไปฝากเรียนไว้ที่สถานศึกษาใด กลับถึงบ้านขอให้มีการตรวจสอบร่างกายทุกวัน และพยายามพูดคุยและสอบถามบุตรหลานว่าวันนี้ถูกทำโทษอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้ครูใช้ไว้เรียวตีเพื่อทำโทษ แต่ทำไมต้องตีถึงขั้นนี้ เป็นใครๆ ก็รับไม่ได้ หัวอกความเป็นแม่ถึงลูกจะซนแค่ไหนก็ไม่ตีถึงขนาดนี้ โดยตนได้ทำเรื่องย้ายโรงเรียนแล้ว เพราะลูกสาวหวาดกลัวที่จะกลับไปเรียนอีก

ขณะที่นายทรงสิทธิ์ ศิลปะธารากุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รักษาการผู้อำนวยการ สพป.ราชบุรี เขต 1 กล่าวว่า เบื้องต้นได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยผู้อำนวยการได้รายงานว่า ครูคนดังกล่าวได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว และก็ให้มาช่วยสอนนักเรียนมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเป็นครูเก่า และก็ตามระเบียบแล้วการลงโทษเด็กเดี๋ยวนี้ไม่มีการใช้ไม้เรียวแล้ว แต่ครูท่านนี้เป็นครูเก่าคงจะมีความเคยชิน แล้วก็เด็กเพิ่งจะย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้ได้ไม่นาน เวลาครูสอนแล้วเด็กก็มีการเล่น ครูห้ามไม่ฟังก็เลยได้ลงโทษด้วยการใช้ไม้เรียวตีไปโดยไม่ทราบสาเหตุว่าตีแรงขนาดไหน

เมื่อเด็กกลับไปบ้านแล้วผู้ปกครองเห็นเป็นรอยก็เลยได้มาที่โรงเรียน ก็มาพบกับคุณครู และก็พบท่านผู้อำนวยการ ได้พูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ทีแรกก็จะให้ค่าทำขวัญแต่ว่าทางผู้ปกครองก็ไม่ได้เรียกร้องใดๆ และคุณครูก็ได้ขอโทษผู้ปกครองไปแล้วว่าได้ทำเกินกว่าเหตุไป แต่จากการที่คุณครูเป็นครูเก่าและเป็นคนพื้นที่อาจจะมีการใช้สื่อสารไปโดยไม่ได้ระวังคำพูดทำให้ผู้ปกครองติดใจจึงได้นำไปโพสต์ลงในโซเชียล ในส่วนที่มีการท้ากันให้ไปแจ้งความเรื่องนี้บางทีก็ไม่ถูกต้อง แต่ก็ได้มีการพูดคุยกันจนเข้าใจกันแล้ว

ทั้งนี้ทาง สพป.ราชบุรี เขต 1 ก็ได้กำชับไปทางโรงเรียนโดยทางผู้อำนวยการโรงเรียน ให้ไปประชุมครูที่โรงเรียนว่าต่อไปห้ามลงโทษเด็กด้วยการเฆี่ยนตีเป็นอันขาด ลงโทษได้เพียงว่ากล่าวตักเตือน ทำทันบน หรือตัดคะแนน ให้ทำกิจกรรม เท่านั้น ส่วนเรื่องกรณีที่นักเรียนถูกครูตีจนเป็นรอยเขียวช้ำได้ให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้ทำรายงานชี้แจงมายัง สพป.ราชบุรี เขต 1 แล้วอย่างเร่งด่วน